เมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล “ประกาศเกียรติคุณจรรยาบรรณดีเด่น หอการค้าไทย” ประจำปี 2568 ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยจริยธรรม โปร่งใส ซื่อสัตย์ และยั่งยืน   •   ธ.ก.ส. ออก “เงินฝากก้าวแรก” ต่อยอดการออมโรงเรียนธนาคารและโรงเรียนเกษตรธนากรฝาก 9 เดือน รับดอกเบี้ยสูงสุดร้อยละ 1.59 ต่อปี   •   BAM จัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง   •   BAM ได้รับการคัดเลือกอยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” SET ESG Ratings ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยได้รับผลการประเมินที่ระดับ “AAA” ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน   •   BAM เปิดศูนย์เยียวยาสมานฉันท์ “BRC” เพิ่มโอกาสประชาชน-ลูกค้าทุกกลุ่มแก้หนี้อย่างเป็นธรรม ไม่จำกัดมูลหนี้   •   บัตรเครดิต UnionPay กสิกรไทย* และบัตรเงินด่วน Xpress Cash* ช่วยลดค่าใช้จ่ายคนเมือง! แตะจ่ายรถไฟฟ้า MRT ได้แล้ว รับส่วนลด 50% และจ่ายค่าทางด่วน รับส่วนลด 10 บาทต่อเที่ยว   •   กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต มอบถุงยังชีพ 300 ชุด  ให้แก่ศูนย์พักพิงประจำพื้นที่ 3 จังหวัด ช่วยบรรเทาทุกข์ประชาชน   •   คปภ. – ภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ขานรับนโยบายภาครัฐ หนุนโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ลดภาระค่ารักษาพยาบาล ให้ประชาชนเข้าถึงยาในราคาที่เป็นธรรม   •   BAM “ยกหนี้” ให้วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากเหตุการณ์ ความไม่สงบในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา   •   บริษัทกลางฯ รับรางวัลองค์กรที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ประจำปี 2568 “ระดับดีเด่น”   •   กคช. คว้ารางวัล “Friendly Design Awards 2025” ประเภทองค์กรส่งเสริมอารยสถาปัตย์ ขจัดความเหลื่อมล้ำในสังคม   •   เอไอเอ ประเทศไทย มอบทุนเกือบ 3 ล้านบาท หนุนโซลาร์เซลล์ให้ 9 โรงเรียนใน จ.ตาก สานต่อพันธกิจ AIA One Billion เพื่ออนาคตเด็กไทย   •   กคช. เพิ่มมาตรการช่วยผู้ประสบอุทกภัยสงขลา เปิดอาคารเช่ากว่า 100 ห้อง รองรับกลุ่มเปราะบางภายใต้นโยบาย “พม.ใกล้คุณ“   •   TOA ส่งมอบความสุข ‘SHARING HAPPINESS’ ปรับโฉมสนามเด็กเล่นให้น้องๆ บ้านราชาวดี (ชาย) จ.นนทบุรี ด้วยผลงานชนะเลิศ จากนิสิตสถาปัตย์ จุฬาฯ   •   คปภ. ลงพื้นที่หาดใหญ่ เร่งจ่ายสินไหมอุทกภัย ช่วยผู้เอาประกัน–SMEs อย่างเร่งด่วน
spot_img
spot_img

