นางวรางค์ ไชยวรรณ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้เอาประกัน บริษัทฯ จึงกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เอาประกัน รวมถึงเพื่อให้สอดคล้องกับนโนยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ประกอบด้วย
กรณีกรมธรรม์ของผู้เอาประกันครบกำหนดระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกัน ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 บริษัทฯ จะขยายเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยฯ ออกไปอีก 60 วัน นับจากวันครบระยะเวลาผ่อนผันเดิม โดยในช่วงระยะเวลาผ่อนผันดังกล่าว ผู้เอาประกันยังสามารถใช้สิทธิ์ในการเรียกร้องสินไหมทดแทนได้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ทุกกรณี รวมถึงการใช้ Fax Claim
ส่วนกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สิ้นผลบังคับ ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 หากผู้เอาประกันขอต่ออายุกรมธรรม์หรือกลับคืนสู่สถานะเดิมของกรมธรรม์ภายใน 6 เดือน บริษัทฯ จะยกเว้นดอกเบี้ยเบี้ยประกัน และกรณีกรมธรรม์แบบรายงวดที่มีการนำมูลค่าเวนคืนมาชำระเบี้ยประกันโดยอัตโนมัติ หากผู้เอาประกันติดต่อชำระเบี้ยฯ ภายใน 6 เดือน บริษัทฯ จะยกเว้นดอกเบี้ยเบี้ยประกันให้เช่นกัน
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีความห่วงใยในความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้เอาประกัน พนักงาน ฝ่ายขาย ตลอดจนบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง จึงดำเนินนโยบายเชิงป้องกัน โดยบรรจุมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในแผนบริหารความเสี่ยงขององค์กร และแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดนโยบายและแนวทางการปฏิบัติในด้านต่างๆ ได้แก่ การปฏิบัติตัวของผู้บริหาร พนักงานสำนักงานใหญ่-สาขา และบุคลากรฝ่ายขาย การยืดหยุ่นของเวลาทำงาน การแบ่งช่วงเวลาพักกลางวันของพนักงาน การตัดสินใจการอพยพในกรณีเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน และการคัดกรองบุคคลเข้าภายในอาคาร
โดยมาตรการหลัก อาทิ ห้ามพนักงานเดินทางไปยังต่างประเทศทุกประเทศ กรณีมีความจำเป็นต้องเดินทาง ให้แจ้งความจำเป็นและรายละเอียดการเดินทางเพื่อขออนุมัติเป็นรายกรณี ส่วนพนักงานหรือฝ่ายขายที่เดินทางกลับหรือผ่านแดนประเทศ (Transit) จากประเทศที่มีการแพร่ระบาดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้กักตัว (Quarantine) และปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from Home) จนครบ 14 วัน นับแต่วันที่เดินทางกลับ ทั้งนี้ ในระหว่างปฏิบัติงานที่บ้าน ต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เช่น อยู่ภายในบ้านเท่านั้น สวมใส่หน้ากากอนามัย แยกของใช้ส่วนตัวออกจากผู้อื่น เป็นต้น เมื่อกักตัวครบ 14 วัน ให้พบแพทย์เพื่อตรวจอาการ หากไม่พบการติดเชื้อหรือต้องสงสัยติดเชื้อ สามารถกลับมาปฏิบัติงานได้ตามปกติ แต่ต้องสวมหน้ากากอนามัยระหว่างปฏิบัติงานต่อเนื่องอีก 14 วัน
กรณีพนักงานหรือฝ่ายขายมีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก ร่วมกับอาการของระบบทางเดินหายใจ ให้รีบพบแพทย์ และแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบทันที กรณีคนในครอบครัวของพนักงานหรือฝ่ายขายติดเชื้อ หรือต้องสงสัยติดเชื้อ ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบทันที และต้องกักตัวเอง 14 วันเช่นเดียวกัน
นางวรางค์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการการป้องกันภายในอาคาร บริษัทฯ กำหนดจุดเข้าออกอาคารไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่ จำนวน 3 จุด พร้อมติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายแบบอินฟราเรด เพื่อคัดกรองผู้ที่จะเข้าในอาคาร ติดตั้งเครื่องให้บริการแอลกอฮอล์เจล หน้ากากอนามัยตามจุดต่างๆ การทำความสะอาดบริเวณเคาน์เตอร์ให้บริการผู้เอาประกัน ลิฟต์ สุขา อย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ รวมถึงรณรงค์ให้พนักงานและฝ่ายขายกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ซึ่งมาตรการเหล่านี้เป็นไปตามแผนป้องกันของคณะทำงานฯ ที่ใส่ใจและให้ความสำคัญในความปลอดภัยของสุขอนามัยของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สอดรับกับนโยบายการดำเนินธุรกิจที่ตระหนักถึงคุณค่าของทุกชีวิต