Tuesday, 7 May 2024 | 12 : 54 pm

4Quarter.co

Tuesday, 7 May 2024 | 12 : 54 pm
TOA สุดปัง! ทุ่ม 8.4 ล้าน เช่าเหมาลำ ขนทัพทีมช้างศึกไทย ดวลแข้งจีน สู้ศึกคัดเลือกฟุตบอลโลก – ‘มาดามแป้ง’ ขอบคุณจากใจ พร้อมเตรียมทีมให้ดีที่สุด   •   โรคหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ภัยเงียบอันตรายที่พร้อมคร่าชีวิต   •   กรุงเทพประกันภัย ห่วงใยลูกค้าที่ประสบภัยลมพายุฤดูร้อน รับแจ้งเคลม 24 ชั่วโมง โทรสายด่วน 1620   •   คณะกรรมการ คปภ. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งรองเลขาธิการ และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   สสว. ส่งภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ “ปวดหัวซินโดรม” มุ่งสร้างการรับรู้และแนะนำบริการ E-Service เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SME   •   เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ตอกย้ำความสำเร็จ การก้าวสู่องค์กร Net Zero   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเงิน 6 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี   •   ธ.ก.ส. จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันฉัตรมงคล 2567   •   ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยมาตรฐาน “Green Living Standard” ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนกลับคืนสู่โลก หนึ่งพันห้าร้อยล้านลิตรตลอด 3 ปี ลดผลกระทบ PM2.5 และประหยัดค่าไฟ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าให้แก่ลูกบ้าน   •   TOA โชว์วิชั่นผู้นำนวัตกรรมรักษ์โลก ชูแนวคิดความยั่งยืน “Future Tree” ในงานสถาปนิก’67 ตอกย้ำพันธกิจ Green Mission นวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   •   HKSTP นำเสนอโครงการบ่มเพาะ หวังเพิ่มศักยภาพของสตาร์ทอัพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชี้ไทยที่มีศักยภาพสูง เล็งดึงสตาร์ทอัพไทยเข้าสู่ฮ่องกงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้   •   ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล   •   เคทีซี จับมือ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ มอบสิทธิพิเศษ สำหรับชุดน้ำชายามบ่ายจากผลงานศิลปะชิ้นเอกของ วินเซนต์ แวน โก๊ะ   •   FWD ประกันชีวิต จัดงาน MDRT & Agency Annual Awards 2024 ฉลองความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล   •   เก็บคูปองส่วนลดสูงสุด 200 บาท/เดือน กับบัตรกรุงศรี เดบิต หรือบัตร Krungsri Boarding Card ที่ Lazada   •   THAIFA ประกาศผลรางวัลตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2567   •   MTL Click แอปพลิเคชันจากเมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4   •   ออมสิน จับมือ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคี ร่วมอนุรักษ์ป่าชายเลน   •   หอการค้าไทย Kick Off โครงการรวมพลังคนไทย บริจาคโลหิต ปี 2567 ต่อยอดโครงการ 9 แสนซีซี 90 ปี หอการค้าไทย เชิญชวนสมาชิกร่วมบริจาคโลหิต เพื่อใช้สำรองยามขาดแคลน   •   วิริยะประกันภัย ปิดฉากดวลวงสวิงสนามสุดท้ายโซนภาคใต้ “Viriyah Invitational Golf Tournament 2024”   •   “แอกซ่าประกันภัย” เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า จับมือ “วีซ่า”มอบประกันภัยการเดินทางต่างประเทศฟรี! รับเทรนด์ท่องเที่ยวเติบโต   •   กรุงศรี ออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือน ตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเครื่องกรองน้ำพกพาและน้ำดื่มสนับสนุนภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ   •   กรุงเทพประกันชีวิต และ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมจัดงานขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจใช้บริการวางแผนความคุ้มครองและการออมยาวนานกว่า 20 ปี   •   กรุงศรี คอนซูมเมอร์ แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด   •   แอปฟินนิกซ์ (FINNIX) เปิดตัวห้องเรียนออนไลน์ฟรี ‘เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์’ ตอบอินไซต์คนทำมาหากินที่ไม่มีเวลา ตั้งเป้าเสริมแกร่ง 10,000 คนทั่วไทยปีนี้   •   ฟิลลิปประกันชีวิต มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้น ภายใต้หัวข้อ “Get To Know Philliplife”   •   BAM จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาบุคลากร   •   SCG HOME Experience เปิด 3 โซนใหม่ ตอกย้ำทุกเทรนด์การอยู่อาศัยเอาใจคนรักบ้าน   •   ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME รายย่อย มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป

