กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัดเจรจาการค้าออนไลน์พาผู้ประกอบการผ่าวิกฤติ ยุค COVID-19 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เปิดให้บริการมาเป็นเวลากว่าสามเดือน โดยสามารถสร้างยอดส่งออกได้แล้วกว่า 10,000 ล้านบาท
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า “นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) มีนโยบายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศปรับรูปแบบการให้บริการประชาชนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงได้เพิ่มกิจกรรมในรูปแบบใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ส่งออกไทยยังสามารถขายสินค้าให้ผู้ซื้อในต่างประเทศได้ โดยการจัดการเจรจาการค้าผ่านระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์ (Online Business Matching) เป็นหนึ่งในกิจกรรมในรูปแบบใหม่ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการไทยและผู้นำเข้าต่างชาติเป็นอย่างมาก และสามารถสร้างให้เกิดการสั่งซื้อสินค้าไทยที่เรียกได้ว่าได้ผลดีเกินคาด”
ที่ผ่านมา มูลค่าการค้าที่เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรม Online Business Matching นับตั้งแต่เริ่มกิจกรรมในช่วงปลายเดือนเมษายน 2563 สามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายภายใน 1 ปี ได้รวมทั้งสิ้น 10,576.3 ล้านบาท โดยสินค้าที่มีการสั่งซื้อผ่านกิจกรรมดังกล่าวสูงสุด ได้แก่ ผลไม้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายส่งเสริมการขายผลไม้ไทยภายใต้แคมเปญ Thai Fruits Golden Months ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 5,784.5 ล้านบาท โดยเป็นการขายลำไยสด จำนวน 73,397 ตัน และลำไยอบแห้ง จำนวน 820 ตู้คอนเทนเนอร์ และส่งออกไปกว่า 9 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง อินเดีย บังคลาเทศ สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และฝรั่งเศส และเป็นการขายมะม่วงน้ำดอกไม้ จำนวน 3,200 ตัน พร้อมด้วยทุเรียนแกะเปลือกไปยังประเทศเกาหลีใต้อีกด้วย นอกจากนี้ ภายใต้กิจกรรมดังกล่าวสินค้าที่ได้รับสนใจจากผู้นำเข้า คือ การสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ไปตลาดสหรัฐอเมริกา และการสั่งซื้อข้าวไปยังตลาดโมซัมบิกและแอฟริกาใต้อีกด้วย
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเจรจาการค้าออนไลน์ (Online Business Matching) จัดขึ้นเพื่อทดแทนการเจรจาการค้าในรูปแบบเดิม โดยจัดให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถนัดเวลาในการเจรจาการค้าผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์กัน ซึ่งจุดแข็งของกิจกรรมนี้ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศก็คือ การมีระบบคัดกรองผู้ซื้อคุณภาพในต่างประเทศโดยทูตพาณิชย์ให้มาเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการศักยภาพของไทยที่ผ่านการตรวจสอบของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศโดยได้จัดให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อให้ศึกษากันและกันล่วงหน้าก่อนการเจรจา ซึ่งตรงนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสการสั่งซื้อสินค้าตามที่ผู้ซื้อต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายขึ้น ก็ยังเห็นว่าการเดินทางไปพบปะลูกค้าในต่างประเทศนั้นยังเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าใจธุรกิจของคู่ค้า และความต้องการตลาดได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะช่วยสร้างโอกาสทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะในระดับ SMEs ให้ได้รับความสะดวกสบาย สามารถเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ และที่สำคัญจะช่วยให้สามารถประหยัดเวลาและงบประมาณได้อย่างมาก ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศก็พร้อมที่จะพัฒนาระบบและการให้บริการเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบันต่อไป
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว สามารถสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก thaitrade.com และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.ditp.go.th หรือทาง facebook : Thaitrade.com และสามารถโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1169