ผู้บริหารจระเข้ เผยไตรมาสสุดท้าย ตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศทรงตัว ทุ่มงบการตลาดเปิดแคมเปญ “ใช้จระเข้ ร่วมกัน ปกป้องทั้งบ้าน” จัดทัพสินค้ายอดขายอันดับ 1 ในหมวดกาวซีเมนต์ กาวยาแนว และเคมีภัณฑ์กันซึม นำเสนอสู่ตลาดใช้งานร่วมกันแบบครบวงจร เพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานก่อสร้าง
นายพงษ์พันธุ์ ประทีปมโนวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำในการผลิตและจำหน่ายสินค้านวัตกรรม เพื่องานก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่ง กล่าวว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศยังคงทรงตัว แม้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์จะเกิดการชะลอตัวของผู้ซื้อ แต่ปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับตลาดวัสดุก่อสร้างมาจากตลาดรีโนเวทบ้าน และการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเป็นหลัก
ในส่วนของบริษัทฯ ในไตรมาสสุดท้ายจะมีการเปิดตัวแคมเปญ “ใช้จระเข้ ร่วมกัน ปกป้องทั้งบ้าน” เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดวัสดุก่อสร้าง โดยชูผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายอันดับ 1 ในหมวดกาวซีเมนต์ กาวยาแนว และเคมีภัณฑ์กันซึม เพื่อแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานใหม่ของจระเข้สำหรับช่างมืออาชีพ และเป็นการสร้างการรับรู้และจดจำผลิตภัณฑ์จระเข้สามารถใช้งานร่วมกันแบบครบวงจร นอกจากนี้ แคมเปญดังกล่าว จะเจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่ตลาดรีโนเวทบ้าน ซึ่งขณะนี้มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคนิยมปรับปรุงบ้านเดิมแทนการก่อสร้างหรือซื้อใหม่ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เกิดการชะลอตัว กำลังซื้อที่ลดลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยบ้านที่มีการรีโนเวทจะมีอายุ 5 ปีขึ้นไป คาดว่าแคมเปญนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายให้บริษัทได้ประมาณ 10%
ทั้งนี้การรีโนเวทบ้านนั้นจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ต้องได้มาตรฐาน
ใช้งานง่าย ครบทุกการปกป้องทั้งบ้าน ซึ่งในปี 2564 คาดว่าจะมีบ้านที่ต้องการรีโนเวทเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่วนผลิตภัณฑ์ในแคมเปญ “ใช้จระเข้ ร่วมกัน ปกป้องทั้งบ้าน” ประกอบด้วย
• กาวซีเมนต์จระเข้เขียว เหมาะสำหรับติดกระเบื้องทุกประเภท ทั้งพื้นและผนังภายนอกอาคาร
ปาดลื่น เนื้อละเอียด ทำงานง่าย
• กาวยาแนว จระเข้ พรีเมี่ยม พลัส ยับยั้งการเกิดราดำ ด้วยเทคโนโลยีไมโครแบน ลดการสะสม
ของคราบสกปรกฝังแน่น ยึดเกาะสูงไม่หลุดล่อน
• จระเข้ เฟล็กซ์ ชิลด์ ซีเมนต์ทากันซึมชนิดยืดหยุ่น มีความอ่อนตัวสูง ปกปิดรอยร้าวได้ดี ทนรังสี UV ทนต่อสภาวะอากาศ ไม่มีสารพิษ สามารถใช้เก็บน้ำดื่ม และทาผนังบ่อเลี้ยงปลาได้
ดังนั้น มั่นใจได้ตั้งแต่ฐานรากจนถึงหลังคาด้วยผลิตภัณฑ์จระเข้ที่ตอบโจทย์ครบทั้งระบบ เพิ่มความแข็งแกร่ง ทนทาน ปลอดภัยกับผู้ใช้งานและผู้อยู่อาศัยให้บ้านสวยสมบูรณ์แบบ สำหรับแคมเปญ “ใช้จระเข้ ร่วมกัน ปกป้องทั้งบ้าน” บริษัทฯ ได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณา การออกบูธแนะนำ โปรโมชั่น การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ ฯลฯ เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยแคมเปญนี้จะเริ่มตั้งแต่วันนี้ – กลางปี 2564
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด กล่าวต่อว่า ในปี 2564 ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศไทย คาดว่ามีแนวโน้มเติบโตเท่ากับจีดีพีของประเทศ เนื่องจากการขยายตัวของโครงการก่อสร้างภาครัฐ แต่ในส่วนตลาดการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและตลาดท่องเที่ยวกำลังซื้อยังไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ดังนั้น ตลาดรีโนเวทบ้านจึงเป็นที่จับตลาดมองของผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม เทรนด์การเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญกับการเลือกวัสดุที่ใช้ง่าย ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งในส่วนผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ นั้น ได้คำนึงถึงเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน ทำให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่วางจำหน่ายสู่ท้องตลาด ถูกพัฒนาด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ อาทิ กลุ่ม Natural Color ใส่ใจสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร ผลิตจากวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก ด้วยการใช้ Limestone ผสานกับเทคโนโลยี Graphene ช่วยให้สีมีความคงทน และยังมีคุณสมบัติโดดเด่น (ในบางตัว) ในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เท่ากับต้นไม้ใหญ่ จนได้รับการรับรองจากเกณฑ์มาตรฐาน Cradle to Cradle Products ระดับ Gold จากสถาบัน Innovation Institute ที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมครบวงจร รวมถึงผ่านเกณฑ์การประเมินจาก Leadership in Energy and Environmental Design หรือ LEED ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเกณฑ์สำหรับการประเมินอาคารเขียว
ที่นิยมใช้ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก อีกด้วย