สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีมติให้ยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID – 19) ให้ฟุตบอลลีกอาชีพของไทย ตั้งแต่ระดับไทยลีก 1-4 เล่นในสนามแข่งขันแบบปิด โดยไม่มีแฟนบอลเข้าสนาม ซึ่งในเบื้องต้น จะมีผลตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563
โดยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2563 เวลา 13.00 น. สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีการประชุมด่วน เพื่อหารือเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID – 19) เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ กระทรวงสาธารณสุข ประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตราย ซึ่งส่งผลให้ รัฐมีอำนาจควบคุมการแพร่ระบาดของโรค, สามารถสั่งปิดสถานที่ต่างๆ, สั่งหยุดงาน และมีอำนาจกักตัวผู้ต้องสงสัย
ซึ่งการประชุมครั้งนี้ นำโดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัดเป็นประธาน พร้อมด้วย คุณศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ว่าที่อุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขัน, คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และ คุณไพฤทธิ์ ต้านไพรี หัวหน้าฝ่ายควบคุมการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด เข้าร่วม
โดยภายในการประชุม ได้มีมติให้ยกระดับมาตรการป้องกัน จากเดิมที่อยู่ในระดับเฝ้าระวัง และคัดกรอง ตามข้อตกลงในที่ประชุมเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ให้เป็นระดับที่ 2 ซึ่งก็คือ “แข่งขันแบบปิด”
พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า “การประชุมครั้งนี้ เกิดขึ้น หลังจากที่ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข ให้โรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออันตราย”
“ดังนั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะผู้ดูแลการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ รายการไทยลีก 1-4 จึงต้องมีมาตรการในการป้องกัน ไม่ให้มีการแพร่ระบาดออกไป เนื่องจากกีฬาฟุตบอล เป็นกีฬาที่เกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก มีนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ทำงาน รวมถึงแฟนบอลที่เข้าชมเกมหลายพันคน”
“และจากการที่ราชกิจจานุเบกษา มีกาารเผยแพร่ประกาศออกมา สมาคมฯ ก็ต้องตอบสนองแนวทางการปฏิบัติของรัฐ ด้วยการยกระดับมาตรการป้องกัน ให้ฟุตบอลระดับสโมสร ทุกรายการ ลงเล่นแบบปิด ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมเป็นต้นไป จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม หลังจากนั้น เราจะมีการพิจารณาในลำดับต่อไป ส่วนในระดับทีมชาตินั้น เราต้องรอดูแนวทางจากเอเอฟซี ในการประชุมวันจันทร์นี้ ว่าจะมีมาตรการอย่างไร”
“อย่างไรก็ดี จะยังมีการถ่ายทอดสดให้ชมกันเช่นเดิม และจะมีการเผยรายละเอียดอีกครั้ง ว่าใครจะสามารถเข้าไปยังสนามแข่งขันได้ ในช่วงระหว่างที่มีการแข่งขันแบบปิด”