‘กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม’ ร่วมกับ ‘ช้อปปี้’ เปิดตัวโครงการ Shopee Seller Support Package จัดสรรความช่วยเหลือมูลค่า 500 ล้านบาท แก่ผู้ประกอบการไทย สูงสุด 1 ล้านราย ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ Seller Support Package สามารถรับรายการสนับสนุนรวมมูลค่าสูงสุด 5,000 บาท
กรุงเทพฯ 23 เมษายน 2563 – กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมมือกับ ‘ช้อปปี้’ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เปิดตัวโครงการ “Shopee Seller Support Package” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #ShopeeTogether โปรแกรมดังกล่าวได้จัดสรรรายการช่วยเหลือคิดเป็นมูลค่า 500 ล้านบาท โดยมีจุดมุ่งหมายในการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และผู้ขายที่ธุรกิจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ Covid-19 เพื่อคงศักยภาพในการแข่งขันและสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน โปรแกรม Shopee Seller Support Package ตั้งเป้าให้ความช่วยเหลือแก่ SMEs และผู้ขายทั่วประเทศถึง 1 ล้านราย โดยถือเป็นโปรแกรมสนับสนุนผู้ขายครั้งใหญ่ที่สุดจากช้อปปี้
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า “การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน ซึ่งรวมถึงภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ SMEs พ่อค้าแม่ค้า ที่มียอดขายลดลง เนื่องจากไม่สามารถเปิดขายหน้าร้านได้ เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงอย่างมาก จึงมีนโยบายให้ทุกหน่วยงานเร่งดูแลช่วยเหลือประชาชนทุกสาขาอาชีพ โดยในส่วนของผู้ประกอบการที่อาจประสบปัญหาการขายสินค้าหน้าร้าน กระทรวงดีอีเอสได้ร่วมกับภาคเอกชนต่าง ๆ เช่น แพลตฟอร์มการขายสินค้าออนไลน์ช้อปปี้ ภายใต้โครงการ “Shopee Seller Support Package” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมีช่องทางขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนในยุคปัจจุบัน ทั้งผู้ที่ค้าขายสินค้าออนไลน์อยู่แล้ว และผู้ที่ต้องการขยายช่องทางธุรกิจทางออนไลน์ ช่วยลดปัญหาต้นทุนหน้าร้าน และจำนวนลูกค้าที่ลดลง นอกจากนี้ ยังจะได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้และเงินทุน สำหรับดำเนินธุรกิจให้ต่อเนื่อง และในอนาคตกระทรวงดีอีเอสก็จะร่วมมือกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการและประชาชนต่อไปด้วย”
โปรแกรม Shopee Seller Support Package มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) และผู้ขายไทยทั้งเดิมที่มีช่องทางธุรกิจออนไลน์อยู่แล้ว และผู้ที่ต้องการขยายช่องทางธุรกิจมายังโลกออนไลน์ โดยการให้การสนับสนุนทั้งในด้านองค์ความรู้ และแหล่งเงินทุนสนับสนุน ซึ่งถือเป็นการช่วยบรรเทาภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจในส่วนของผู้ประกอบการฯและผู้ขายชาวไทย โดยการเข้าช่วยเหลือเพื่อเสริมศักยภาพในการเพิ่มยอดขายและโอกาสให้แก่ธุรกิจ รวมถึงช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
มร.เทอเรนซ์ แพง ประธานฝ่ายปฏิบัติการ ช้อปปี้ กล่าวว่า “ด้วยความร่วมมือจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โปรแกรม Shopee Seller Support Package ถือเป็นโปรแกรมสำคัญครั้งใหญ่ของช้อปปี้ภายใต้โครงการ #ShopeeTogether เพื่อสนับสนุนภาคสังคมไทยให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์ Covid-19 ครั้งนี้ไปด้วยกัน โดยโปรแกรม Shopee Seller Support Package เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการฯ และผู้ขายออฟไลน์ต่อยอดสู่ธุรกิจยุคดิจิทัล โดยการให้การสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพทักษะใหม่ๆ เพื่อพัฒนาธุรกิจในช่องทางออนไลน์ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ธุรกิจสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ Covid-19 ครั้งนี้การพัฒนาช่องทางออนไลน์ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้ธุรกิจได้ในระยะยาว”