“อะโครเมกาลี” โรคหายาก สิทธิบัตรทองใช้รักษาได้

หากเอ่ยถึงโรคไจแกนติสซึม (Gigantism) และ อะโครเมกาลี (Acromegaly) เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่รู้จัก โรค “ไจแกนติสซึมและอะโครเมกาลี” จัดเป็นหนึ่งในโรคหายาก (Rare Disease) เนื่องจากมีความชุกของโรคต่ำมากในกลุ่มประชากร เนื่องจากการมีผู้ป่วยจำนวนน้อยมากทำให้การพัฒนายาเพื่อนำมาใช้ในการวินิจฉัย บรรเทา รักษาหรือป้องกันโรคหายากนี้เกิดขึ้นช้ากว่าการพัฒนายาสำหรับโรคที่มีความชุกสูงๆ ยาที่นำมาใช้ในการรักษาโรคหายากนี้จึงจัดเป็น “ยากำพร้า” ซึ่งมักจะมีราคาสูงหรือยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย

รศ.พญ.เมตตาภรณ์ พรพัฒน์กุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่าจากข้อมูลระบุว่าในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรปมีความชุกของโรคอะโครเมกาลีประมาณ 50 ราย ต่อประชากร 1 ล้านคน ถือว่าเป็นหนึ่งในโรคหายาก สำหรับประเทศไทย แม้ยังไม่มีข้อมูลศึกษาที่ชัดเจนแต่มีการคาดการณ์ว่า มีผู้ป่วยโรคอะโครเมกาลีจำนวน 3,000 คนทั่วประเทศ

โรคไจแกนติสซึมและอะโครเมกาลีเป็นกลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากภาวะที่มีระดับฮอร์โมนเจริญเติบโต (Growth hormone) ในเลือดสูงกว่าปกติ ฮอร์โมนเจริญเติบโตนี้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของร่างกาย หากพบฮอร์โมนนี้สูงเกินกว่าปกติในวัยเด็กจะทำให้ร่างกายมีการสูงใหญ่กว่าปกติจะเรียกว่าโรคไจแกนติสซึมหรือโรคยักษ์ แต่ถ้าหากมีฮอร์โมนสูงกว่าปกติหลังพ้นวัยเจริญเติบโตก็จะเกิดโรคอะโครเมกาลี ซึ่งผู้ป่วยจะมีกระดูกบางส่วนของร่างกายแผ่ขยายขนาดเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ อาทิ กระดูกใบหน้า มือและเท้า ทำให้มีรูปหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป มีสันคิ้วหนา กรามใหญ่ คางยื่น การสบฟันผิดปกติ และมีมือเท้าใหญ่ขึ้น
การที่มีระดับฮอร์โมนเจริญเติบโตสูงผิดปกตินอกจากจะทำให้ร่างกายสูงใหญ่ รูปหน้าเปลี่ยนแปลง มือเท้าใหญ่ขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้เกิดความผิดปกติของระบบต่างๆ ภายในร่างกายอีกด้วย อาทิเช่น ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ลิ้นโตคับปาก หัวใจโต ข้อเสื่อม เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีผลต่อระบบเผาผลาญของร่างกายทำให้มีโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูงตามมาได้ ผู้ป่วยที่มีโรคไจแกนติสซึมอะโครเมกาลี จะมีอัตราเสียชีวิตสูงกว่าประชากรทั่วไปประมาณ 2-3 เท่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่ควบคุมระดับฮอร์โมนเจริญเติบโตไม่ได้

