เริ่มแล้ว Cat Expo Thailand 2025 วันแรก ‘ทาสแมว’ แห่ร่วมงานคึกคัก คาดเม็ดเงินสะพัด 120 ล้านบาท!   •   คีย์ อินโนเวธ ผสานพลังเยาวชน อัสสัมชัญ บางรัก มอบนวัตกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแก่ กอ.รมน. สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนในพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมทั่วประเทศ   •   ธ.ก.ส. เสิร์ฟโปรโมชันพิเศษมากมาย บุก Thailand Smart Money กรุงเทพฯ พร้อมเปิดตัว Art Toy ชุด Agri Animal ตัว Secret   •   กรุงเทพประกันภัย ครองอันดับความน่าเชื่อถือ A- (Stable) จาก S&P อย่างต่อเนื่อง   •   TOA ไม่ทิ้งกัน รวมพลัง ‘ทีโอเอ อาสา’ เดินหน้าฟื้นฟูชาวใต้หลังน้ำลด ส่งมอบถุงยังชีพ – สิ่งของบรรเทาทุกข์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เต็มสูบ   •   เมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล “The Digital Insurance APAC 2025 – AI Initiative of the Year” จากผลงาน Chompoo Chatbot จุดประกายวิสัยทัศน์องค์กรแห่งอนาคตด้วยพลังของ AI   •   ไทยกรุ๊ปฯ จัดงาน A ROOT by Thai Group รีเฟรชกายใจ ส่งท้ายปี เติมพลังสุขรับปีใหม่A   •   อลิอันซ์ อยุธยา ส่งมอบความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ พร้อมทั้งดูแลลูกค้าในพื้นที่อย่างใกล้ชิด   •   มูลนิธิกรุงศรี สนับสนุน มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ร่วมสร้างรอยยิ้มใหม่ให้กับเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่   •   ออมสิน น้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่ 9   •   GC ประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดใหม่ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากนักลงทุน เสริมแกร่งโครงสร้างเงินทุนระยะยาว รองรับการเติบโตธุรกิจมูลค่าสูง-คาร์บอนต่ำ   •   BAM ผนึก Agentplus–MBKG เดินหน้าโมเดล “NPAs Smart Agent” เร่งระบายทรัพย์–ต่อยอดสินเชื่อครบวงจร   •   ไทยประกันชีวิต – คปภ. ร่วมส่งความช่วยเหลือ ด่วน! เพื่อพี่น้องชาวใต้   •   คปภ. ออกมาตรการเร่งด่วน! ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ สั่งทุกบริษัทส่งรถยกฟรี–เร่งจ่ายสินไหมใน 7 วัน   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย มอบผ้าห่ม 700 ผืน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
spot_img
spot_img

4Quarter.co

spot_img
เริ่มแล้ว Cat Expo Thailand 2025 วันแรก ‘ทาสแมว’ แห่ร่วมงานคึกคัก คาดเม็ดเงินสะพัด 120 ล้านบาท!   •   คีย์ อินโนเวธ ผสานพลังเยาวชน อัสสัมชัญ บางรัก มอบนวัตกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแก่ กอ.รมน. สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนในพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมทั่วประเทศ   •   ธ.ก.ส. เสิร์ฟโปรโมชันพิเศษมากมาย บุก Thailand Smart Money กรุงเทพฯ พร้อมเปิดตัว Art Toy ชุด Agri Animal ตัว Secret   •   กรุงเทพประกันภัย ครองอันดับความน่าเชื่อถือ A- (Stable) จาก S&P อย่างต่อเนื่อง   •   TOA ไม่ทิ้งกัน รวมพลัง ‘ทีโอเอ อาสา’ เดินหน้าฟื้นฟูชาวใต้หลังน้ำลด ส่งมอบถุงยังชีพ – สิ่งของบรรเทาทุกข์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เต็มสูบ   •   เมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล “The Digital Insurance APAC 2025 – AI Initiative of the Year” จากผลงาน Chompoo Chatbot จุดประกายวิสัยทัศน์องค์กรแห่งอนาคตด้วยพลังของ AI   •   ไทยกรุ๊ปฯ จัดงาน A ROOT by Thai Group รีเฟรชกายใจ ส่งท้ายปี เติมพลังสุขรับปีใหม่A   •   อลิอันซ์ อยุธยา ส่งมอบความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ พร้อมทั้งดูแลลูกค้าในพื้นที่อย่างใกล้ชิด   •   มูลนิธิกรุงศรี สนับสนุน มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ร่วมสร้างรอยยิ้มใหม่ให้กับเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่   •   ออมสิน น้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่ 9   •   GC ประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดใหม่ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากนักลงทุน เสริมแกร่งโครงสร้างเงินทุนระยะยาว รองรับการเติบโตธุรกิจมูลค่าสูง-คาร์บอนต่ำ   •   BAM ผนึก Agentplus–MBKG เดินหน้าโมเดล “NPAs Smart Agent” เร่งระบายทรัพย์–ต่อยอดสินเชื่อครบวงจร   •   ไทยประกันชีวิต – คปภ. ร่วมส่งความช่วยเหลือ ด่วน! เพื่อพี่น้องชาวใต้   •   คปภ. ออกมาตรการเร่งด่วน! ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ สั่งทุกบริษัทส่งรถยกฟรี–เร่งจ่ายสินไหมใน 7 วัน   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย มอบผ้าห่ม 700 ผืน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
spot_img

