Saturday, 28 December 2024 | 4 : 24 am
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Saturday, 28 December 2024 | 4 : 24 am
spot_img
เมืองไทยประกันชีวิต และ มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ออกหน่วยบริการตรวจวัดสายตาและมอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุต่อเนื่อง ปีที่ 6   •   “CIMB THAI TRIATHLON 2024” ไตรกีฬารักษ์โลก เปลี่ยนเสื้อไตรกีฬาสู่เสื้อนักเรียน ส่งมอบให้ ร.ร. และน้องๆ ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์   •   ออมสิน มอบของขวัญปีใหม่ 2568 ให้ลูกค้าที่มีประวัติชำระหนี้ดี รายละ 1,000 บาท   •   เลขาธิการ คปภ. นำทีมร่วมเวที IAIS 2024 ผลักดัน 4 แนวทางหลัก สะท้อนบทบาทเชิงรุก ขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยไทยสู่ระดับโลก พร้อมรับมือความท้าทายแห่งอนาคต   •   กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดกิจกรรมลูกค้าส่งท้ายปีอย่างเหนือระดับ มอบประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟบนเรือยอร์ช และกิจกรรมทางน้ำสุดเอ็กซ์ตรีม ณ Ocean Marina Yacht Club Pattaya   •   ภาคอุตสาหกรรมประกันชีวิต – ประกันภัย จับมือรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2568 พร้อมเปิดตัวกรมธรรม์ไมโครอินชัวรันส์   •   วิริยะประกันภัย พร้อมจ่ายสินไหมทดแทน กรณี อุบัติเหตุรถยนต์ชนประชาชน หน้าโรงเรียนบ้านดอนขวาง จ.นครราชสีมา   •   ฟิลลิปประกันชีวิต ร่วมกับ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) อำนวยความสะดวกคนไทยกลับบ้านปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ 2568   •   คปภ. ชี้แจง Copayment สัญญาประกันสุขภาพปี 2568 ย้ำ! มีผลเฉพาะผู้เข้าเงื่อนไขเท่านั้น   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมรณรงค์ความปลอดภัยการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568   •   ออมสิน เปิดลงทะเบียนโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” แล้ววันนี้ ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร www.gsb.or.th และแอปพลิเคชัน MyMo   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร ส่งพลังความรักมอบความสุขให้ทุกการเดินทางในงาน “รณรงค์ความปลอดภัยการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2568”   •   กสิกรไทย ประกาศผล AFTERKLASS Business Camp ปีที่ 5 ปั้นนักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อมโลดแล่นในอนาคต   •   “คปภ. – ภาคธุรกิจประกันภัย” ร่วมรณรงค์ความปลอดภัยการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2568ภายใต้แนวคิด “เดินทางปลอดภัย ประกันภัยพร้อมดูแล” (Be Safe Be Insured)   •   วิริยะประกันภัย สนับสนุน คปภ. “รณรงค์ความปลอดภัยการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2568”
spot_img

ดัชนีหอการค้าไทย-จีน คาดเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 โตต่อเนื่อง สัญญาณบวกส่งออก-ท่องเที่ยวฟื้น ดัน GDP ปี’ 64 โต 1.5-2.5%

หอการค้าไทย-จีน เผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไตรมาส 2/2564 ของไทยจะเติบโตต่อเนื่องรับอานิสงส์เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว ทั้งด้านการค้า และ การลงทุน เชื่อมั่นนักท่องเที่ยวกลับเข้าไทยหลังนโยบายฉีดวัคซีนทั่วประเทศ พร้อมชี้เศรษฐกิจไทยปี 64 คาดโต 1.5-2.5% จากดาวเด่นธุรกิจรายสาขา ทั้งธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจพืชผลการเกษตร ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจบริการสุขภาพ และธุรกิจเกษตรแปรรูป หนุนรัฐบาลไทยออกนโยบายเปิดประเทศแบบปลอดภัยให้ชัดเจน เพื่อต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ หอการค้าไทย-จีน และคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทำการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นด้วยการสำรวจความเห็นในรูปแบบออนไลน์ไปยังคณะกรรมการหอการค้าไทย-จีน เครือข่ายสมาพันธ์หอการค้าไทย-จีน และสมาคมธุรกิจต่างๆ กว่า 60 สมาคม ตลอดจนกลุ่มธุรกิจรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดกลาง และ ขนาดใหญ่และชาวจีนโพ้นทะเล ผ่านการประมวลผลข้อมูล Google Survey From

