ภายหลังการเปิดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายอาหารและผลไม้ไทย (Thai Food and Fruits Fiesta)นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลสรุปการเจรจาการค้าและการจับคู่ธุรกิจที่บังกาลอร์ และไฮเดอราบัด ประเทศอินเดีย โดยระบุว่า การเดินทางมารอบนี้ได้นำผู้ประกอบการมา 80 รายมาบุกเมืองบังกาลอร์และไฮเดอราบัด สามารถข่วยในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยได้อย่างประสบความสำเร็จ ด้วนการใช้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลอินเดีย ได้แก่ นโยบาย housing for all สำหรับการส่งออกไม้ยางและวัสดุก่อสร้าง นโยบาย plastic ban สำหรับการส่งออกมันสำปะหลัง เพื่อทำพลาสติกชีสภาพ รวมทั้งการส่งออกอาหาร ผลไม้ เนื่องคนอินเดียชอบมาก เพราะอาหารคล้ายกัน สำคัญคือเราจะต้องเพิ่มการส่งเสริมการส่งออกสินค้าเหล่านี้มากขึ้น
และธุรกิจบริการ ร้านอาหาร ต้องประชาสัมพันธ์มากขึ้น โดยที่บังกาลอร์สามารถสร้างมูลค่าการค้าได้ ดังนี้คือ
1. ยาง 11,000 ลูกบาตรเมตร มูลค่า 100 ล้านบาท
2. มันสำปะหลัง 3,500 ตัน มูลค่า 72 ล้านบาท
3. กาวผง 1,200 ตัน มูลค่า 60 ล้านบาท
4. MOU สินค้าอื่นๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ อาหาร เคมีภัณฑ์ รวมมูลค่า 805 ล้านบาท
5. เปิดตัวสินค้าไทย 200 รายการใน Bigbasket.com เว็บขายของออนไลน์ใหญ่ที่สุดในอินเดีย คาดว่าในปีแรกจะสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
รวมมูลค่าการเจรจาทั้งหมดประมาณ 1,100 ล้านบาท
นายจุรินทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสพบกับรัฐมนตรีพาณิชย์ของรัฐเตลังกานา และได้มีความเห็นร่วมกันในการหาลู่ทางในการทำความตกลงระหว่างกระทรวงพาณิชย์และรัฐเตลังกานา เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งผมได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และกงสุลใหญ่ของไทยที่เมืองเจนไน เป็นผู้ประสานงานหลัก เพื่อกำหนดหัวข้อและประเด็นต่างๆ ของความร่วมมือ เช่น การอำนวยความสะดวกทางการค้า การตั้งศูนย์กระจายสินค้า
และที่ไฮเดอราบัด สามารถสรุปมูลค่าการเจรจาการค้าและการจับคธุรกิจได้ ดังนี้คือ
ไม้ยาง 1280 ลูกบาตรเมตร มูลค่า 17.5 ล้านบาท
ทีวี LCD 1280 เครื่อง มูลค่า 1500 ล้านบาท
เสื้อผ้า 100 ล้านบาท
แป้งมัน 1000 ตัน มูลค่า 18 ล้านบาท
และบริการด้านโลจิสติกส์ที่ช่วยการส่งออกของผู้ประกอบการรายย่อยของไทย ขยายการลงทุนมูลค่ารวม 50 ล้านบาท รวม 1685 ล้าน
รวมมูลค่ารวมของ 2 เมือง 2785 ล้านบาท
สำหรับ bigbasket.com เป็นแพล็ตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย คาดว่าจะขายได้ 50 ล้านบาทในปีแรก ห้างรีไลแอนซ์มี 10500 สาขาทั่วอินเดีย จะเริ่มงานผลไม้และอาหารไทยก่อนใน 25 สาขา และจะกระจายไปทั่วประเทศ จะสามารถกระจายสินค้าผักและผลไม้ได้ไปทั่วอินเดีย แล้วถัดจากนี้จะเดินทางไป ตะวันออกกลาง จัน แอฟริกาใต้ เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยต่อไป