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว

  • รถยนต์รุ่นที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไปจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น
  • ในปี 2568 เมอร์เซเดส-เบนซ์จะเปิดตัวโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 3 แบบ
  • เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวปลายทศวรรษนี้ ในช่วงเวลาที่สภาวะตลาดเอื้ออำนวย
  • เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมผลิตแบตเตอรี่ความจุมากกว่า 200 กิกะวัตต์ชั่วโมงร่วมกับพันธมิตร พร้อมวางแผนขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ 8 แห่ง
  • จับมือพันธมิตรใหม่เพื่อพัฒนาและผลิตเซลล์แบตเตอรี่ในยุโรป
  • พัฒนาประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าผ่านการบูรณาการในแนวดิ่งและการเข้าซื้อกิจการของ YASA ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านมอเตอร์แกนฟลักซ์ที่มีประสิทธิภาพสูงพิเศษ
  • Plug & Charge เตรียมแนะนำการชาร์จที่ราบรื่นโดยไม่ต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติมในการตรวจสอบและการชำระเงิน Mercedes me Charge จะมีจุดชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับและกระแสตรงมากกว่า 530,000 จุดทั่วโลก
  • การเร่งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการจัดสรรเงินลงทุน
  • เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายในการทำกำไร พร้อมกับเป้าหมายในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

เมอร์เซเดส-เบนซ์เตรียมความพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวภายในทศวรรษนี้ ในช่วงเวลาที่สภาวะตลาดเอื้ออำนวย โดยปรับกลยุทธ์จาก “รถยนต์ไฟฟ้านำ” (electric-first) เป็น “รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น” (electric-only) โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในฐานะบริษัทรถยนต์ระดับลักชัวรีแถวหน้าของโลก พร้อมเดินหน้าสู่โลกที่ปราศจากการปล่อยมลพิษและอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์

ทั้งนี้ ภายในปี 2565 เมอร์เซเดส-เบนซ์จะมีรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ (BEV) ในทุกเซกเมนต์รถยนต์ของบริษัท และนับตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป รถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกมาทั้งหมดจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น โดยลูกค้าจะสามารถเลือกรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้ทุกรุ่นที่บริษัทผลิตขึ้น ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์มีความตั้งใจที่จะเร่งความเร็วในการปรับกลยุทธ์โดยยังคงเป้าหมายเดิมในการทำกำไร

“ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเซกเมนต์รถยนต์ระดับลักชัวรีที่มีเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นผู้นำ จุดเปลี่ยนกำลังใกล้เข้ามาและเรามีความพร้อมที่จะตอบรับความเปลี่ยนแปลงของตลาดโดยการมุ่งสู่การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเท่านั้นภายในสิ้นทศวรรษนี้” มร.โอลา คัลเลเนียส ประธานบริหาร เดมเลอร์ เอจี และเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี กล่าว

“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยังหมายรวมถึงการจัดสรรเงินลงทุนใหม่ ภายใต้การจัดการการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรักษาเป้าหมายในการทำกำไรของเราตามเดิม เพื่อการันตีความสำเร็จที่ยั่งยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งผมต้องขอขอบคุณพนักงานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่เพียบพร้อมด้วยประสบการณ์และความมุ่งมั่น ช่วยให้เรามั่นใจว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์จะประสบความสำเร็จในการก้าวสู่ยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้นของวงการรถยนต์ในอนาคต”

และเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เปิดเผยแผนกลยุทธ์ที่มีความครอบคลุม โดยหมายรวมถึงการเร่งรัดการทำวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจัง โดยสำหรับการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ระหว่างปี 2565 ถึง 2573 จะมีมูลค่ามากกว่า 40,000 ล้านยูโร การเร่งรัดและพัฒนาแผนพอร์ตโฟลิโอของรถยนต์ไฟฟ้ายังนับเป็นจุดเปลี่ยนของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่แท้จริง

แผนกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี

โครงสร้างรถยนต์: ในปี 2568 เมอร์เซเดส-เบนซ์จะเปิดตัวโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 3 แบบ ได้แก่:

  • MB.EA ครอบคลุมรถยนต์นั่งขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ทั้งหมด โดยสร้างระบบโมดูลาร์ที่ปรับขนาดได้เพื่อเป็นแกนหลักไฟฟ้าสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ในอนาคต
  • AMG.EA จะเป็นแพลตฟอร์มของรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงสำหรับลูกค้า Mercedes-AMG ที่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องเทคโนโลยีและสมรรถนะ 
  • VAN.EA เปิดประตูสู่ยุคใหม่ของรถตู้ไฟฟ้าและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการขนส่งและเมืองที่ปลอดมลพิษในอนาคต

การบูรณาการในแนวดิ่ง: หลังการปรับระบบส่งกำลังใหม่เพื่อให้การวางแผน การพัฒนา การจัดซื้อ และการผลิตสอดคล้องในระนาบเดียวกัน เมอร์เซเดส-เบนซ์จะยกระดับการบูรณาการในแนวดิ่งในด้านการผลิตและการพัฒนา ตลอดจนเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่ผลิตเองภายใน ขั้นตอนนี้หมายรวมถึงการเข้าซื้อกิจการบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่จากสหราชอาณาจักรอย่าง YASA ด้วย ซึ่งจะช่วยให้เมอร์เซเดส-เบนซ์สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีมอเตอร์ฟลักซ์แนวแกนที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงความเชี่ยวชาญในการพัฒนาแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษเจเนอเรชันต่อไป แบตเตอรี่ไฟฟ้าที่ผลิตภายใน อาทิ eATS 2.0 เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์นี้ที่มุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพและต้นทุนโดยรวมของระบบทั้งหมด ซึ่งรวมถึงอินเวอร์เตอร์และซอฟต์แวร์ ประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่ตั้งของบริษัทและซัพพลายเออร์หลายร้อยแห่งที่เชี่ยวชาญด้านส่วนประกอบรถยนต์ EV และเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ ซึ่งคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการเร่งกลยุทธ์การมุ่งสู่การสร้างรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์

แบตเตอรี่: เมอร์เซเดส-เบนซ์ต้องมีกำลังการผลิตแบตเตอรี่มากกว่า 200 กิกะวัตต์ชั่วโมง โดยวางแผนที่จะตั้งโรงงาน Gigafactory จำนวน 8 แห่งเพื่อผลิตแบตเตอรี่ร่วมกับพันธมิตรทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่เพิ่มเข้ามาจากเครือข่ายของโรงงานผลิตระบบแบตเตอรี่ 9 แห่งที่ได้วางแผนไว้ก่อนแล้ว แบตเตอรี่เจเนอเรชันต่อไปจะมีมาตรฐานสูงและเหมาะสำหรับใช้ในรถยนต์และรถตู้ของเมอร์เซเดส-เบนซ์กว่า 90% มอบความยืดหยุ่นที่มากพอต่อการนำเสนอโซลูชั่นเฉพาะบุคคลให้กับลูกค้าทุกคน ในส่วนของการผลิตแบตเตอรี่ เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความตั้งใจที่จะร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ในยุโรปเพื่อพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่และโมดูลในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ทำให้มั่นใจว่า ยุโรปยังคงเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ต่อไปในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า การผลิตแบตเตอรี่ยังช่วยให้เมอร์เซเดส-เบนซ์มีโอกาสได้ปรับเปลี่ยนเครือข่ายการผลิตระบบส่งกำลังที่มีอยู่เดิม และด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ล้ำหน้าที่สุดในรถยนต์และรถตู้ที่พัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่อง เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงตั้งเป้าหมายที่จะขยายระยะการใช้งานของวงจรชีวิตในการผลิตแบตเตอรี่แต่ละรุ่น ซึ่งสำหรับแบตเตอรี่เจเนอเรชันต่อไป เมอร์เซเดส-เบนซ์จะทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่าง SilaNano เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานต่อไปโดยใช้คอมโพสิตซิลิกอนคาร์บอนในแอโนด ซึ่งจะช่วยให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาในการใช้งานที่นานขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ในขณะที่ใช้เวลาในการชาร์จสั้นลง สำหรับเทคโนโลยีโซลิดสเตต เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังเจรจากับพันธมิตรเพื่อพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีความหนาแน่นของพลังงานและความปลอดภัยที่สูงขึ้น