โดยแบบสอบถามประกอบด้วย 4 ส่วน คือ 1) ความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจไทย-จีน 2) ตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจไทย 3) ตัวชี้วัดปัจจัยเกื้อหนุน และ 4) ประเด็นเฉพาะกิจ หรือเหตุการณ์ จำนวน 409 คน ระหว่างวันที่ 18 – 26 กุมภาพันธ์ 2564 พบว่า ความเห็น 60.4% มีความมั่นใจต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนจีนในไตรมาสที่ 2 /2564 ที่จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แม้จะประสบปัญหาจากการระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ประกอบกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปี 2564 จะโตมากกว่า 8.1% ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทยจากการส่งออกและนำเข้าระหว่างไทยจีนที่จะฟื้นตัวมากขึ้น

“ปี 2564 เป็นปีที่ครบ 100 ปีแห่งการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และยังเป็นปีเริ่มต้นของการดำเนินงานแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (ปี 2564-2568 ) และจากการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนในช่วง วันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ยังได้กำหนดเป้าหมายหลักในแผนดังกล่าวโดยเฉพาะการกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ คาดว่า GDP จะเติบโตมากกว่า 6 %และ สามารถสร้างงานกว่า 11 ล้านตำแหน่งในเขตเมือง ฯลฯ และ 5 ปีข้างหน้าจีนจะยังคงส่งเสริมระบบพหุภาคี และจับมือกับพันธมติรทั่วโลกเพื่อส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันจึงเป็นสัญญาณที่บวกต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจโลกซึ่งรวมถึงไทยอีกด้วย” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ผลสำรวจกว่า 54.3% จึงมองว่าการส่งออกจากไทยไปจีนจะเพิ่มขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจของจีนที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง และ51.3% คาดว่าการนำเข้าของไทยจากจีนเริ่มเห็นทิศทางการฟื้นตัวเช่นกัน ขณะที่การลงทุนในไทยจากผลสำรวจ 81%ให้ความเห็นถึงแนวโน้มการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนจีนจะไม่ลดลง และมีทิศทางที่จะเพิ่มขึ้นขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้าประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันเป็นผลมาจากมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว รวมถึงการมีวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 รอบใหม่ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลจีนได้เริ่มมีการฉีดให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจรายสาขา ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ของปีนี้ จากการสำรวจให้น้ำหนักและมีความมั่นใจใน ธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจพืชผลการเกษตร ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจบริการสุขภาพ และธุรกิจเกษตรแปรรูป ทั้งนี้การคาดการณ์ต่อสถานการณ์ต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2564 พบว่า 49.9% ของผู้ให้ข้อมูลคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะโตอยู่ระหว่าง 1.5-2.5% โดยผู้ให้ข้อมูลยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยใน 5 ด้าน ประกอบไปด้วยการระบาดอย่างต่อเนื่องของโรคระบาดใหม่โควิด-19 ที่ต่อเนื่อง ไปจนถึงปี 2565 ปัญหาที่เกิดจากเสถียรภาพทางการเมืองโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะตกต่ำต่อเนื่อง หนี้ภาครัฐและหนี้ภาคครัวเรือน และประสิทธิภาพของวัคซีน

นอกจากนี้ตามความเห็น 82.4% ของผู้ตอบคำถามเห็นด้วยว่าการฉีดวัคซีนจะมีส่วนฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย และ52.8% เห็นด้วยว่าหากต่างชาติได้รับการฉีดวัคซีนแล้วสามารถเดินทางมายังประเทศไทยได้โดยไม่ต้องรับการกักตัว ส่วนการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เชื่อว่าจะนำไปสู่การปรับนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ผู้ให้ข้อมูล 47.9%ประเมินว่าไม่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย ขณะที่ 37.2% คิดว่าจะส่งผลทางบวกต่อเศรษฐกิจไทย

“ผลการสำรวจดัชนีเชื่อมั่นในไตรมาส 1และไตรมาส 2 เห็นแนวโน้มการขยายตัวทางการค้าไทยและจีนอย่างต่อเนื่องซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนโดยเดือนมกราคม 2564 การค้าไทย-จีนมีมูลค่า 7,579 ล้านเหรียญสหรัฐขยายตัว 6.11% โดยไทยส่งออกไปจีนมีมูลค่า 2,314 ล้านเหรียญสหรัฐ” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตามผลสำรวจความเชื่อมั่นฯ 85.09% เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีความจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขเร่งด่วน โดยเห็นว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย จึงสนับสนุนแนวทางการออกมาตรการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว และต้องการเข้ามาท่องเที่ยวและผักผ่อนในประเทศไทยโดยขอให้ภาครัฐบาลเร่งรัดการประกาศนโยบายออกมาให้ชัดเจนเพื่อผู้ประกอบการภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งหลายจะได้มีเวลาเตรียมตัวและนักท่องเที่ยวต่างชาติดังกล่าวจะได้มีเวลาวางแผนการท่องเที่ยวล่วงหน้า

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img