รศ.พญ.เมตตาภรณ์ กล่าวว่า สาเหตุของโรคนี้มักเกิดจากเนื้องอกของต่อมใต้สมองเป็นหลักส่วนอาการของโรคจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นอาการของโรคซึ่งเกิดจากภาวะที่มีฮอร์โมนเกิน และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นอาการที่เกิดจากการที่เนื้องอกไปกดเบียดอวัยวะข้างเคียง โดยสัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะที่มีฮอร์โมนเกิน สังเกตได้จากมือและเท้าที่ใหญ่กว่าปกติจนผู้ป่วยต้องเปลี่ยนขนาดแหวน ขนาดรองเท้า การมีใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น กรามใหญ่ คางยื่น จมูกใหญ่ ริมฝีปากหนา ผิวหนังหน้าหยาบขึ้น หรือร่างกายที่สูงผิดปกติเป็นต้น ขณะเดียวกันอาจจะมีหัวใจโต ความดันโลหิตสูง มีโรคเบาหวานที่ควบคุมได้ยาก เและอาการอีกส่วนหนึ่งที่เกิดจากเนื้องอกบริเวณต่อมใต้สมองไปเบียดอวัยวะสำคัญที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณนั้น เช่น เส้นประสาทตา เส้นประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของลูกตา เส้นประสาทที่เลี้ยงความรู้สึกบริเวณใบหน้า ทำให้มีอาการปวดศีรษะ ตามัว เห็นภาพซ้อน หรือมีอาการชาบริเวณหน้าผากและโหนกแก้ม

“โรคนี้มีอาการที่หลากหลาย ผู้ป่วยบางคนอาจจะมาด้วยอาการปวดศีรษะหรือมองเห็นผิดปกติ บางคนถึงขั้นเป็นโรคเบาหวาน ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ หัวใจโตเหนื่อยง่าย บางคนอาจมาเพราะเกิดจากมีคนทักรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้แพทย์จะประเมินอาการแสดงที่เข้าได้กับโรคนี้ (ซึ่งสามารถดูได้จากภาพ) และการตรวจยืนยันว่ามีฮอร์โมนเจริญเติบโตสูงเกินระดับปกติหรือไม่ ร่วมกับการตรวจภาพถ่ายทางรังสีเพื่อประเมินก้อนเนื้องอกของต่อมใต้สมอง”

รศ.พญ.เมตตาภรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรคอะโครเมกาลี ถูกบรรจุอยู่ในกลุ่มโรคหายากที่สามารถใช้สิทธิรักษาประกันสุขภาพถ้วนหน้าของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ได้แล้วฉะนั้น หากมีอาการสงสัยและคิดว่าจะเป็นโรคนี้ แนะนำให้ไปพบแพทย์ตามสิทธิการรักษาได้ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้การรักษาทำได้ยากขึ้นและไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร มีโอกาสที่จะมีโรครุนแรงและโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้มาก แต่ถ้าหากผู้ป่วยสามารถตรวจพบได้เร็วและทำการรักษาเพื่อที่จะทำให้ระดับฮอร์โมนของผู้ป่วยใกล้เคียงกับคนปกติก็จะช่วยลดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ลงได้
การรักษาจะมีเป้าหมายเพื่อควบคุมระดับฮอร์โมนเจริญเติบโตในเลือดให้ใกล้เคียงระดับปกติมากที่สุดและการลดขนาดของก้อนเนื้องอก แนวทางการรักษาแพทย์จะทำการผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกออกเป็นลำดับแรกถ้าหากไม่มีข้อห้ามของการผ่าตัด เนื่องจากการผ่าตัดเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะให้ผู้ป่วยมีโอกาสหายขาดได้ แต่สำหรับผู้ป่วยบางรายที่เนื้องอกมีขนาดใหญ่หรือลุกลามมากซึ่งไม่สามารถผ่าตัดออกให้หมดได้ หรือในผู้ป่วยที่ไม่หายขาดหลังการผ่าตัด แพทย์อาจพิจารณาการรักษาด้วยการฉายแสง หรือการใช้ยาเพื่อลดและควบคุมระดับฮอร์โมน หรืออาจใช้ทั้งการฉายแสงควบคู่ไปกับการให้ยา