Saturday, 28 December 2024 | 3 : 35 am
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Saturday, 28 December 2024 | 3 : 35 am
spot_img
เมืองไทยประกันชีวิต และ มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ออกหน่วยบริการตรวจวัดสายตาและมอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุต่อเนื่อง ปีที่ 6   •   “CIMB THAI TRIATHLON 2024” ไตรกีฬารักษ์โลก เปลี่ยนเสื้อไตรกีฬาสู่เสื้อนักเรียน ส่งมอบให้ ร.ร. และน้องๆ ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์   •   ออมสิน มอบของขวัญปีใหม่ 2568 ให้ลูกค้าที่มีประวัติชำระหนี้ดี รายละ 1,000 บาท   •   เลขาธิการ คปภ. นำทีมร่วมเวที IAIS 2024 ผลักดัน 4 แนวทางหลัก สะท้อนบทบาทเชิงรุก ขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยไทยสู่ระดับโลก พร้อมรับมือความท้าทายแห่งอนาคต   •   กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดกิจกรรมลูกค้าส่งท้ายปีอย่างเหนือระดับ มอบประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟบนเรือยอร์ช และกิจกรรมทางน้ำสุดเอ็กซ์ตรีม ณ Ocean Marina Yacht Club Pattaya   •   ภาคอุตสาหกรรมประกันชีวิต – ประกันภัย จับมือรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2568 พร้อมเปิดตัวกรมธรรม์ไมโครอินชัวรันส์   •   วิริยะประกันภัย พร้อมจ่ายสินไหมทดแทน กรณี อุบัติเหตุรถยนต์ชนประชาชน หน้าโรงเรียนบ้านดอนขวาง จ.นครราชสีมา   •   ฟิลลิปประกันชีวิต ร่วมกับ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) อำนวยความสะดวกคนไทยกลับบ้านปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ 2568   •   คปภ. ชี้แจง Copayment สัญญาประกันสุขภาพปี 2568 ย้ำ! มีผลเฉพาะผู้เข้าเงื่อนไขเท่านั้น   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมรณรงค์ความปลอดภัยการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568   •   ออมสิน เปิดลงทะเบียนโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” แล้ววันนี้ ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร www.gsb.or.th และแอปพลิเคชัน MyMo   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร ส่งพลังความรักมอบความสุขให้ทุกการเดินทางในงาน “รณรงค์ความปลอดภัยการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2568”   •   กสิกรไทย ประกาศผล AFTERKLASS Business Camp ปีที่ 5 ปั้นนักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อมโลดแล่นในอนาคต   •   “คปภ. – ภาคธุรกิจประกันภัย” ร่วมรณรงค์ความปลอดภัยการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2568ภายใต้แนวคิด “เดินทางปลอดภัย ประกันภัยพร้อมดูแล” (Be Safe Be Insured)   •   วิริยะประกันภัย สนับสนุน คปภ. “รณรงค์ความปลอดภัยการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2568”
spot_img

“ศุภาลัย” สุดแกร่งรับปี ’66 เผยแผนธุรกิจสู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ เปิดใหม่ 37 โครงการ มูลค่า 41,000 ล้านบาท

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) โชว์ผลงานยอดขายปี 65 พุ่งทะยานสูงถึง 32,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปี 2564 พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนแผนธุรกิจปี 66 ลุยเปิดโครงการใหม่ทั่วประเทศ 37 โครงการ มูลค่า 41,000 ล้านบาท ตั้งเป้าพิชิตยอดขาย New High 36,000 ล้านบาท มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมการออกแบบบ้านใหม่ นวัตกรรมการให้บริการลูกค้า ควบคู่กับการใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมรอบด้าน

ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2565 เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวมากขึ้นจากปี 2564 เนื่องจากมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ขณะเดียวกันภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 เริ่มฟื้นตัวและมาตรการกระตุ้นธุรกิจ ด้วยการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และมาตรการผ่อนคลาย LTV (อัตราส่วนการให้สินเชื่อโดยเทียบกับมูลค่าหลักประกัน) ทำให้เกิดการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค

สำหรับปี 2566 คาดว่า สภาพเศรษฐกิจจะเติบโตดีขึ้นต่อเนื่อง และกำลังซื้อจากต่างชาติจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง อีกทั้งมีการต่อมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2566 โดยลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 1% ของราคาประเมินหรือราคาขาย (มาตรการก่อนหน้าลดเหลือเพียง 0.01%) และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% จากยอดเงินกู้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้เป็นปีที่ดีแม้จะมีเรื่องภาวะเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

ส่วนของบริษัทฯ มีการขยายการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ประเทศออสเตรเลีย ได้มีการลงทุนไปแล้ว 12 โครงการ มูลค่าโครงการ 52,600 ล้านบาท ด้วยเม็ดเงินลงทุนรวมของศุภาลัย 9,748 ล้านบาท ซึ่งมีการเติบโตเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการลงทุนธุรกิจอื่นๆ อย่างเช่น Resort Housing ที่โครงการศุภาลัย ซีนิค เบย์ พูล วิลล่า ภูเก็ต Rental Office ที่โครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร, Serviced Condo ในหลายโครงการ Home Office ที่โครงการศุภาลัยแกรนด์ เอสเซ้นส์ @ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ Community Mall / Market ในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ สนับสนุนการกระจายรายได้สู่ชุมชน และ Co-Working ชื่อว่า MEET & CO ตั้งอยู่ที่อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ เป็นต้น

ด้านนวัตกรรมการออกแบบที่อยู่อาศัย ได้มีการสร้างสรรค์แบบบ้านซีรีส์ใหม่ อาทิ Romantic Charm และ Wellness Residence เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้า และรองรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งเดินหน้าพัฒนาโครงการแนวราบระดับราคา 10 – 30 ล้านบาท เพิ่มมากขึ้น พร้อมลุยเปิดขายทั่วประเทศทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด เจาะลูกค้าระดับบน เพราะที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการเปิดตัวแบรนด์ “เอเลแกนซ์” ได้แก่ “ศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121” แบบบ้านเดี่ยวใหม่ล่าสุด 3 แบบ 3 สไตล์ ระดับลักซ์ชูรี่ ราคาเริ่มต้น 20 – 30 ล้านบาท ปักหมุดทำเลแรกบนถนนบรมราชชนนี และศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50 บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น ในสไตล์ Modern Metro ราคาเริ่มต้น 17.99 ล้านบาท บนศักยภาพทำเลใจกลางเมือง “ถนนเทพรักษ์” ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ทำผลงานได้ประสบความสำเร็จ เพราะสามารถพิชิตยอดขายรวมได้ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 28,000 ล้านบาท ทำให้ตัวเลขยอดขายพุ่งทะยานสูงถึง 32,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ทำได้ 24,069 ล้านบาท โดยเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งแนวราบ และคอนโดมิเนียม 31 โครงการ มูลค่ารวม 37,800 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 28 โครงการ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล 10 โครงการ, ภูมิภาค 18 โครงการ) และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล 2 โครงการ, ภูมิภาค 1 โครงการ)

จากความสำเร็จด้านยอดขายมีผลอันเนื่องมาจากบริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง สามารถเปิดตัวโครงการใหม่ในแต่ละจังหวัดโดยมีการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี สินค้ามีความหลากหลาย และตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย
ขณะที่ปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายอดขาย 36,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 36,000 ล้านบาท โดยวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 37 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 34 โครงการ มูลค่า 32,700 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 8,300 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวม 41,000 ล้านบาท และกำหนดงบประมาณการจัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท

ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ มุ่งเน้นสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ด้วยความมั่นคง และยั่งยืน เตรียมบุกหนักในโครงการภูมิภาคต่างๆ ในจังหวัดใหม่ๆที่มีทำเลศักยภาพและมีความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันศุภาลัยพัฒนาโครงการครอบคลุม 28 จังหวัด โดยในปี 2566 เสริมความแข็งแกร่งพัฒนาโครงการใหม่ใน 5 จังหวัดใหม่ ได้แก่ ลำปาง ลำพูน นครปฐม ราชบุรี และจันทบุรี

พร้อมกับขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อการให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ เช่น Supalai Sabai แอปพลิเคชันที่ช่วยให้ลูกบ้านศุภาลัยใช้ชีวิตในบ้านได้สบายยิ่งขึ้น ทั้งการจ่ายบิล แจ้งซ่อม มีสิทธิพิเศษหลากหลาย อัพเดททุกข่าวสาร เป็นต้น