4Quarter.co

spot_img
เมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล “ประกาศเกียรติคุณจรรยาบรรณดีเด่น หอการค้าไทย” ประจำปี 2568 ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยจริยธรรม โปร่งใส ซื่อสัตย์ และยั่งยืน   •   ธ.ก.ส. ออก “เงินฝากก้าวแรก” ต่อยอดการออมโรงเรียนธนาคารและโรงเรียนเกษตรธนากรฝาก 9 เดือน รับดอกเบี้ยสูงสุดร้อยละ 1.59 ต่อปี   •   BAM จัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง   •   BAM ได้รับการคัดเลือกอยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” SET ESG Ratings ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยได้รับผลการประเมินที่ระดับ “AAA” ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน   •   BAM เปิดศูนย์เยียวยาสมานฉันท์ “BRC” เพิ่มโอกาสประชาชน-ลูกค้าทุกกลุ่มแก้หนี้อย่างเป็นธรรม ไม่จำกัดมูลหนี้   •   บัตรเครดิต UnionPay กสิกรไทย* และบัตรเงินด่วน Xpress Cash* ช่วยลดค่าใช้จ่ายคนเมือง! แตะจ่ายรถไฟฟ้า MRT ได้แล้ว รับส่วนลด 50% และจ่ายค่าทางด่วน รับส่วนลด 10 บาทต่อเที่ยว   •   กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต มอบถุงยังชีพ 300 ชุด  ให้แก่ศูนย์พักพิงประจำพื้นที่ 3 จังหวัด ช่วยบรรเทาทุกข์ประชาชน   •   คปภ. – ภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ขานรับนโยบายภาครัฐ หนุนโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ลดภาระค่ารักษาพยาบาล ให้ประชาชนเข้าถึงยาในราคาที่เป็นธรรม   •   BAM “ยกหนี้” ให้วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากเหตุการณ์ ความไม่สงบในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา   •   บริษัทกลางฯ รับรางวัลองค์กรที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ประจำปี 2568 “ระดับดีเด่น”   •   กคช. คว้ารางวัล “Friendly Design Awards 2025” ประเภทองค์กรส่งเสริมอารยสถาปัตย์ ขจัดความเหลื่อมล้ำในสังคม   •   เอไอเอ ประเทศไทย มอบทุนเกือบ 3 ล้านบาท หนุนโซลาร์เซลล์ให้ 9 โรงเรียนใน จ.ตาก สานต่อพันธกิจ AIA One Billion เพื่ออนาคตเด็กไทย   •   กคช. เพิ่มมาตรการช่วยผู้ประสบอุทกภัยสงขลา เปิดอาคารเช่ากว่า 100 ห้อง รองรับกลุ่มเปราะบางภายใต้นโยบาย “พม.ใกล้คุณ“   •   TOA ส่งมอบความสุข ‘SHARING HAPPINESS’ ปรับโฉมสนามเด็กเล่นให้น้องๆ บ้านราชาวดี (ชาย) จ.นนทบุรี ด้วยผลงานชนะเลิศ จากนิสิตสถาปัตย์ จุฬาฯ   •   คปภ. ลงพื้นที่หาดใหญ่ เร่งจ่ายสินไหมอุทกภัย ช่วยผู้เอาประกัน–SMEs อย่างเร่งด่วน
spot_img

KRUNGSRI EXCLUSIVE 2021 Mid-Year Outlook Series ส่งสัญญาณทิศทางความสำเร็จนักลงทุนผ่าน “วัคซีนความหวังฟื้นเศรษฐกิจไทย”

ต่อเนื่องกับการอัดแน่นข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เป็นประโยชน์สำหรับนักธุรกิจนักลงทุนที่ต้องการจะเดินหน้าไปต่อหลังสถานการณ์โควิด-19 กับการสัมมนาแบบนิวนอร์มอลครั้งใหญ่แห่งปีตลอดเดือนกรกฎาคม 2564 โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งครั้งนี้กรุงศรีได้เตรียมหัวข้อที่ทุกคนอยากรู้และต้องการคำตอบมากที่สุดอย่าง “วัคซีนความหวังฟื้นเศรษฐกิจไทย” ที่เนื้อหาดีต่อใจคนฟัง ทำให้รู้สึกมีพลังและเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ กับการให้ความเห็นเชิงวิเคราะห์เจาะลึก รายงานผลการศึกษา และส่งต่อคำแนะนำให้คำปรึกษาจากขุนพลการเงินระดับแนวหน้าของไทย โดยได้รับเกียรติจากสองผู้เชี่ยวชาญของกรุงศรี และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ร่วมให้ทัศนะถึงวัคซีนความหวังที่จะมีส่วนผลักดันการอยู่รอดและเพิ่มอัตราเร่งการเติบโตเศรษฐกิจไทย พร้อมเผยวิธีการจัดสรรเงินทุนพร้อมรับมือปัจจัยต่างๆ และแนวทางเลือกกลุ่มธุรกิจที่ “ฉายแวว” น่าลงทุนให้เจอ 

เรากำลังอยู่ท่ามกลางการระบาดของโควิดรอบใหม่และไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด นักลงทุนไทยจึงต้องเก็บเกี่ยวข้อมูลรอบด้านให้มากที่สุดเพื่อนำมาใช้ขับเคลื่อนและทำลายกับดักจากสถานการณ์โควิด-19 เปลี่ยนทุกวิกฤติให้เป็นโอกาสให้ได้ ซึ่ง ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยว่า ถึงแม้เราจะต้องอยู่กับสถานการณ์นี้ไปอีกสักพักใหญ่ แต่ในข่าวร้ายที่ไทยยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ภายในประเทศที่ส่งผลกระทบหนักกับภาคการบริโภคในประเทศ ภาคแรงงานและภาคบริการท่องเที่ยว เรากลับพบข่าวดีจากการกลับมาฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเช่นกัน 

