เมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล “ประกาศเกียรติคุณจรรยาบรรณดีเด่น หอการค้าไทย” ประจำปี 2568 ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยจริยธรรม โปร่งใส ซื่อสัตย์ และยั่งยืน   •   ธ.ก.ส. ออก “เงินฝากก้าวแรก” ต่อยอดการออมโรงเรียนธนาคารและโรงเรียนเกษตรธนากรฝาก 9 เดือน รับดอกเบี้ยสูงสุดร้อยละ 1.59 ต่อปี   •   BAM จัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง   •   BAM ได้รับการคัดเลือกอยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” SET ESG Ratings ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยได้รับผลการประเมินที่ระดับ “AAA” ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน   •   BAM เปิดศูนย์เยียวยาสมานฉันท์ “BRC” เพิ่มโอกาสประชาชน-ลูกค้าทุกกลุ่มแก้หนี้อย่างเป็นธรรม ไม่จำกัดมูลหนี้   •   บัตรเครดิต UnionPay กสิกรไทย* และบัตรเงินด่วน Xpress Cash* ช่วยลดค่าใช้จ่ายคนเมือง! แตะจ่ายรถไฟฟ้า MRT ได้แล้ว รับส่วนลด 50% และจ่ายค่าทางด่วน รับส่วนลด 10 บาทต่อเที่ยว   •   กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต มอบถุงยังชีพ 300 ชุด  ให้แก่ศูนย์พักพิงประจำพื้นที่ 3 จังหวัด ช่วยบรรเทาทุกข์ประชาชน   •   คปภ. – ภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ขานรับนโยบายภาครัฐ หนุนโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ลดภาระค่ารักษาพยาบาล ให้ประชาชนเข้าถึงยาในราคาที่เป็นธรรม   •   BAM “ยกหนี้” ให้วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากเหตุการณ์ ความไม่สงบในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา   •   บริษัทกลางฯ รับรางวัลองค์กรที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ประจำปี 2568 “ระดับดีเด่น”   •   กคช. คว้ารางวัล “Friendly Design Awards 2025” ประเภทองค์กรส่งเสริมอารยสถาปัตย์ ขจัดความเหลื่อมล้ำในสังคม   •   เอไอเอ ประเทศไทย มอบทุนเกือบ 3 ล้านบาท หนุนโซลาร์เซลล์ให้ 9 โรงเรียนใน จ.ตาก สานต่อพันธกิจ AIA One Billion เพื่ออนาคตเด็กไทย   •   กคช. เพิ่มมาตรการช่วยผู้ประสบอุทกภัยสงขลา เปิดอาคารเช่ากว่า 100 ห้อง รองรับกลุ่มเปราะบางภายใต้นโยบาย “พม.ใกล้คุณ“   •   TOA ส่งมอบความสุข ‘SHARING HAPPINESS’ ปรับโฉมสนามเด็กเล่นให้น้องๆ บ้านราชาวดี (ชาย) จ.นนทบุรี ด้วยผลงานชนะเลิศ จากนิสิตสถาปัตย์ จุฬาฯ   •   คปภ. ลงพื้นที่หาดใหญ่ เร่งจ่ายสินไหมอุทกภัย ช่วยผู้เอาประกัน–SMEs อย่างเร่งด่วน
spot_img
spot_img

