จากการที่สำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่ม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดโครงการพิจารณาคัดเลือกสินค้าไทยที่มีการออกแบบดี ปี 2563 หรือ Design Excellence Award 2020 (DEmark) เพื่อส่งเสริมผลงานที่โดดเด่นด้านการออกแบบ และยกระดับสินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับแพร่หลายในตลาดโลก ด้วยแนวคิด Circular Design, Cycle of Life ดีไซน์หมุนเวียนเปลี่ยนโลก โดยเปิดรับสมัครนักออกแบบ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก เข้าร่วมโครงการ จนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 นั้น
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นโยบายหลักด้านหนึ่งของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศคือ การส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย ขยายช่องทางการค้า รวมทั้งส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและบริการ ซึ่งการจัดโครงการรางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบดี ปี 2563 หรือรางวัล Design Excellence Award (DEmark 2020) เป็นโครงการที่กรมตั้งใจจัดทำขึ้นและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้นับว่าเป็นปีที่ 13 แล้ว เพื่อสนับสนุนให้นักออกแบบไทยได้มีเวทีสำหรับแสดงผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ ตอบสนองนโยบายด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและบริการ และยังเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการและผลงาน การออกแบบของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล โดยผลงานที่ได้รับการคัดเลือกตลอดหลายปีที่ผ่านมายืนยันได้ถึงความสำเร็จและกระแสการตอบรับที่ดีทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ
โดยกรมได้ร่วมมือกับหน่วยงาน Japan Institute of Design Promotion (JDP) ผู้จัดการตัดสินรางวัล G-Mark จากประเทศญี่ปุ่น เชิญผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมเป็นกรรมการตัดสิน รวมทั้งสนับสนุนสินค้าที่ได้รับรางวัล DEmark เข้าร่วมการตัดสินรางวัล G-Mark ประเทศญี่ปุ่นด้วย
รางวัล DEmark จะช่วยส่งเสริมผลงานการออกแบบของไทย โดยใช้ตราสัญลักษณ์ DEmark เป็นเครื่องหมายรับรองผลงานที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบ สร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ สินค้าและบริการรวมถึงยกระดับผลงานที่มีการออกแบบดีให้เป็นที่ยอมรับแพร่หลายในตลาดโลก เพื่อประโยชน์ทางการค้า และเกิดความภาคภูมิใจ เป็นแบบอย่างในการพัฒนาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ของประเทศต่อไป” คุณสมเด็จสรุป
นางประอรนุช ประนุช ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้ากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า โลกกำลังเปลี่ยนไปเร็วมากอย่างไม่ทันตั้งตัว ทุกคนตระหนักได้ถึงผลกระทบของปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจากน้ำมือของเรา หรือจากธรรมชาติที่เราไม่สามารถกำหนดกฏเกณฑ์ได้ แต่เราก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบที่สามารถช่วยแก้ไขหรือบรรเทาปัญหานั้นได้ ดังนั้น การนำเอาแนวคิด Circular Design มาใช้ในการออกแบบ จึงเป็นการช่วยให้โลกใบนี้สดใสและน่าอยู่ขึ้น
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มของการดูแลรักษาโลกและสิ่งแวดล้อม รางวัล Design Excellence Award 2020 ในปีนี้ จึงจัดขึ้นภายใต้เนวคิด “Circular Design, Cycle of Life ดีไซน์หมุนเวียนเปลี่ยนโลก” เพราะแนวโน้มของการใช้ทรัพยากรโลกอย่างรู้คุณค่ากำลังได้รับการใส่ใจมากขึ้น ระบบเศรษฐกิจได้ก้าวข้ามสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้การออกแบบเศรษฐกิจที่เน้นการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่เป็นวงจรอย่างไม่รู้จบ หัวใจสำคัญ คือ การทำความเข้าใจกับแนวคิดการออกแบบที่สอดรับกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเพื่อลดการใช้วัตถุดิบ การนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ หรือ ระบบการผลิตแบบหมุนเวียนที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดโดยไม่มีสิ่งเหลือใช้เกิดขึ้น การออกแบบหรือดีไซน์จึงเปรียบเสมือน
ก้าวแรกที่เป็นกุญแจสำคัญในการนำไปสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อการพัฒนาการผลิตและการนำไปใช้อย่างยั่งยืน” คุณประอรนุช กล่าวถึงที่มาที่ไปของแนวคิดโครงการในปีนี้
รางวัล DEmark ในปีนี้ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 7 กลุ่ม เพื่อเปิดโอกาสให้นักออกแบบในแต่ละกลุ่มสาขา ได้แสดงไอเดียในการออกแบบเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างเต็มที่ ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ (Industrial Process / Industrial Craft) กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ (Gift & Decorative Items / Household Items) กลุ่มความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมผลิตภัณท์แฟชั่นเครื่องแต่งกาย (Creative & Innovative Fashion / Apparel / Jewelry / Textile / etc.) กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและดิจิทัล (Home Appliances / Equipment and Facilities for Office / Digital Appliances / Equipment / IoT / etc.) กลุ่มผลงานออกแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging Design) กลุ่มผลงานกราฟิกดีไซน์ (Font / Graphic on Surface / Digital Media / Identity Design) กลุ่มผลงานการออกแบบตกแต่งภายในที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้า พื้นที่ทำงานร่วมกัน อาคารชุด (Hotel / Restaurant / Café / Retail Shop / Co-Working Space / Condominium Project) คุณประอรนุช ยังได้เพิ่มเติมอีกว่า ผู้ได้รับรางวัลยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิ
1. ได้รับการสนับสนุนส่งผลงานเข้าประกวดรางวัล G-Mark ประเทศญี่ปุ่น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
2. ผลงานที่ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มสาขาและมีการส่งออก จะได้รับรางวัล Prime Minister’s Export Award ประเภท Best Design จากนายกรัฐมนตรี
3. ผู้ที่ได้รับรางวัล DEmark และ G-Mark สามารถใช้ตราสัญลักษณ์รางวัลในการ Promote สินค้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
4. มีโอกาสได้เข้าร่วมแสดงผลงานในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติตามความเหมาะสมของประเภทสินค้า เป็นต้น