การชาร์จ: เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังเริ่มต้นกำหนดมาตรฐานใหม่ในการชาร์จที่เรียกว่า “Plug & Charge” ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเสียบปลั๊ก ชาร์จ และถอดปลั๊กโดยไม่ต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติมในการตรวจสอบและการชำระเงิน Plug & Charge จะเปิดตัวพร้อมกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่น EQS ในปีนี้ ทั้งนี้ Mercedes me Charge เป็นหนึ่งในเครือข่ายการชาร์จที่ใหญ่ที่สุดในโลก และปัจจุบันประกอบด้วยจุดชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับและกระแสตรงมากกว่า 530,000 จุดทั่วโลก นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังทำงานร่วมกับบริษัทเชลล์ในการขยายเครือข่ายการชาร์จ ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงเครือข่ายการชาร์จแบตเตอรี่ของเชลล์ได้ดียิ่งขึ้นผ่านจุดชาร์จมากกว่า 30,000 จุดภายในปี 2568 ทั้งในยุโรป จีน และอเมริกาเหนือ รวมถึงจุดชาร์จพลังงานสูงกว่า 10,000 จุดทั่วโลก เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังวางแผนที่จะเปิดตัวสถานที่ชาร์จระดับพรีเมียมหลายแห่งในยุโรป เพื่อมอบประสบการณ์การชาร์จแบบเฉพาะตัวด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นที่สุด

VISION EQXX: เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา Vision EQXX รถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้จริงด้วยระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตรโดยกำหนดเป้าหมายเป็นตัวเลขหลักเดียวสำหรับกิโลวัตต์ชั่วโมง ต่อ 100 กิโลเมตร (มากกว่า 6 ไมล์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง) ที่ความเร็วปกติในการขับขี่บนทางหลวง ทีมงานจากหลากหลายสาขา รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากแผนก F1 High Performance Powertrain (HPP) ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กำลังทำงานรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วด้วยความมุ่งมั่นเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่มีความทะเยอทะยานของโครงการ ซึ่งพร้อมจะเปิดตัวให้ได้ชมกันทั่วโลกในปี 2565 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มีอยู่ใน Vision EQXX จะถูกดัดแปลงและนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการใช้งานในโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ

แผนการผลิต

เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังเตรียมเครือข่ายการผลิตทั่วโลกสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น (electric-only) ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ซึ่งด้วยการลงทุนในระยะเริ่มต้นในการผลิตที่มีความยืดหยุ่นและระบบการผลิต MO360 ที่ทันสมัย ​​ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์สามารถผลิตรถยนต์ BEV จำนวนมากได้แล้วในวันนี้ และไม่เกินปีหน้า รถยนต์ไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ 8 รุ่นจะถูกผลิตจากโรงงาน ผลิต 7 แห่งใน 3 ทวีป นอกจากนี้ โรงงานประกอบรถยนต์และแบตเตอรี่ทั้งหมดที่ดำเนินการโดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี จะเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตที่ปราศจากคาร์บอนภายในปี 2565 และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ผนึกกำลังกับ GROB ผู้นำระดับโลกด้านการผลิตแบตเตอรี่และระบบอัตโนมัติของเยอรมนี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทั้งในเรื่ององค์ความรู้และกำลังการผลิตแบตเตอรี่ ความร่วมมือครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่การประกอบโมดูลแบตเตอรี่และการประกอบแพ็ค นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังมีแผนที่จะเพิ่มโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่แห่งใหม่ในเมืองคุปเปนไฮม์ ประเทศเยอรมนี เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และรักษาความสามารถในการรีไซเคิล โดยจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2566 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลการเจรจาร่วมกับหน่วยงานของรัฐที่มีแนวโน้มในทางบวก