4Quarter.co

spot_img
เมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล “ประกาศเกียรติคุณจรรยาบรรณดีเด่น หอการค้าไทย” ประจำปี 2568 ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยจริยธรรม โปร่งใส ซื่อสัตย์ และยั่งยืน   •   ธ.ก.ส. ออก “เงินฝากก้าวแรก” ต่อยอดการออมโรงเรียนธนาคารและโรงเรียนเกษตรธนากรฝาก 9 เดือน รับดอกเบี้ยสูงสุดร้อยละ 1.59 ต่อปี   •   BAM จัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง   •   BAM ได้รับการคัดเลือกอยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” SET ESG Ratings ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยได้รับผลการประเมินที่ระดับ “AAA” ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน   •   BAM เปิดศูนย์เยียวยาสมานฉันท์ “BRC” เพิ่มโอกาสประชาชน-ลูกค้าทุกกลุ่มแก้หนี้อย่างเป็นธรรม ไม่จำกัดมูลหนี้   •   บัตรเครดิต UnionPay กสิกรไทย* และบัตรเงินด่วน Xpress Cash* ช่วยลดค่าใช้จ่ายคนเมือง! แตะจ่ายรถไฟฟ้า MRT ได้แล้ว รับส่วนลด 50% และจ่ายค่าทางด่วน รับส่วนลด 10 บาทต่อเที่ยว   •   กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต มอบถุงยังชีพ 300 ชุด  ให้แก่ศูนย์พักพิงประจำพื้นที่ 3 จังหวัด ช่วยบรรเทาทุกข์ประชาชน   •   คปภ. – ภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ขานรับนโยบายภาครัฐ หนุนโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ลดภาระค่ารักษาพยาบาล ให้ประชาชนเข้าถึงยาในราคาที่เป็นธรรม   •   BAM “ยกหนี้” ให้วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากเหตุการณ์ ความไม่สงบในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา   •   บริษัทกลางฯ รับรางวัลองค์กรที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ประจำปี 2568 “ระดับดีเด่น”   •   กคช. คว้ารางวัล “Friendly Design Awards 2025” ประเภทองค์กรส่งเสริมอารยสถาปัตย์ ขจัดความเหลื่อมล้ำในสังคม   •   เอไอเอ ประเทศไทย มอบทุนเกือบ 3 ล้านบาท หนุนโซลาร์เซลล์ให้ 9 โรงเรียนใน จ.ตาก สานต่อพันธกิจ AIA One Billion เพื่ออนาคตเด็กไทย   •   กคช. เพิ่มมาตรการช่วยผู้ประสบอุทกภัยสงขลา เปิดอาคารเช่ากว่า 100 ห้อง รองรับกลุ่มเปราะบางภายใต้นโยบาย “พม.ใกล้คุณ“   •   TOA ส่งมอบความสุข ‘SHARING HAPPINESS’ ปรับโฉมสนามเด็กเล่นให้น้องๆ บ้านราชาวดี (ชาย) จ.นนทบุรี ด้วยผลงานชนะเลิศ จากนิสิตสถาปัตย์ จุฬาฯ   •   คปภ. ลงพื้นที่หาดใหญ่ เร่งจ่ายสินไหมอุทกภัย ช่วยผู้เอาประกัน–SMEs อย่างเร่งด่วน
spot_img

finbiz by ttb แนะจัดทำ “คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร” คู่มือนำธุรกิจสู่ความยั่งยืน

ผู้ประกอบการที่สนใจนำ ESG เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจเพื่อก้าวสู่ความยั่งยืน ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) “คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร” ถือเป็นเครื่องมือใหม่ที่ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก

finbiz by ttb จึงอยากชี้ให้เห็นว่า “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร” มีความสำคัญอย่างไรกับธุรกิจ พร้อมกับขั้นตอน วิธีการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปประเมินก๊าซเรือนกระจกขององค์กร

ทำไม “คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร” จึงมีความสำคัญ

คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) คือ การประเมินปริมาณการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กร ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยแสดงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่ประเมินได้ในหน่วยของปริมาณเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทั้งนี้ มีมาตรฐานสากลคือ ISO 14064-1 กำกับและรับรองในระดับประเทศ และมีการเก็บข้อมูลปริมาณก๊าซเรือนกระจกตลอด 1 ปี

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งในรูปแบบคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในชีวิตประจำวัน คาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ และคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร โดยเป็นการวัดเชิงตัวเลขที่สามารถขยายผลนำไปสู่การลดและชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ต่อไป ซึ่งการคำนวณ ประเมิน และเปิดเผยรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล ความพยายามในการลดก๊าซเรือนกระจก ที่สำคัญนักลงทุนจากต่างประเทศอาจใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการพิจารณาร่วมลงทุนกับธุรกิจได้

ขั้นตอนการคำนวณ คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร มี 7 ขั้นตอน ได้แก่

1. การกำหนดขอบเขตการรายงาน

เป็นการทำบัญชีรายงานก๊าซเรือนกระจก เป็นรูปเล่มออกมา โดยต้องระบุว่ารายงานที่จะทำครอบคลุมพื้นที่ส่วนใดขององค์กร เช่น เฉพาะสำนักงานใหญ่ เฉพาะโรงงาน หรือทำทั้งองค์กร ขึ้นอยู่กับผู้ยื่นขอการรับรองว่ามีความพร้อมมากน้อยเพียงใด

