Monday, 23 December 2024 | 4 : 32 pm
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Monday, 23 December 2024 | 4 : 32 pm
spot_img
กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต มุ่งมั่นสนับสนุนความเท่าเทียมจัดกิจกรรมพนักงาน เนื่องในวันคนพิการสากล ประจำปี 2567   •   “เงินติดล้อ” เปิดเวที TIDLOR Culture Wow แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรกับบริษัทชั้นนำจากประเทศเวียดนาม   •   SAM ร่วมแสดงความยินดีกับ SME D Bank ก้าวสู่ปีที่ 23   •   “กสิกรไทย” สำรองเงินสด 35,900 ล้านบาท รับเทศกาลปีใหม่   •   “กรุงศรี” สำรองเงินสด 9,946 ล้านบาท ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ให้บริการผ่านสาขา/กรุงศรีเอทีเอ็ม ทั่วประเทศ   •   คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัยฯ มอบเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาให้กับโรงเรียนวัดสำโรง จ.นครปฐม   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร จัดเทศกาลตัวจบประกันลดหย่อนภาษี คัดเน้นๆ ชูประกันสะสมทรัพย์ บำนาญ และสุขภาพ ตอบโจทย์วัยทำงาน   •   เลขาธิการ คปภ. เปิดวิสัยทัศน์ปี 2568 “กำกับธุรกิจประกันภัยเชิงรุก ปลุกศักยภาพด้วย AI” สร้างสมดุลการกำกับดูแล ตอบโจทย์ความเสี่ยงหลากมิติในยุคดิจิทัล   •   คปภ. เสริมมาตรฐาน ลดข้อพิพาท! จัดทำคู่มือจ่ายสินไหมชัดเจน เพิ่มความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมประกันภัย   •   ธ.ก.ส. ชวนน้องๆ ออมเงิน รับกระปุก “คุณมั่งมี” สุดน่ารัก ผ่านแคมเปญเงินฝากวันเด็กแห่งชาติ “Kids D 2568”   •   เคพีไอ เปิดตัวสโลแกนใหม่ “Your Trust, Our Care” สื่อสารแบรนด์ผ่านคาแรคเตอร์ “Baby CARE Boy”   •   ถอดรหัส เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ เติบโตสวนกระแสตลาดก่อสร้างพัฒนา “ปูนเอสซีจี คาร์บอนต่ำ” รายแรกของไทยบุกตลาดโลก   •   “แอล ดับเบิลยู เอสฯ” ระบุ 3 เมกะเทรนด์ในการพัฒนาอสังหาฯ ปี 2568   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย คาดการณ์ ปี ’68 ธุรกิจประกันวินาศภัยฟื้น เติบโต 1.5%-2.5% รับแรงหนุนเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวฟื้นตัว   •   ธ.ก.ส. จับรายชื่อผู้โชคดีในแคมเปญ “แจกโชคใหญ่ใช้ BAAC Connect” ครั้งที่ 3รับของรางวัลมูลค่ารวม 3 แสนบาท
spot_img

เดอะวิสดอมกสิกรไทย สแกนโอกาสลงทุน 3 ดาวรุ่งแห่งเอเชีย อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม

เดอะวิสดอมกสิกรไทย จัดสัมมนา “THE WISDOM Wealth Decoded: จับตาการกลับมาของเศรษฐกิจเอเชีย ท่ามกลางมรสุมโลก” สแกนเศรษฐกิจ 3 ดาวรุ่งเอเชีย อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนามที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งทั้ง GDP โครงสร้างประชากร และรายได้ต่อหัวประชากรที่สูงขึ้น แนะการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของ FED เป็นโอกาสลงทุนตราสารหนี้โดยเฉพาะตราสารหนี้ฝั่งเอเชีย