แผนกำลังคน

การเปลี่ยนจากเครื่องยนต์สันดาปภายในมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความพร้อมและกำลังดำเนินการอยู่ ภายใต้การทำงานร่วมกันกับตัวแทนพนักงาน เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมเดินหน้าเปลี่ยนแปลงด้านกำลังคนอย่างต่อเนื่อง โดยใช้แผนการปรับทักษะใหม่ที่มีความครอบคลุม การเกษียณอายุก่อนกำหนด และการเข้าซื้อกิจการ TechAcademies จะเสนอการฝึกอบรมเพื่อนร่วมงานสำหรับคุณสมบัติที่ต้องการสำหรับอนาคต ทั้งนี้ในปี 2564 เพียงปีเดียว พนักงานประมาณ 20,000 คนในเยอรมนีได้รับการฝึกอบรมด้านการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (e-mobility) เพื่อให้เป็นไปตามแผนสำหรับการพัฒนาระบบปฏิบัติการ MB.OS ที่จะมีการสร้างงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ใหม่กว่า 3,000 ตำแหน่งทั่วโลก

แผนการเงิน

เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงมุ่งมั่นต่อเป้าหมายในการทำกำไรที่กำหนดไว้ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2563 เป้าหมายของปีที่แล้วอิงจากการสันนิษฐานว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์จะสามารถขายรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าในสัดส่วน 25% ภายในปี 2568 ส่วนการปรับแผนในวันนี้จะอิงจากส่วนแบ่งของยอดขาย xEV ที่สันนิษฐานว่าจะสูงสุดถึง 50% ภายในปี 2568  รวมถึงสถานการณ์ในตลาดสำหรับการขายรถยนต์ใหม่ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายในสิ้นทศวรรษนี้ สิ่งที่สำคัญคือการเพิ่มรายได้สุทธิต่อหน่วยโดยการเพิ่มสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ เช่น Mercedes-Maybach และ Mercedes-AMG ในขณะเดียวกันกับที่เมอร์เซเดส-เบนซ์สามารถควบคุมราคาและการขายได้โดยตรงมากขึ้น รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริการด้านดิจิทัลจะช่วยสนับสนุนผลลัพธ์นี้ต่อไป เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังมุ่งหน้าลดต้นทุนทั้งต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงที่ต่อไป พร้อมทั้งลดส่วนแบ่งการลงทุนของเงินลงทุน แพลตฟอร์มแบตเตอรี่ทั่วไปและโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ปรับขนาดได้ รวมทั้งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ จะช่วยให้เกิดมาตรฐานที่สูงขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลง สัดส่วนต้นทุนแบตเตอรี่ภายในรถคาดว่าจะลดลงอย่างมาก การจัดสรรเงินทุนจะถูกปรับจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้านำ (EV-first) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น (EV-only) ส่วนการลงทุนในเครื่องยนต์สันดาปและเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด จะลดลง 80% นับจากปี 2562 ถึง 2569 ซึ่งภายใต้แนวความคิดทั้งหมดนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์คาดการณ์อัตรากำไรของบริษัทในยุคของรถยนต์ BEV จะอยู่ในอัตราเดียวกันกับยุคของเครื่องยนต์สันดาป

“หน้าที่หลักของเราในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือการโน้มน้าวให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนด้วยผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ รถยนต์รุ่นแฟลกชิปที่บุกเบิกตลาดอย่าง EQS จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการก้าวสู่ยุคใหม่ของวงการยานยนต์ในอนาคต” มร.โอลา คัลเลเนียส กล่าว

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้ "คุกกี้” เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน โดยใช้คุกกี้เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของท่าน
รายละเอียดเพิ่มเติม: นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy), ตั้งค่าคุกกี้ (Cookies Settings)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ วิเคราะห์การเข้าชม และนำเสนอโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของท่าน สามารถตั้งค่าความยินยอมโดย เปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้ท่านสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ ท่านไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เว็บไซต์สามารถจดจำตัวเลือกหรือการตั้งค่าต่างๆ ที่ท่านได้เลือกไว้ เช่น ภาษา ภูมิภาค หรือขนาดตัวอักษร เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทำให้ท่านไม่ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่เข้าใช้งานเว็บไซต์
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประสิทธิภาพ

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เราสามารถรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เช่น จำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์สำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น โดยข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมนั้นจะไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้ถูกตั้งค่าโดยพันธมิตรด้านโฆษณา เพื่อสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับความสนใจของท่านจากการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ สำหรับแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของท่านให้มากที่สุดทั้งบนเว็บไซต์ของเราและเว็บไซต์อื่นๆ หากไม่ยินยอม โฆษณาที่แสดงผลจะเป็นแบบทั่วไปซึ่งอาจไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    รายละเอียดคุกกี้

Save