2. การกำหนดขอบเขตองค์กร มีอยู่ 2 แบบ ต้องเลือกแบบใดแบบหนึ่งในการรายงาน

แบบที่ 1 คือ แบบควบคุม (Control Approach) แบ่งเป็นควบคุมทางการเงินและควบคุมการดำเนินงาน ซึ่งปัจจุบัน 99% ใช้วิธีควบคุมการดำเนินงาน เช่น การใช้ไฟฟ้าขององค์กร เพราะหากควบคุมได้ก็จะบริหารจัดการให้เกิดการลดลงของก๊าซเรือนกระจกได้ และแบบที่ 2 คือ แบบปันส่วนตามกรรมสิทธิ์ (Equity Share) คือไม่ได้ควบคุม แต่ถือหุ้นร่วมทุนอย่างเดียว

3. การกำหนดขอบเขตการดำเนินงาน แบ่งเป็น 3 Scope ดังนี้

  • Scope 1 Direct GHG Emissions & Removals เป็นการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกทางตรง คือ มีควันออกมาจากปล่อง มีการรั่วออกมาโดยตรง แบ่งการวัดออกเป็น
  • การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ที่อยู่กับที่ เช่น การผลิตไฟฟ้า ความร้อนและไอน้ำใช้เองภายในองค์กร การเผาไหม้ของอุปกรณ์ / เครื่องจักรที่องค์กรเป็นเจ้าของ เช่น การเผาไหม้ Generator การเผาไหม้ LPG เพื่อปรุงอาหาร การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงประเภทต่าง ๆ เช่น เชื้อเพลิงชีวมวล โดยเก็บข้อมูลปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ในแต่ละเครื่องจักรและอุปกรณ์ ใช้หน่วยเป็นลิตรหรือกิโลกรัม
  • การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากเผาไหม้ที่มีการเคลื่อนที่ เช่น การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงจากยานพาหนะที่องค์กรเป็นเจ้าของ เช่น รถยนต์ รถบรรทุก รถโฟล์คลิฟท์ รถตัดหญ้า หรือ ยานพาหนะที่มีอำนาจในการควบคุม เช่น รถเช่า องค์กรไหนมีเรือ เครื่องบิน รถไฟ เฮลิคอปเตอร์ ก็ต้องนำมารวมด้วย การเก็บข้อมูลส่วนนี้ค่อนข้างง่าย เพราะปัจจุบันองค์กรส่วนใหญ่ใช้บัตรเติมน้ำมัน (Fleet Card) สามารถดูได้ว่าแต่ละเดือนใช้เชื้อเพลิงไปกี่ลิตร
  • การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกโดยตรงจากกระบวนการผลิต ซึ่งเกิดจากการทำปฏิกิริยาเคมีในกระบวนการผลิต เช่น การเผาในกระบวนการ Calcinations ของการผลิตปูนซีเมนต์
  • การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากการรั่วไหลและอื่น ๆ เช่น การรั่วไหลของสารทำความเย็น สามารถดูได้จากการซ่อมบำรุง
  • การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกโดยตรงจากของชีวมวล เช่น การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินจากพื้นที่ป่า เป็นพื้นที่เกษตรกรรม   
  • Scope 2 Energy Indirect GHG Emissions เป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม จากการใช้พลังงานที่องค์กรซื้อหรือนำเข้ามา โดยไม่ได้ผลิตเอง มีทั้งหมด 5 รายการ ได้แก่ ไฟฟ้า ไอน้ำ ความร้อน ความเย็น และอากาศอัด สำหรับวิธีการเก็บข้อมูลสามารถดูได้จากใบเสร็จ เช่น บิลไฟฟ้าจะแจ้งกำลังไฟฟ้าที่ใช้เป็นกิโลวัตต์ต่อหน่วย
  • Scope 3 Upstream & Downstream Activities เป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่องค์กรควบคุมไม่ได้ ให้รายงานเฉพาะแหล่งที่มีนัยสำคัญ อย่างการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากวัตถุดิบตั้งต้นที่ซื้อมา เช่น ปริมาณการใช้กระดาษ A4, กระดาษทิชชู, น้ำประปา การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการกำจัดซากผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันทาง TGO มีระเบียบออกมาแล้วว่าจะบังคับให้รายงาน Scope 3 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 เป็นต้นไป