นายพิชัย ยอดพฤติการ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส บมจ. หลักทรัพย์กสิกรไทย เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศเอเชียที่เป็นดาวรุ่ง น่าจับตามองสำหรับการลงทุนในช่วงนี้คือ อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม พิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ ได้แก่ GDP โครงสร้างประชากร และรายได้ต่อหัวของประชากรที่สูงขึ้น ส่งผลดีต่อการบริโภคภายในประเทศ อินเดีย โตต่อเนื่องจากเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐฯ และนโยบายลงทุนลดหย่อนภาษี อินเดีย มีโครงสร้างประชากรที่แข็งแกร่ง ด้วยจำนวนประชากรที่มากที่สุดในโลก และอัตราการเติบโต 0.8% ต่อปี ส่งผลให้มีวัยแรงงานสูงและชนชั้นกลางขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การบริโภคภายในประเทศสูงถึง 60% ของ GDP รัฐบาลอินเดียเดินหน้าแผนสนับสนุนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ารวมกว่า 1.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนช่วยผลักดันให้ GDP เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 8% การออกแบบนโยบาย Systematic Investment Plans หรือ SIPs ที่สนับสนุนให้คนอินเดียเก็บออมเงินเพื่อการเกษียณ และนำเงินไปลงทุนผ่านกองทุนหุ้นเป็นประจำ รวมทั้งสามารถลดหย่อนภาษีได้ด้วย ส่งผลให้มีเงินทุนเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนกว่า 9 หมื่นล้านบาททุกเดือน อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น ตลาดอินเดียอาจเกิดความผันผวนจากแรงขายทำกำไร แต่ในระยะยาว ยังซื้อลงทุนได้ แนะนำกองทุน K-INDIA-A

อินโดนีเซีย ลงทุนสร้างเมืองหลวงใหม่ และออกนโยบายห้ามส่งออกแร่ดิบหนุนอุตสาหกรรมรถ EV อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีโครงสร้างประชากรแข็งแกร่งเช่นกัน โดยมีจำนวนประชากรมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และเป็นอันดับที่ 4 ของโลก สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ คือรัฐบาลอินโดนีเซียมีการดำเนินนโยบายสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ การย้ายเมืองหลวงใหม่ ซึ่งจะมีการลงทุนมูลค่า 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 20 ปีข้างหน้า และนโยบาย “Downstream Policy” ที่ห้ามส่งออกแร่ดิบ โดยเฉพาะแร่นิกเกิลซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในการผลิตแบตเตอรีสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้บริษัทที่ต้องการใช้แร่นิกเกิลจำเป็นต้องตั้งโรงงานภายในประเทศ ซึ่งช่วยสร้างงานและเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของอินโดนีเซีย ทั้งนี้ อินโดนีเซียยังเป็นตลาดที่เข้าลงทุนได้ แต่ต้องจับตาอุตสาหกรรมสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะมีผลต่อการขึ้นลงของราคาหุ้น รวมถึงค่าเงินรูเปียมีทิศทางอ่อนค่า อาจทำให้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้

เวียดนาม ต้นทุนแรงงานต่ำ ฐานการผลิตใหม่ของโลก เวียดนาม เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ด้วยโครงสร้างประชากรที่มีวัยแรงงานจำนวนมาก ชนชั้นกลางมีรายได้มากขึ้น นอกจากนี้ เวียดนามยังมีต้นทุนแรงงานต่ำ ประกอบกับการที่รัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ โดยได้เจรจาความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำระดับโลก เช่น Apple, Samsung และ Nike ส่งผลให้เวียดนามกลายเป็นฐานการผลิตใหม่ของโลก มีส่วนช่วยให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งตลาดหุ้นเวียดนามยังมีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นโลกในระดับต่ำ ทำให้การลงทุนในพอร์ตของนักลงทุนมีความสมดุลมากขึ้น สามารถลงทุนระยะยาวได้ FED ลดอัตราดอกเบี้ย โอกาสลงทุนตราสารหนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% มาที่ระดับ 4.75-5.00% เป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในรอบกว่า 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งส่งผลดีต่อตราสารหนี้โดยตรง โดยเฉพาะตราสารหนี้ฝั่งประเทศเอเชีย เนื่องจากราคายังไม่แพง ต่างกับตราสารหนี้สหรัฐฯ ที่มีการปรับราคาขึ้นรับข่าวการลดดอกเบี้ยไปล่วงหน้าแล้ว

นอกจากนี้ยังมีกองทุนอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐานที่จะได้ประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน ทั้งนี้ มี 3 กองทุนแนะนำ ที่น่าสนใจลงทุนในช่วงเวลานี้ ได้แก่• K-APB-A(A) เน้นลงทุนตราสารหนี้ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ผ่านกองทุน LO Funds – Asia Value Bond Fund, (USD), NA (กองทุนหลัก)• K-GINFRA-C(A) ลงทุนในหุ้น และ REITs ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก เช่น คลังน้ำมัน เครือข่ายโทรคมนาคม ไฟฟ้า เป็นต้น• K-VIETNAM ลงทุนในหุ้นเวียดนามคุณภาพดี มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง

สามารถติดตามงานสัมมนา THE WISDOM Wealth Decoded ครั้งต่อไปได้ที่ https://www.kasikornbank.com/k_3ze7XMU

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img