‘มูลนิธิมาดามแป้ง’ กับการบูรณาการความช่วยเหลือสู้วิกฤตโควิด-19 ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป รวมถึงความต้องการของสังคมและประชาชน โดยเน้นการทำงานในเชิงรุกอย่างรวดเร็วผ่านกลุ่มอาสากล้าใหม่
วิกฤตผู้ติดเชื้อ New High ไร้เตียงรักษา ทำให้เกิด Home Isolation การกักตัวที่บ้านของผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียว เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งยังมีผู้ป่วยบางกลุ่มที่ไม่สามารถทำได้ ด้วยพื้นที่จำกัดและมีสมาชิกอาศัยภายในบ้าน จึงเกิด Community Isolation ขึ้น หรือการแยกกักตัวผู้ป่วยโควิด-19 ในชุมชน โดย รพ.รามาธิบดี ได้ตั้งศูนย์ชุมชนร่วมใจต้านโควิด ณ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี เพื่อให้การดูแลกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบโรงพยาบาล และเขตราชเทวี กว่า 200 ราย
ทั้งนี้ มูลนิธิมาดามแป้ง ได้ ส่งมอบชุด Antigen Test Kit จำนวน 3,000 ชุด แก่ รพ.รามาธิบดี เพื่อใช้คัดกรองและประเมินอาการตลอดในช่วงกักตัว พร้อมด้วยอุปกรณ์จำเป็นสำหรับผู้ป่วยแรกเข้ากักตัว จำนวนอีก 200 ชุด นอกจากนี้ ได้ส่งทีมอาสากล้าใหม่มูลนิธิฯ ร่วมช่วยเหลือภารกิจในการปรับปรุง และจัดเตรียมสถานที่ เพื่อแบ่งเบาภารกิจของบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล
‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง กล่าวว่า “เราจะบูรณาการความช่วยเหลือในทุกรูปแบบที่จะสามารถทำได้ จึงส่งทีมอาสาที่ขณะนี้มีผู้สมัครแล้วทั่วประเทศ ลงช่วยหน้างานตั้งแต่วันแรก ทั้งการขนย้าย ทำความสะอาด การอำนวยความสะดวก ด้านอาหาร ทุกอย่างที่เราจะช่วยได้เพื่อแบ่งเบางานบางอย่างจากบุคลากรโรงพยาบาล ให้มีความพร้อมรับผู้ป่วยจากชุมชนตามกำหนด”
ด้าน รศ. ดร.พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งดูแลศูนย์ชุมชนร่วมใจต้านโควิดแห่งนี้ กล่าวว่า “เราดีใจมากที่มีคนมาช่วย ไม่ใช่เฉพาะสิ่งของที่มีความจำเป็นต่อผู้ป่วยเท่านั้น แต่เมื่อเราต้องการกำลังคน น้อง ๆ อาสาจากมูลนิธิฯ ก็มาทันทีทุกวัน มาช่วยจัดเตรียมสถานที่จนศูนย์ฯ สามารถให้บริการคนในชุมชนได้ เป็นน้ำใจที่คนทำงานรู้สึกประทับใจ และเป็นพลังที่จะช่วยประชาชนต่อไป”
สำหรับ Community Isolation โดย รพ.รามาธิบดี แห่งนี้ จะรองรับผู้ป่วยใน 24 ชุมชนของแขวงทุ่งพญาไท ซึ่งมีกว่า 200 ราย ที่ไม่สามารถกักตัวเองที่บ้านได้ โดยมูลนิธิมาดามแป้ง จะจัดทีมอาสากล้าใหม่ร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ตลอด 1 เดือน ทั้งการสนับสนุนอาหารครัวมาดามแก่อาสาชุมชน และเป็นผู้ช่วยผู้ป่วยในการรายงานอาการประจำวันแก่ทีมแพทย์ เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