ด้วยอิทธิพลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง อเมริกาและจีน แม้อาจจะมีสงครามการค้าและ Tech War ของทั้งสองประเทศที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ทั่วโลกรวมทั้งไทย บวกกับแนวโน้มที่เฟดยังไม่รีบร้อนขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยจะคงดอกเบี้ยต่ำไว้อย่างน้อย 2 ปี ค่าเงินบาทอ่อนลงมาที่ 31-32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ นั่นก็ทำให้เห็นอัตราการบริโภคที่จะเพิ่มขึ้นและเห็นความต้องการสินค้าส่งออกจากไทย จึงทำให้กลุ่มการส่งออกได้รับอานิสงส์อย่างมาก โดยตัวเลขส่งออกขณะนี้ยังสูงกว่าช่วงก่อนโควิดด้วยซ้ำ และคาดการณ์ว่ามูลค่าการเติบโตการส่งออกทั้งปีจะมากกว่า 10% อีกทั้งยังเห็นกระแสการลงทุนจากต่างประเทศที่ยังคงไหลเข้ามาในไทยอย่างไม่ขาดสาย ขณะเดียวกันก็เล็งเห็นทิศทางในการลงทุนของโลกกำลังเปลี่ยนไปบนพื้นฐานของ Digital Transformation มากขึ้น เกิดเป็นฐานการผลิตใหม่ที่ใช้ Robot หรือ Automation จึงมั่นใจได้ว่าจะมีการลงทุนใหม่ๆ ตอบสนองความต้องการหลังสถานการณ์โควิด-19  

นอกจากนั้นทางกรุงศรียังพบว่าสถิติการได้รับวัคซีนที่มากขึ้นและอัตราการป่วยรุนแรงลดลงในต่างประเทศ มีนัยสำคัญต่อการฟื้นตัวของประเทศนั้นๆ อย่างเห็นได้ชัด หากไทยเดินหน้าเร่งฉีดวัคซีนให้มากขึ้น ย่อมจะผลักดันให้ประเทศกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว และเปลี่ยนให้โควิด-19 เป็นเพียงโรคประจำถิ่นไม่ต่างจากไข้หวัดใหญ่ได้ในที่สุด

ส่วนปัจจัยที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศนั้น ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัย นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ (GDP) ว่าน่าจะอยู่ที่ 1.5% และมองว่าบทบาทการบริหารเงินของภาครัฐมีส่วนสำคัญที่จะช่วยพยุงการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะการอัดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจไทย จากพรบ. เงินกู้ 1 ล้านล้าน ซึ่งยังเหลืออีก 3 แสนล้านที่ยังไม่ได้ใช้ และพรบ. เงินกู้ 5 แสนล้านในปีนี้ ลงไปที่กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในวงกว้าง  

และเพื่อให้ไทยเตรียมความพร้อมรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทางสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) แนะเทรนด์ธุรกิจฉายแววและแนวทางปรับปรุงเพื่อรับมือกับเทรนด์นั้นๆ เริ่มต้นที่ธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล และ Digital Skill เพื่อรองรับเทรนด์ใหม่ให้ตามทันกับ Technology Infrastructure ทั้งยังมีธุรกิจ Go Green ที่จะมีอิทธิพลต่อการค้าในอนาคตอย่าง ธุรกิจกลุ่ม BCG (Bio economy , Circular economy, Green economy) ซึ่งไทยต้องปรับตัวให้สอดรับนโยบายสิ่งแวดล้อม มุ่งเดินหน้าสู่การใช้พลังงานสีเขียวและการส่งเสริมพลังงานสะอาด โดยเฉพาะธุรกิจ Bio economy ที่จะเป็นโอกาสและประโยชน์ต่อภาคเกษตรไทย เช่น การนำวัตถุดิบทางการเกษตรมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า ต่อด้วยเทรนด์ห่วงโซ่การผลิตที่กำลังถูกปรับเปลี่ยน  ผู้ผลิตไม่ใช้ฐานผลิตแห่งเดียวอีกต่อไป จึงเป็นโอกาสให้ไทยได้รับประโยชน์จากการขยายฐานการผลิตระดับกลางถึงบน 

ทั้งนี้ ทางกรุงศรี ยังสนับสนุนกระแส Industry transformation ซึ่งนักธุรกิจไทยจะต้องปรับการลงทุนและวางโครงสร้างองค์กรให้สอดรับกับ Supply-chain Structure ที่จะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามด้วยการมองหา Partnership ระหว่างประเทศที่มีจุดแข็งต่างกัน

สำหรับแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกนั้น คุณวิน พรหมแพทย์, CFA ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยว่า การลงทุนในตราสารหนี้ ก็ยังเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจาก Bond Yield ที่ปรับขึ้นมา ทำให้การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวมที่มีการลงทุน 2-5 ปี จะให้ผลตอบแทนใกล้เคียงหรือสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี ทั้งยังมีโอกาสที่ดีในเรื่องความเสี่ยงต่ำ ได้มีโอกาสลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพในราคาที่ถูกลง พิจารณาได้จากนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 7 หมื่นล้านบาท โดยมีกองทุนตราสารหนี้แนะนำที่น่าจับตา อย่าง KFSPLUS, KFSMART และ KFAFIX-A ทั้ง 3 กองทุนบริหารโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ บลจ. กรุงศรี โดยแนะนำให้ถือลงทุนมากกว่า 1 ปีขึ้นไป

นอกจากตราสารหนี้แล้ว คุณวินให้ความเห็นว่า การลงทุนในหุ้นไทยก็ยังน่าสนใจอยู่เหมือนเดิม ถึงแม้จะเติบโตช้ากว่าตลาดหุ้นโลกอยู่กว่า 25% แต่กลับเห็นตัวเลขคาดหมายการเติบโตของกำไร (Earnings Growth) ที่ถูกปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี (Krungsri Securities) ตั้งเป้า SET Index ที่ 1,700 จุดในไตรมาส 3 และมีโอกาสปรับฐานในไตรมาส 4 หากสถานการณ์โควิดมีการเปลี่ยนแปลงจนเกินคาดเดา และสำหรับกองทุนหุ้นไทยที่ควรค่าแก่การลงทุนในปีนี้ ทางกรุงศรีแนะนำ KFTSTAR ที่มีนโยบายลงทุนแบบยืดหยุ่น เน้นหุ้นในธีม Reopening ตามด้วย KFTHAISM ซึ่งเป็นหุ้นขนาดเล็กโตเร็ว แม้จะมีความหวือหวาแต่ก็โดดเด่นมาก และ TSF-A เน้นเลือกหุ้นรายตัวและมีผลการดำเนินงานโดดเด่น ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าธนาคารกรุงศรีมีกองทุนคุณภาพดีจากกว่า 10 บลจ. ที่คัดสรรมาให้นักลงทุนเลือกอย่างเหมาะสม

จากการสัมมนาครั้งนี้ทำให้นักลงทุนไทยยิ้มกว้างเห็นถึงโอกาสทางเศรษฐกิจจากปัจจัยบวกทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งเปรียบได้กับ “วัคซีนความหวัง” อีกทั้งยังได้รับการชี้ช่องทางลงทุนที่ขานรับกับปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของตลาดทุน ต้องยอมรับว่าทุกข้อมูลเหล่านี้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดีว่าเศรษฐกิจไทยยังมีศักยภาพที่จะกลับมาฟื้นตัวเร็วได้อย่างแน่นอน 

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้ "คุกกี้” เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน โดยใช้คุกกี้เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของท่าน
รายละเอียดเพิ่มเติม: นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy), ตั้งค่าคุกกี้ (Cookies Settings)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ วิเคราะห์การเข้าชม และนำเสนอโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของท่าน สามารถตั้งค่าความยินยอมโดย เปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้ท่านสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ ท่านไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เว็บไซต์สามารถจดจำตัวเลือกหรือการตั้งค่าต่างๆ ที่ท่านได้เลือกไว้ เช่น ภาษา ภูมิภาค หรือขนาดตัวอักษร เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทำให้ท่านไม่ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่เข้าใช้งานเว็บไซต์
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประสิทธิภาพ

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เราสามารถรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เช่น จำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์สำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น โดยข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมนั้นจะไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้ถูกตั้งค่าโดยพันธมิตรด้านโฆษณา เพื่อสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับความสนใจของท่านจากการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ สำหรับแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของท่านให้มากที่สุดทั้งบนเว็บไซต์ของเราและเว็บไซต์อื่นๆ หากไม่ยินยอม โฆษณาที่แสดงผลจะเป็นแบบทั่วไปซึ่งอาจไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    รายละเอียดคุกกี้

Save