นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการให้บริการพบแพทย์และได้รับยาตามคำสั่งการรักษาของแพทย์ ผ่านทางโทรเวชกรรม (Telemedicine) สำหรับผู้เอาประกันภัยมีโรคเรื้อรังและมีนัดตรวจติดตามการรักษา เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก และลดความเสี่ยงจากการเดินทางออกจากบ้านให้แก่ผู้เอาประกันภัยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
โดยล่าสุดได้มีโรงพยาบาลคู่สัญญาเข้าร่วมให้บริการดังกล่าวเพิ่มเติมอีก จำนวน 23 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค โรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลรัตนาธิเบศร์ โรงพยาบาลไทยนครินทร์ โรงพยาบาลบางปะกอก 1 โรงพยาบาลบางปะกอก 3 โรงพยาบาลบางปะกอก 9 โรงพยาบาลบางปะกอกรังสิต 2 โรงพยาบาลบางปะกอกสมุทรปราการ โรงพยาบาลเปาโลเกษตร โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย 4 โรงพยาบาลเปาโลพระประแดง โรงพยาบาลเปาโลพหลโยธิน โรงพยาบาลเปาโลรังสิต โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ โรงพยาบาลพญาไท 1 โรงพยาบาลพญาไท 2 โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา โรงพยาบาลวิภาวดี และโรงพยาบาลสุขุมวิท ทำให้ปัจจุบันมีโรงพยาบาลคู่สัญญาเข้าร่วมให้บริการ Telemedicine กับเมืองไทยประกันชีวิตแล้วเป็นจำนวน 45 แห่ง
โดยสามารถรับบริการ Telemedicine สำหรับผู้ป่วยเรื้อรัง จากโรงพยาบาลคู่สัญญาทั้ง 45 แห่ง ได้ตามช่องทาง ดังนี้
ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังและมีความประสงค์ใช้บริการ Telemedicine นี้ จะต้องเป็นผู้ป่วยเดิมที่มีประวัติการรักษาในโรงพยาบาลที่ให้บริการตามที่กำหนด โดยเป็นโรคเรื้อรังที่จำเป็นต้องมีการติดตามและต้องได้รับยาต่อเนื่อง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น และมีนัดตรวจติดตามการรักษาโดยบริการดังกล่าวจะครอบคลุมการพบแพทย์ และการสั่งยา ทั้งนี้สามารถใช้บริการได้ทั้งผู้เอาประกันภัยรายบุคคลและรายกลุ่ม ที่มีผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก ระยะเวลาให้บริการโครงการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2563 (เงื่อนไขเป็นไปตามที่โรงพยาบาลและกรมธรรม์กำหนด)
สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ เมืองไทยประกันชีวิต โทร. 1766 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อโรงพยาบาลคู่สัญญาที่เข้าร่วมโครงการได้โดยตรง