Supalai Privilege คัดสรรสิทธิพิเศษใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกบ้าน มุ่งเน้นความสนุกสนาน สะดวกสบายให้กับการใช้ชีวิตของลูกบ้าน และสามารถตกแต่ง ซ่อมแซม ที่อยู่อาศัยให้ใช้งานได้ยาวนาน รวมทั้งมอบสิทธิพิเศษเกี่ยวกับสุขภาพให้ลูกบ้าน เป็นต้น

Supalai Care เป็นบริการให้คำแนะนำลูกค้าสำหรับการใช้งานที่ถูกต้องในบ้านและคอนโดมิเนียม การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาทั้งในช่วงรับประกันและหลังหมดประกัน เป็นต้น อีกทั้งผนึกพันธมิตรธุรกิจ เช่น เอสซีจี ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และติดตั้งโซลาร์รูฟในโครงการของศุภาลัย ร่วมกับธนาคารกสิกรไทยในโครงการติดตั้งโซลาร์รูฟอย่างต่อเนื่อง นำร่องโครงการแรกที่ ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ รังสิต คลอง 2 ร่วมกับทรู ดิจิทัล ติดตั้ง Smart Residence 40 โครงการทั่วประเทศ และร่วมกับชาร์จ ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า ติดตั้ง EV Charger เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าของศุภาลัย

นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานก่อสร้างอาคารสูง บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน โดยมีส่วนร่วมในการใส่ใจดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียวบ้านและคอนโดมิเนียมศุภาลัย คัดสรรวัสดุการก่อสร้างเน้นประหยัดพลังงาน ลดความร้อน ลดการใช้น้ำ ลดขยะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสานต่อโครงการ Waste Management ในกระบวนการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เช่น การเลือกใช้ท่อที่ตัดพอดีกับความยาวที่ใช้จริง การเปลี่ยนพาเลทไม้ที่ใช้ขนส่งอิฐมวลเบาให้เป็นพาเลทพลาสติกซึ่งทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น การกำหนดขนาดของลูกปูนในการทดสอบกำลังรับแรงอัดของคอนกรีตให้มีขนาดที่เหมาะสม แต่ยังคงประสิทธิภาพเดิมไว้ได้ ตลอดจนการนำเศษวัสดุเพื่อกลับมาใช้ใหม่อย่างเช่น สายรัดวัสดุก่อสร้างนำไปสานเป็นตะกร้า หรือเศษอิฐมวลเบานำไปทำเป็นกระถางต้นไม้ เพื่อลดปริมาณความสูญเสียของวัสดุก่อสร้าง และสามารถจัดการกับเศษวัสดุก่อสร้างให้เกิดมูลค่า และประโยชน์สูงสุด

นอกจากนี้ยังการบริหารจัดการของเสียอย่างยั่งยืน โดยจัดวางถังขยะภายในโครงการก่อสร้าง ซึ่งมีอยู่ 9 ประเภท ได้แก่ เศษกระดาษ กระป๋อง เศษโฟม ขวดแก้ว ขยะอันตราย ขยะเปียก ขยะติดเชื้อ ขยะพลาสติก และฝาขวดพลาสติก เพื่อคัดแยกขยะเหลือใช้อย่างเป็นระบบ อีกทั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการก่อสร้าง เช่น ข้อต่อท่อระบายน้ำ 4 ทาง เพื่อลดจำนวนข้อต่อท่อระบายน้ำเสียให้น้อยลง ลดระยะเวลาในการทำงาน ลดช่องท่องานระบบสุขาภิบาลให้เล็กลง และเพิ่มพื้นที่ภายในห้องน้ำของลูกค้าให้กว้างมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาระบบสีรองพื้นและสีทับหน้า Direct to Metal รูปแบบใหม่ ลดระยะเวลาในการทำงานมีประสิทธิภาพการกันสนิม และยังมีนวัตกรรมข้อต่อท่อระบบดับเพลิง เพื่อลดจำนวนข้อต่อท่อระบบดับเพลิง ลดการเชื่อม ลดระยะเวลาในการทำงาน ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการปลูกต้นไม้อย่างยั่งยืนเพื่อคืนธรรมชาติสู่สังคมนับเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บริษัทฯให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img