4. การคำนวณปริมาณก๊าซเรือนกระจก

สมการง่าย ๆ คือ CO2e   = Activity Data X Emission Factor  

*ค่า Emission Factor และวิธีคำนวณอย่างละเอียดดูได้จากเว็บไซต์ของ  TGO

5. การจัดทำเอกสารเพื่อรายงาน

นำข้อมูลทั้งหมดมาจัดทำรายงานเป็นรูปเล่ม ในรูปแบบ Word, Excel และ PowerPoint ซึ่งทาง TGO มีรูปแบบการจัดทำรายงานให้เรียบร้อยแล้ว 

6. การทวนสอบ

ส่งรายงานให้กับผู้ตรวจสอบภายนอก เพื่อตรวจสอบข้อมูลในแง่ของความตรงประเด็น ความสมบูรณ์ ความไม่ขัดแย้งกัน ความถูกต้องและความโปร่งใส หลังจากผ่านการทวนสอบแล้ว ผู้ตรวจสอบจะออกรายงานการตรวจสอบ รายงานการทวนสอบ และถ้อยแถลงส่งมาที่ TGO โดยในส่วนของธุรกิจจะมีหน้าที่กรอกใบสมัครขอขึ้นทะเบียน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร” เท่านั้น

7. การขึ้นทะเบียน

TGO พิจารณาอนุมัติขึ้นทะเบียนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ โดยออกเป็น Certificate เพื่อรับรองว่าองค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่าไรในแต่ละ Scope พร้อมนำข้อมูลที่ผ่านการขึ้นทะเบียนไปประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์ให้ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 1,000 องค์กรที่ขึ้นทะเบียน CFO แล้ว

สิ่งที่ท้าทายขณะนี้คือ ผู้ประกอบการต้องเตรียมจัดทำ “คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร” โดยเริ่มเก็บข้อมูลกิจกรรมเป็นเชิงตัวเลข หากอยู่ในซัพพลายเชนของบริษัทใหญ่ ก็ต้องเตรียมข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ไว้สำหรับนำไปประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพราะหากองค์กรยังไม่มี ธุรกิจอาจได้รับผลกระทบ หรือหากมีแล้ว แต่คู่แข่งมีค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ต่ำกว่า ธุรกิจก็อาจเสียโอกาสทางการแข่งขันได้

นอกจากนี้ เมื่อรู้ว่าส่วนใดในองค์กรมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด ก็ต้องบริหารจัดการให้ลดลงด้วย เช่น วางแผนซ่อมบำรุง ปรับเทคโนโลยี เปลี่ยนอุปกรณ์ ส่วนที่ลดไม่ได้ก็ชดเชยด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิตจากโครงการ T-VER (โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย) ซึ่งการชดเชยถือเป็น CSR รูปแบบใหม่ และทำให้ภาพรวมของประเทศมีปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงด้วย

ที่มา : ธาดา วรุณโชติกุล ผู้จัดการ สำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกฯ (TGO) จากงานสัมมนา Sustainable Growth – The Way to Business of the Future โดย ทีทีบี

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้ "คุกกี้” เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน โดยใช้คุกกี้เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของท่าน
รายละเอียดเพิ่มเติม: นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy), ตั้งค่าคุกกี้ (Cookies Settings)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ วิเคราะห์การเข้าชม และนำเสนอโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของท่าน สามารถตั้งค่าความยินยอมโดย เปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้ท่านสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ ท่านไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เว็บไซต์สามารถจดจำตัวเลือกหรือการตั้งค่าต่างๆ ที่ท่านได้เลือกไว้ เช่น ภาษา ภูมิภาค หรือขนาดตัวอักษร เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทำให้ท่านไม่ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่เข้าใช้งานเว็บไซต์
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประสิทธิภาพ

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เราสามารถรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เช่น จำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์สำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น โดยข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมนั้นจะไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้ถูกตั้งค่าโดยพันธมิตรด้านโฆษณา เพื่อสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับความสนใจของท่านจากการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ สำหรับแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของท่านให้มากที่สุดทั้งบนเว็บไซต์ของเราและเว็บไซต์อื่นๆ หากไม่ยินยอม โฆษณาที่แสดงผลจะเป็นแบบทั่วไปซึ่งอาจไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    รายละเอียดคุกกี้

Save