
กรุงเทพฯ – 7 ธันวาคม 2564 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ในฐานะผู้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าตัวจริง (EV Leader) จับมือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ร่วมสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV Ecosystem) ในกรุงเทพฯ นนทบุรี และ สมุทรปราการ ให้เป็นจริง เปิดให้บริการ MG Super Charge ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากแล้วตั้งแต่วันนี้ ตั้งเป้าติดตั้งครบ 50 แห่งภายในปีนี้

รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมและมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลายประเทศมีนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมให้พลเมืองหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจังเพื่อช่วยลดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นรูปธรรม สำหรับประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก โดยคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติได้ออกแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามนโยบาย 30/30 คือการตั้งเป้าผลิตรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดภายในปี ค.ศ. 2030 เพื่อผลักดันประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ (Low-carbon Society) โดยล่าสุดยังได้เตรียมมาตรการจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น

เอ็มจี ผู้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าตัวจริง x บางจากฯ ผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
นาย จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอ็มจี มุ่งมั่นผลักดันสังคมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่างต่อเนื่องมากว่า 3 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเอ็มจีไม่ได้เพียงแค่เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังเดินหน้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมในทุกมิติควบคู่กันไป วันนี้เราภูมิใจที่ได้เห็นการเติบโตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจนกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยม อีกทั้งยังเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หลากหลายแบรนด์เริ่มแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจัง รวมไปถึงภาครัฐที่ออกมาตรการเพื่อสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างชัดเจน”

“ทั้งนี้ เอ็มจีในฐานะผู้บุกเบิกรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศ ตระหนักดีว่านอกเหนือจากมาตรการภาครัฐ การมีผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลายแล้ว การมีเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่แข็งแกร่งและครอบคลุม จะเป็นตัวส่งเสริมให้ความนิยมของรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีมากขึ้น ดังนั้น เอ็มจี จึงได้ลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว (DC Charger) ภายใต้ชื่อ “MG Super Charge” ซึ่งปัจจุบันสามารถเปิดให้บริการแล้วกว่า 120 แห่ง ทั่วประเทศ และมีเป้าหมายอย่างชัดเจนในการติดตั้งเพิ่มเติมอีกกว่า 500 แห่ง ด้วยการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง การร่วมมือกับบางจากฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของเรา และมีทิศทางเดียวกันในการสนับสนุนการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า สะท้อนแนวทางการดำเนินงานของทั้งเอ็มจีและบางจากฯ ในฐานะผู้ผลักดันและขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็นสังคม EV ไปอีกระดับและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับคนไทย”

ทางด้าน นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บางจากฯ เป็นกลุ่มธุรกิจผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ให้ความสำคัญกับการแก้ไขวิกฤตโลกร้อน เดินหน้าวางแผนเพิ่มสัดส่วนธุรกิจสีเขียวอย่างต่อเนื่อง โดยได้ตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutral ในปี ค.ศ. 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ในปี ค.ศ. 2050 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว หนึ่งในแผนงานของบางจากฯ คือการติดตั้งสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ภายในสถานีบริการน้ำมันบางจากที่จะนำประเทศไทยสู่การใช้พลังงานสะอาด โดยจับมือกับพันธมิตรขยายจำนวนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจและความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า การจับมือกับ เอ็มจี ในฐานะผู้บุกเบิกรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศเปิด MG Super Charge ครั้งนี้ จะทำให้สถานีบริการน้ำมันบางจากมีจำนวนสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าแบบเร็ว (EV Quick Charging Station) ที่ได้มาตรฐานมากที่สุดในประเทศไทยซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนของการเป็น Greenovative Destination ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากเป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้สำหรับทุกคน”


















