Sunday, 22 December 2024 | 3 : 44 pm
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Sunday, 22 December 2024 | 3 : 44 pm
spot_img
คปภ. เสริมมาตรฐาน ลดข้อพิพาท! จัดทำคู่มือจ่ายสินไหมชัดเจน เพิ่มความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมประกันภัย   •   ธ.ก.ส. ชวนน้องๆ ออมเงิน รับกระปุก “คุณมั่งมี” สุดน่ารัก ผ่านแคมเปญเงินฝากวันเด็กแห่งชาติ “Kids D 2568”   •   เคพีไอ เปิดตัวสโลแกนใหม่ “Your Trust, Our Care” สื่อสารแบรนด์ผ่านคาแรคเตอร์ “Baby CARE Boy”   •   ถอดรหัส เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ เติบโตสวนกระแสตลาดก่อสร้างพัฒนา “ปูนเอสซีจี คาร์บอนต่ำ” รายแรกของไทยบุกตลาดโลก   •   “แอล ดับเบิลยู เอสฯ” ระบุ 3 เมกะเทรนด์ในการพัฒนาอสังหาฯ ปี 2568   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย คาดการณ์ ปี ’68 ธุรกิจประกันวินาศภัยฟื้น เติบโต 1.5%-2.5% รับแรงหนุนเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวฟื้นตัว   •   ธ.ก.ส. จับรายชื่อผู้โชคดีในแคมเปญ “แจกโชคใหญ่ใช้ BAAC Connect” ครั้งที่ 3รับของรางวัลมูลค่ารวม 3 แสนบาท   •   แรบบิท ประกันชีวิต ขนทัพผลิตภัณฑ์ร่วมงานมหกรรมการเงินกรุงเทพส่งท้ายปี ครั้งที่ 7   •   เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมกับ เอ ไลฟ์ ส่งความอุ่นใจส่งท้ายปี ด้วยแคมเปญ “ฟรี! ประกันอุบัติเหตุ อยู่ที่ไหน ก็อุ่นใจกับเอไอเอ”มอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่ม วงเงินคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาทต่อกรมธรรม์   •   กรุงเทพประกันชีวิต จัดโครงการ “ใส่ใจแบ่งปัน สานฝันเพื่อน้อง” รวมพลังทำความดีส่งท้ายปี 2567   •   เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลัง เคาน์เตอร์เซอร์วิส ส่ง “กรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่สุขกายสุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์)”เติมเต็มความสุขและความอุ่นใจรับเทศกาลปีใหม่   •   ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ โชว์ต้นคริสต์มาสรักษ์โลก เติมเต็มความสุขปีใหม่ 2568   •   ทิพยประกันภัย จับมือ NT ลงนาม MOU พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ายุคดิจิทัล   •   วิริยะประกันภัย ร่วมสนับสนุน คปภ. สมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ โครงการจัดหารถไฟฟ้าบริการประชาชน รพ.รามาฯ   •   กรุงเทพประกันภัย มอบรางวัลแห่งความภาคภูมิใจในการทำงาน
spot_img

คปภ. เดินหน้าภารกิจวิเคราะห์ผลกระทบจากกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย เชิญกูรูกฎหมายจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จัด Workshop ติวเข้มพนักงาน คปภ

คปภ. เพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแล โดยเดินหน้าภารกิจวิเคราะห์ผลกระทบจากกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย เชิญกูรูกฎหมายจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จัด Workshop ติวเข้มพนักงาน คปภ.

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) การวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย (Regulatory Impact Analysis : RIA) และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย ให้แก่พนักงานสำนักงาน คปภ. ณ ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2565

เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนหนึ่งว่า ตามแผนยุทธศาสตร์สำนักงาน คปภ. ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2564 – 2566) มีพันธกิจในการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยให้มีเสถียรภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และมีธรรมาภิบาล ส่งเสริมและพัฒนาระบบประกันภัยให้ยั่งยืน สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง และสอดคล้องกับกติกาสากล รวมถึงคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน โดยเครื่องมือหนึ่งในการทำให้พันธกิจดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์ คือ การออกกฎหมายหรือปรับปรุงกฎหมายที่ใช้ในการกำกับดูแลและพัฒนาธุรกิจประกันภัยให้เป็นกฎหมายที่ดี มีคุณภาพ และเมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว จะต้องมีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย

โดยในปีนี้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติประกันชีวิตฯ พระราชบัญญัติประกันวินาศภัยฯ รวมทั้งอนุบัญญัติที่ออกตามความกฎหมายแม่บทดังกล่าวด้วย ส่วนพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ และพระราชบัญญัติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยฯ จะได้ดำเนินการประเมินผลสัมฤทธิ์ในปี 2566

สำหรับการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) การวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย (Regulatory Impact Analysis : RIA) และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายให้แก่พนักงานสำนักงาน คปภ. ในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้รับเกียรติจากทีมวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ยกร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 อันเป็นหลักการตามแนวนโยบายของมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ มาอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่พนักงานสำนักงาน คปภ. ในเชิงปฏิบัติการ (Workshop) พร้อมฝึกภาคปฏิบัติครอบคลุมเนื้อหา 3 หัวข้อหลัก คือ หัวข้อแรก การทำ RIA กฎหมายและกฎ เพื่อแนะนำและฝึกให้พนักงานของสำนักงาน คปภ. ทดลองทำแบบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบของกฎหมายตามแบบฟอร์มที่ใช้งานจริง โดยใช้โจทย์เป็นอนุบัญญัติของสำนักงาน คปภ. เพื่อให้เห็นภาพกระบวนการที่เป็นรูปธรรมของแนวคิด วิธีการ และเทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูล การระบุสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติ วิธีการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหา การใช้หลักเหตุผลและความจำเป็นที่รัฐควรเข้าแทรกแซงโดยเลือกใช้มาตรการทางกฎหมาย ซึ่งรวมไปถึงแนวทางการกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้มีส่วนได้เสียให้ครอบคลุม และรูปแบบการเปิดรับฟังความคิดเห็นที่เหมาะสมเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้จะได้เรียนรู้หลักการสำคัญของการวิเคราะห์ผลกระทบที่ต้องคำนึงถึงทั้งมิติทางด้านเศรษฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ ตลอดจนการประยุกต์ใช้หลักความได้สัดส่วน (Principle of Proportionality) เช่น การใช้ Standard Cost Model วิธีการคำนวณภาระต้นทุนในการปฏิบัติตามกฎหมาย มาเป็นเครื่องมือหนึ่งในการชั่งน้ำหนักระหว่างผลกระทบกับความคุ้มค่าของการออกกฎหมายตามหลักคิดสากล
หัวข้อที่ 2 การประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายและกฎ ซึ่งเป็นขั้นตอนและกระบวนการควบคุมคุณภาพของกฎหมายหลังจากที่กฎหมายได้ออกมาใช้บังคับแล้วชั่วระยะเวลาหนึ่ง พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายฯ กำหนดให้หน่วยงานของรัฐต้องประเมินผลสัมฤทธิ์กฎหมายและกฎของตัวเองทุกรอบระยะเวลา 5 ปี โดยกำหนดให้มีการประเมินรอบแรกสำหรับพระราชบัญญัติที่มีผลใช้บังคับก่อนปี 2562 ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 ซึ่งสำนักงาน คปภ. มีภารกิจที่ต้องประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายและกฎที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลรวม 5 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.ประกันชีวิตฯ พ.ร.บ.ประกันวินาศภัยฯ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ พ.ร.บ.คปภ.ฯ และ พ.ร.ก.กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติฯ ดังนั้น การอบรม Workshop ตามหัวข้อนี้จะทำให้พนักงานของสำนักงาน คปภ. มีองค์ความรู้ที่จำเป็นเพื่อนำมาวิเคราะห์ว่ากฎหมายที่ออกไปแล้วนั้น สามารถแก้ไขปัญหาได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แต่แรกเพียงใด เกิดภาระหรือผลกระทบที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ มีอุปสรรคและปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายอย่างไร มีสถิติการดำเนินคดีมากน้อยเพียงใด เพื่อนำมาสู่ขั้นตอนของการประเมินผลสัมฤทธิ์ว่ากฎหมายหรือกฎดังกล่าวยังคงจำเป็นต้องดำรงอยู่ หรือควรปรับปรุง หรือควรให้ยกเลิกไป โดยต้องจัดทำข้อมูลตามแบบฟอร์มรายงานการประเมิน ผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายตามที่กำหนด
และหัวข้อที่ 3 การแนะนำการใช้งาน “ระบบกลางทางกฎหมาย(Law Portal) ซึ่งเป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ตาม พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายฯ เพื่อเป็นศูนย์กลางรวบรวมกฎหมายของภาครัฐให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้จากแหล่งเดียว ตามเจตจำนงของมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญที่มุ่งหมายให้ประชาชนเข้าถึงตัวบทกฎหมายได้โดยสะดวก เข้าใจกฎหมายได้ง่าย และสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ ระบบกลางทางกฎหมายยังถูกกำหนดให้เป็นช่องทางสื่อสารหลัก ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งใช้เป็น Platform ในการแลกเปลี่ยนและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับร่างกฎหมายและกฎของตนเอง คำอธิบายกฎหมาย คำแปลกฎหมาย รายงาน RIA รายงานการประเมินผลสัมฤทธิ์ รวมทั้งยังเป็นเวทีเปิดเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน อันเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสะท้อนและแสดงออกซึ่งความคิดเห็นต่อกฎหมายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยสะดวกและรวดเร็ว ดังนั้น ในการปฏิบัติภารกิจด้านการปรับปรุงและพัฒนากฎหมายรวมถึงอนุบัญญัติของสำนักงาน คปภ. ต่อจากนี้ จะต้องดำเนินการผ่านระบบกลางทางกฎหมายเป็นหลัก ควบคู่ไปกับวิธีการเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านช่องทางเว็บไซต์ของสำนักงาน หรือจัดประชุม Focus Group หรือวิธีการอื่นดังเช่นที่ปฏิบัติอยู่เดิมซึ่งเป็นไปตามความเหมาะสม เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ของการได้รับข้อมูลที่มีคุณภาพอันจะนำไปสู่การตัดสินใจที่มีคุณภาพ และก่อเกิดเป็นกฎหมายที่มีคุณภาพของประเทศชาติต่อไป

“การอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) การวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย (Regulatory Impact Analysis : RIA) และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย ที่จัดให้กับพนักงานสำนักงาน คปภ. ในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่จำเป็นที่จะต้องเร่งเสริมความรู้ความเข้าใจ และสร้างประสบการณ์การปฏิบัติงานเสมือนจริงเพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงานสำนักงาน คปภ. โดยการเรียนรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่เป็น Authority ในเรื่องนี้ ซึ่งหากพนักงานของสำนักงาน คปภ. เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็จะทำให้การนำเอากฎหมายมาใช้เป็นเครื่องมือในการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยเกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img