บมจ.มั่นคงเคหะการ ผนึกกำลังพนักงานผลิต Face Shield ป้องกันใบหน้า 5,000 ชิ้น มอบให้ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี เพื่อเพิ่มความปลอดภัยเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะสู้ภัยโควิด-19
นางสาวดุษฎี ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงไปทั่วโลก ประเทศไทยเองก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน บมจ.มั่นคงเคหะการ เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยและให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลสุขภาวะแบบองค์รวมที่ดี จึงรวมพลังพนักงานของบริษัทฯ ภายใต้กิจกรรม “มั่นคงอาสา” ผลิตหน้ากาก (Face Shield) ป้องกันโควิด-19 จำนวน 5,000 ชิ้น เพื่อมอบให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจัดเก็บขยะกรุงเทพมหานคร หน่วยจัดเก็บขยะของเทศบาลเมืองจังหวัดปทุมธานี, เทศบาลสมุทรปราการ และเทศบาลนนทบุรี
มั่นคงฯ เล็งเห็นว่าผู้ปฏิบัติงานจัดเก็บขยะเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อสูง เช่นเดียวกับทีมแพทย์และพยาบาล เนื่องจากต้องสัมผัสขยะที่อาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรคเป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง/วัน
จากตัวเลขของสำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร พบว่าขยะติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่จัดเก็บจากสถานพยาบาลและโรงพยาบาล มีปริมาณเพิ่มขึ้นอยู่ที่จำนวนวันละ 42 ตัน โดยมีการนำไปเผาในเตาเผาขยะติดเชื้อที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขมหรือศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ซึ่งสามารถรับได้ 60 ตัน/วัน ซึ่งกลุ่มอาชีพนี้ปัจจุบันยังขาดแคลนอุปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วยเหลือด้านความปลอดภัยสำหรับการป้องกันตนเอง บริษัทฯ จึงขอมีส่วนร่วมในการส่งมอบความห่วงใยจากใจพนักงานมั่นคงฯ ทุกคน ด้วยการร่วมมือร่วมใจผลิต Face Shield เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการป้องกันเชื้อโรคและเชื้อไวรัส โควิด–19 ให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจัดเก็บขยะทุกคน
“Face shield เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่จะช่วยให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะปลอดภัยขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะสามารถปกป้องใบหน้า ไม่ให้สิ่งปนเปื้อนเชื้อโรคต่างๆ ฟุ้งกระจายใส่ใบหน้า โดยเฉพาะหากมีการใช้คู่กับหน้ากากอนามัย จะยิ่งป้องกันได้มากขึ้น นอกจากนี้ทุกคนยังสามารถมีส่วนร่วมได้ง่ายๆ ด้วยการแยกขยะก่อนทิ้ง เช่น หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว ใส่ถุงมัดแยกไว้ 72 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อโรคตายก่อน แล้วนำไปทิ้งในถังสีส้ม เพราะนอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่เก็บขยะที่ปฏิบัติงานแล้ว ยังเป็นการช่วยให้เชื้อโควิด-19 ไม่ปะปนไปกับสิ่งแวดล้อม แล้วกลับมาทำร้ายเราและเพื่อนมนุษย์อีกครั้งในอนาคตด้วย” นางสาวดุษฎี กล่าว