โครงการ Shopee Seller Support Package เปิดลงทะเบียนสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ตั้งแต่ 23 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2563 โดยโครงการฯ มีแนวทางการสนับสนุนใน 3 ด้านหลักๆ ดังต่อไปนี้
1.การสนับสนุนด้านการขายและการตลาดบนแอปพลิเคชันช้อปปี้ : ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการสนับสนุนด้านเครื่องมื่อทางการตลาดที่จะช่วยเพิ่มการมองเห็นสินค้าและเพิ่มยอดขายเป็นมูลค่าสูงสุดถึง 5,000 บาทซึ่งรวมถึงเครดิต MyAds สำหรับโฆษณาสินค้า และโค้ดส่วนลดสำหรับร้านค้า ทั้งนี้เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้แก่ผู้ประกอบการ รวมไปถึงการสนับสนุนค่าขนส่งสินค้าเช่นกัน
2.หลักสูตรการเรียนออนไลน์ฟรีสำหรับผู้ขาย : เพื่อเพิ่มทักษะความรู้ความสามารถในการขายสินค้าออนไลน์ให้แก่ผู้ประกอบการผ่านคอร์สเรียนออนไลน์มากมาย ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง ผ่านช่องทางการสอน Shopee E-learning, ช่องยูทูป Shopee University และ Shopee University Webinar และเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการยกระดับทักษะด้านอีคอมเมิร์ซได้ดียิ่งขึ้น ทางช้อปปี้ยังสนับสนุนเครดิตโฆษณา ให้แก่ผู้ประกอบการสูงสุด 1 ล้านรายที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการสำเร็จ เพื่อช่วยเพิ่มการมองเห็นสินค้าและช่วยอำนวยความสะดวกในการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ให้แก่ผู้ประกอบการอีกด้วย
3.สิทธิประโยชน์อื่นๆ : สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่และผู้ขายที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์บนแอปพลิเคชันช้อปปี้ สามารถเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น การยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าของร้านค้า การยกเว้นค่าธรรมเนียมการขายสินค้าในแอปพลิเคชันช้อปปี้สำหรับร้านค้าทั่วไป
นอกจากนี้ช้อปปี้ยังได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำในภาคส่วนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการได้อย่างครอบคลุมยิ่งขี้น ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยในการมอบคูปองส่วนลดพิเศษ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 10 พฤษภาคม 2563 เพื่อความช่วยเหลือและชดเชยค่าขนส่งให้แก่ผู้ประกอบการบนช้อปปี้สำหรับรายการสินค้าจำเป็น ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าจำเป็นผ่านออนไลน์ได้มากขึ้น รวมถึงโครงการสินเชื่อเพื่อธุรกิจออนไลน์จากธนาคารกสิกรไทยที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสมัครขอสินเชื่อได้อย่างสะดวกและง่ายดายผ่านแอพลิเคชันช้อปปี้ อนุมัติวงเงินเร็วยิ่งขึ้นภายใน 3 วัน
“เมื่อผู้ประกอบการหันมาดำเนินธุรกิจบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมากยิ่งขึ้นในช่วงสถานการณ์ Covid-19 เรามีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการ เพื่อให้ธุรกิจของเขาสามารถปรับตัวเติบโต และประสบความสำเร็จบนช่องทางออนไลน์ให้ได้มากที่สุดในช่วงเวลาที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่งนี้ และเรายังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ เพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของภาคส่วนสังคม รวมถึงผู้ซื้อ ผู้ขาย พันธมิตร และชุมชน ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19” มร.แพง กล่าวทิ้งท้าย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Shopee Seller Support Package ได้ที่ www.shopee-seller-support.com
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันช้อปปี้ได้ฟรีที่ App Store หรือ Google Play.
