Monday, 10 March 2025 | 10 : 35 pm
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Monday, 10 March 2025 | 10 : 35 pm
spot_img
กรุงศรี ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2022การบริหารศูนย์คอมพิวเตอร์ ระบบ BAHTNET และ ICS ยืนยันความปลอดภัยสารสนเทศเทียบเท่าระดับสากล   •   สมาคมประกันชีวิตไทย จัดการประชุมวิชาการประจำปี เวชศาสตร์ประกันชีวิตไทย ครั้งที่ 20   •   ทิพยประกันภัย ขอเชิญชวนร่วมโครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 50 ตามรอยประวัติศาสตร์เรื่องเขตแดนเกาะกูด เยือนชุมชนสีเขียว “ต้นแบบการเติบโตอย่างยั่งยืน”   •   กรุงเทพประกันชีวิต คว้ารางวัล Top Influential Brand Award จากเวที 2024 Asia CEO Summit & Award Ceremony   •   เมืองไทยประกันชีวิต จัดงาน “MTL Bancassurance Kick Off 2025” ภายใต้ธีม “Breakthrough Our Limits From Good to Great”ก้าวข้ามทุกลิมิต เพื่อพิชิตเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน   •   BAM มอบรางวัลผู้โชคดีมูลค่ากว่า 6 ล้านบาทในกิจกรรม LUCKY DRAW BAM ครบรอบ 25 ปี   •   SAM นำทรัพย์เด่น ราคาพิเศษ ทั้งเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนออกประมูล 25 มี.ค.และ 8 เม.ย.นี้ พร้อมจับมือแบงก์พันธมิตรปล่อยแคมเปญพิเศษ   •   เจนเนอราลี่ เปิดตัว “GEN QUICK SAVE 10/3 (PAR)” ชูจุดเด่นจ่ายเบี้ยระยะสั้น คุ้มครองยาว รับผลตอบแทนสูง 322% พร้อมโอกาสรับเงินปันผลทุกปี   •   CEO ไทยกรุ๊ป รับรางวัลศิษย์เก่าผู้ทำคุณประโยชน์ รร.กรุงเทพคริสเตียน   •   ประธานบอร์ด ตอกย้ำหมุดหมาย “ทีทีบี” ขับเคลื่อนสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืนมุ่งสานต่อความสำเร็จบนเส้นทาง B+ESG สร้าง Inclusive Growth เติบโตไปด้วยกัน   •   ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ พัฒนาโครงการ Lalin Younger Club ส่งเสริมผู้นำรุ่นใหม่ พัฒนาองค์กรสู่อนาคต   •   แอกซ่า ตอกย้ำความสำคัญของวันสตรีสากล เสริมสร้างความมั่นใจ พร้อมผลักดันศักยภาพด้านธุรกิจของผู้หญิงไทย เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน   •   เคทีซี ร่วมกับดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ชวนสมาชิกเปิดประสบการณ์ล่องเรือ “โอกุระ ครุซ” พร้อมเมนูไคเซกิและเทปปันยากิ รายแรกและรายเดียวในไทย   •   แรบบิท ประกันชีวิต ผนึก แรบบิท รีวอร์ดส เดินหน้าอัปเกรด “Rabbit Life MYRewards” ชูสิทธิพิเศษ 3 ระดับ พร้อมเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร   •   กรุงศรี จับมือ SkillLane เปิดโลกการเรียนรู้ออนไลน์เสริมศักยภาพ SME เพื่ออนาคตธุรกิจยุคใหม่
spot_img

ส.ประกันวินาศภัยไทย มุ่งเปลี่ยน “ทุ่งกุลาร้องไห้เป็นทุ่งกุลายิ้มได้” ขยายพื้นที่โครงการธนาคารน้ำใต้ดินแก้ภัยน้ำท่วม-น้ำแล้ง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.6 แสนไร่ในปี 2564

นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการกองทุนประกันภัยพืชผล และคณะผู้บริหารสมาคมฯ ได้ลงพื้นที่ติดตามและตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานโครงการธนาคารน้ำใต้ดินในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้รวม 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองฮี และอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นโครงการที่สมาคมฯ ได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบกับปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถประกอบอาชีพได้โดยไม่ต้องประสบกับภัยแล้งหรือน้ำท่วมซ้ำซาก และเพื่อเป็นต้นแบบการทำธนาคารน้ำใต้ดินที่สมบูรณ์แบบของไทย 

