16 มกราคม 2568 ผศ.ดร. อำนาจ จำรัสจรุงผล กรรมการการเคหะแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านอาชีพของผู้อยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติ โดยมี นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นายวิทวัต ปัญจมะวัต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายมงคล สงคราม รองอธิบดีกรมการจัดหางาน จ่าเอก ประยงค์ บุญช่วย ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมลงนามดังกล่าว พร้อมด้วยคณะกรรมการด้านการจัดการความรู้และนวัตกรรม
การเคหะแห่งชาติ และคณะผู้บริหารทั้ง 4 หน่วยงาน เข้าร่วมในพิธี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 ณ สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติให้ความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชน โดยเฉพาะเรื่องการส่งเสริมอาชีพให้ผู้อยู่อาศัยมีงานทำ มีรายได้มั่นคง สามารถหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีหลากหลายอาชีพที่เกิดขึ้นใหม่ในยุคดิจิทัล รวมถึงการนำเทคโนโลยีผนวกกับความคิดสร้างสรรค์มาเปลี่ยนแปลงรูปแบบสินค้าให้มีความทันสมัย เช่น การใช้ Packaging ที่ดึงดูดความสนใจให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการในตัวสินค้ามากขึ้น อีกทั้งช่องทางการจำหน่ายมิได้จำกัดแต่เพียงช่องทางออฟไลน์ แต่ยังมีการจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการกลุ่ม Startup ที่มีศักยภาพสูงสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
จากสิ่งที่กล่าวมานี้การเคหะแห่งชาติมองว่าเป็นเรื่องที่ดี หากมีการร่วมมือกับหน่วยงานที่มีความชำนาญมาช่วยกันพัฒนาเพิ่มทักษะด้านอาชีพให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติ การเคหะแห่งชาติจึงร่วมกับภาคีเครือข่าย 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และกรมการจัดหางาน เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านอาชีพของผู้อยู่อาศัยในชุมชนให้มีความรู้ ความสามารถ ทั้งในด้าน Reskill และ Upskill ให้สูงขึ้นและได้มาตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และส่งเสริมให้มีงานทำหรือสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพอิสระ มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว สามารถพึ่งพาตนเองได้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยจะเปิดโอกาสให้นักเรียนและนักศึกษามีงานทำในช่วงปิดภาคเรียนหรือช่วงว่างจากการเรียน และได้รับประสบการณ์ในการทำงานจริง ได้เรียนรู้อาชีพ รวมทั้งมีรายได้ที่เหมาะสมระหว่างทำงานอีกด้วยสำหรับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทักษะด้านอาชีพที่ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยในชุมชนและตลาดแรงงาน รวมทั้งจะออกใบประกาศรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงานให้กับผู้ที่ผ่านการทดสอบ ส่วนกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะส่งเสริมและสนับสนุนการต่อยอดการสร้างอาชีพ และจัดฝึกอบรมฝีมือแรงงานของผู้อยู่อาศัยในชุมชน เพื่อให้มีทักษะฝีมือที่สูงขึ้นตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน โดยผู้ผ่านการฝึกอบรมหรือผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดจะได้รับวุฒิบัตรรับรอง ด้านกรมการจัดหางานจะให้บริการข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน และประชาสัมพันธ์ตำแหน่งว่างงานให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชนให้รับทราบ รวมถึงแนะแนวอาชีพและให้คำปรึกษาด้านอาชีพเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสมกับความรู้ ความสามารถ และความถนัด ตลอดจนสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
“ความร่วมมือในครั้งนี้การเคหะแห่งชาติหวังว่าชาวชุมชนที่อาศัยอยู่ในโครงการของการเคหะแห่งชาติทุกคนทุกช่วงวัยจะได้มีงานทำ มีรายได้ที่มั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้ดีขึ้นทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ตามวิสัยทัศน์ สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย” นายทวีพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย