กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI เข้ารับรางวัลเกียรติยศอันดับ 2 “บริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารงานดีเด่นประจำปี 2566″ จาก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในงานมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร ประจำปี 2567 (Prime Minister’s Insurance Awards 2024) ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และ บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์
รางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นการยอมรับถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างโดดเด่นของบริษัทฯ ซึ่งไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นผู้นำในด้านการบริหารจัดการองค์กรของ เมืองไทยประกันภัยเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัว และเติบโต ได้อย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมประกันภัย ซึ่งเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 92 ปี เราทุ่มเททำงาน ภายใต้หลักธรรมาภิบาล ยึดถือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นสำคัญ และตั้งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและเยียวยาผู้คนในยามเกิดภัย พร้อมดำเนินธุรกิจไปพร้อมการสร้างกำไรทางใจให้แก่สังคมไทย รางวัลในวันนี้เป็นเกียรติยศ และความภาคภูมิใจของคณะผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ทุกคน”
นอกจากนี้ เมืองไทยประกันภัยยังได้รับการยอมรับจาก คปภ. อย่างต่อเนื่องในด้านความสามารถในการบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากรางวัลอันทรงเกียรติที่บริษัทได้รับเป็นประจำทุกปี โดยในปี 2566 บริษัทฯ ได้รับรางวัล “บริษัทประกันภัยที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่อุตสาหกรรมประกันภัย” ประจำปี 2565 ขณะที่ปี 2565 ได้รับรางวัล “บริษัทประกันภัยที่มีความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจประกันภัย” ประจำปี 2564 ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเมืองไทยประกันภัย ในการสร้างระบบบริหารจัดการที่ยั่งยืน สอดคล้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง และในปี 2564 บริษัทฯ ยังได้รับรางวัล “บริษัทประกันวินาศภัยยอดเยี่ยม อันดับ 3” ประจำปี 2563 แสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศในด้านการดำเนินธุรกิจอีกด้วย
รางวัลนี้ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพของเมืองไทยประกันภัย ในการพัฒนากระบวนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถแข่งขันและสร้างคุณประโยชน์ให้แก่อุตสาหกรรมประกันภัยได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ในด้านของแผนการดำเนินงานในอนาคต ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งในภาคการประกันภัยสำหรับบุคคลหรือภาคธุรกิจ ที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ทันสมัย ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าต่างๆ เป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล รวมถึงการให้ความสำคัญกับกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างรอบด้านหลากหลาย ยืนยันการเป็นองค์กรที่อยู่เคียงข้างและเยียวยาประชาชนเมื่อยามเกิดภัย เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถเติบโต และครองความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันภัยได้อย่างยั่งยืน