“โครงการธนาคารน้ำใต้ดินนี้ สมาคมฯ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 ภายใต้ความร่วมมือของ สถาบันน้ำนิเทศศาสนคุณ โดยพระนิเทศศาสนคุณ (หลวงพ่อสมาน สิริปัญโญ) ได้จัดทำโครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชน เพื่อการมีน้ำใช้อย่างสมดุลและยั่งยืน (ธนาคารน้ำใต้ดิน) ณ ตำบลดูกอึ่งและตำบลเด่นราษฎร์ อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด หรือโครงการ “หนองฮีโมเดล” ซึ่งถือเป็นโครงการแรกที่สมาคมฯ ได้ริเริ่มดำเนินการในพื้นที่รวม 30 หมู่บ้าน ประชากร 3,408 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 78,913 ไร่ ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จและส่งมอบธนาคารน้ำใต้ดิน จำนวน 3,095 บ่อ ให้กับจังหวัดร้อยเอ็ดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2563 เพื่อให้เป็นสาธารณประโยชน์ของชุมชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” 

ในปี 2564 คณะกรรมการกองทุนประกันภัยพืชผล สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อขยายพื้นที่ในการดำเนินโครงการธนาคารน้ำใต้ดินเพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ โดยคัดเลือกอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพื้นที่เป้าหมายดำเนินงานภายใต้ “โครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชน เพื่อการมีน้ำใช้อย่างสมดุลและยั่งยืน (ธนาคารน้ำใต้ดิน) ในพื้นที่ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด” ครอบคลุมพื้นที่ 88,862 ไร่ รวม 21 หมู่บ้าน จำนวน 3,286 ครัวเรือน ให้ได้รับประโยชน์ต่อไป 

สำหรับพื้นที่ในเขตอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด สมาคมฯ ได้สนับสนุนการขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดินในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบด้วย 1. บ่อปิดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ขนาด 1x1x1.5 เมตร จำนวน 2,100 บ่อ 2. บ่อเปิด ขนาด 10x10x7-12 เมตร จำนวน 35 บ่อ 3. บ่อเปิด ขนาด 40x40x7-12 เมตร จำนวน 26 บ่อ 4. บ่อเปิดแบบเจาะเพื่อป้องกันนำ้ล้นตลิ่งตามริมลำน้ำเสียว ขนาด 0.6×12 เมตร จำนวน 291 บ่อ 5. บ่อทูอินวัน เส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตร จำนวน 21 บ่อ รวมทั้งหมด 2,473 บ่อ โดยใช้งบประมาณจากกองทุนประกันภัยพืชผล จำนวน 23,285,500 บาท และมอบหมายให้สถาบันน้ำนิเทศศาสนคุณเป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่เดือนมีนาคมจนเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้สมาคมฯ จะได้ดำเนินการส่งมอบโครงการให้กับทางรัฐบาลเพื่อศึกษาและขยายผลต่อยอดองค์ความรู้ในการบริหารจัดการแหล่งน้ำตามระบบธนาคารน้ำใต้ดินในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป

นายอานนท์ วังวสุ กล่าวปิดท้ายว่า “ปัจจุบันการเกิดภัยธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งหรือภัยน้ำท่วม ล้วนส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของเกษตรกรเป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในกระบวนการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร รวมถึงการขาดรายได้จากการประกอบอาชีพ ถึงแม้การประกันภัยข้าวนาปี การประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และการประกันภัยพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ จะมีบทบาทสำคัญในการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ประกันภัยก็ถือเป็นการช่วยบรรเทาความเสียหายที่ปลายเหตุ

สมาคมฯ จึงได้เข้ามาดำเนินโครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชนเพื่อการมีน้ำใช้อย่างสมดุลและยั่งยืนในรูปแบบของการสร้างเครือข่ายระบบธนาคารน้ำใต้ดินเพื่อให้ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่สามารถต่อยอดใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งผลจากการดำเนินงานธนาคารน้ำใต้ดินทั้ง 2 โครงการสามารถครอบคลุมพื้นที่ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้รวม 2 อำเภอ 3 ตำบล พื้นที่รวมกว่า 167,775 ไร่ ผมเชื่อมั่นว่า โครงการธนาคารน้ำใต้ดินของสมาคมฯ จะสามารถช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง ภัยน้ำท่วม และช่วยเหลือประชาชนรวมถึงเกษตรกรที่ประสบปัญหาทางการเกษตร เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืนตามเจตนารมณ์ของสมาคมฯ ในการเปลี่ยนให้พื้นที่ “ทุ่งกุลาร้องไห้เป็น ทุ่งกุลายิ้มได้” ต่อไป”

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img