Saturday, 4 May 2024 | 12 : 26 am

4Quarter.co

Saturday, 4 May 2024 | 12 : 26 am
สสว. ส่งภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ “ปวดหัวซินโดรม” มุ่งสร้างการรับรู้และแนะนำบริการ E-Service เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SME   •   เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ตอกย้ำความสำเร็จ การก้าวสู่องค์กร Net Zero   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเงิน 6 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี   •   ธ.ก.ส. จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันฉัตรมงคล 2567   •   ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยมาตรฐาน “Green Living Standard” ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนกลับคืนสู่โลก หนึ่งพันห้าร้อยล้านลิตรตลอด 3 ปี ลดผลกระทบ PM2.5 และประหยัดค่าไฟ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าให้แก่ลูกบ้าน   •   TOA โชว์วิชั่นผู้นำนวัตกรรมรักษ์โลก ชูแนวคิดความยั่งยืน “Future Tree” ในงานสถาปนิก’67 ตอกย้ำพันธกิจ Green Mission นวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   •   HKSTP นำเสนอโครงการบ่มเพาะ หวังเพิ่มศักยภาพของสตาร์ทอัพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชี้ไทยที่มีศักยภาพสูง เล็งดึงสตาร์ทอัพไทยเข้าสู่ฮ่องกงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้   •   ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล   •   เคทีซี จับมือ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ มอบสิทธิพิเศษ สำหรับชุดน้ำชายามบ่ายจากผลงานศิลปะชิ้นเอกของ วินเซนต์ แวน โก๊ะ   •   FWD ประกันชีวิต จัดงาน MDRT & Agency Annual Awards 2024 ฉลองความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล   •   เก็บคูปองส่วนลดสูงสุด 200 บาท/เดือน กับบัตรกรุงศรี เดบิต หรือบัตร Krungsri Boarding Card ที่ Lazada   •   THAIFA ประกาศผลรางวัลตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2567   •   MTL Click แอปพลิเคชันจากเมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4   •   ออมสิน จับมือ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคี ร่วมอนุรักษ์ป่าชายเลน   •   หอการค้าไทย Kick Off โครงการรวมพลังคนไทย บริจาคโลหิต ปี 2567 ต่อยอดโครงการ 9 แสนซีซี 90 ปี หอการค้าไทย เชิญชวนสมาชิกร่วมบริจาคโลหิต เพื่อใช้สำรองยามขาดแคลน   •   วิริยะประกันภัย ปิดฉากดวลวงสวิงสนามสุดท้ายโซนภาคใต้ “Viriyah Invitational Golf Tournament 2024”   •   “แอกซ่าประกันภัย” เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า จับมือ “วีซ่า”มอบประกันภัยการเดินทางต่างประเทศฟรี! รับเทรนด์ท่องเที่ยวเติบโต   •   กรุงศรี ออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือน ตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเครื่องกรองน้ำพกพาและน้ำดื่มสนับสนุนภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ   •   กรุงเทพประกันชีวิต และ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมจัดงานขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจใช้บริการวางแผนความคุ้มครองและการออมยาวนานกว่า 20 ปี   •   กรุงศรี คอนซูมเมอร์ แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด   •   แอปฟินนิกซ์ (FINNIX) เปิดตัวห้องเรียนออนไลน์ฟรี ‘เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์’ ตอบอินไซต์คนทำมาหากินที่ไม่มีเวลา ตั้งเป้าเสริมแกร่ง 10,000 คนทั่วไทยปีนี้   •   ฟิลลิปประกันชีวิต มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้น ภายใต้หัวข้อ “Get To Know Philliplife”   •   BAM จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาบุคลากร   •   SCG HOME Experience เปิด 3 โซนใหม่ ตอกย้ำทุกเทรนด์การอยู่อาศัยเอาใจคนรักบ้าน   •   ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME รายย่อย มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   คิง เพาเวอร์ ส่งท้ายความฮอต ยิ่งช้อป ยิ่งได้ลด ตลอดทั้งเดือน   •   TOA เปิดนโยบาย GREEN MISSION เดินหน้าพันธกิจ พิชิต Net Zero เสริมแกร่งด้วย ฉลากลดโลกร้อน (CFR) มากที่สุดในสีทาอาคาร ตอกย้ำผู้นำตลาดสีเบอร์หนึ่ง เติบโตสู่ปีที่ 60 อย่างยั่งยืน   •   การเคหะแห่งชาติ ก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 อาคาร D1 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% คาดว่าจะส่งมอบให้ผู้อยู่อาศัยประมาณเดือนพฤษภาคม 2567   •   ทิพยประกันภัย จับมือ BEM มอบของขวัญช่วงวันแรงงาน สำหรับผู้ถือบัตร MRT/MRT PLUS และ EASY PASS รับฟรี! ประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท พร้อมค่าชดเชยรายวัน 500 บาทต่อวัน

อมาโด้ รุกคืบเปิดธุรกิจใหม่ Amado Shopping ฉีกทุกกฎทีวีโฮมช้อปปิ้ง ชูจีพีต่ำ รวมเรตติ้งเด็ดช่องดัง พร้อมโปรฯ โดนใจลูกค้า

อมาโด้ ประกาศเป้าปี 2564 แตะ 3,000 ล้านบาท หลังยืนหนึ่งเติบโตเหนือตลาด ปิดปี 2563 ด้วยยอดขาย 2,298 ล้านบาท เติบโต 231.14% เป็นมูลค่าถึง 1,600 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดรวม วิตามินและอาหารเสริมที่เติบโต 8.5% พร้อมกางแผนธุรกิจ ชู 3 กลยุทธ์หลัก เตรียมเปิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ทุกไตรมาส ควบคู่กับการสร้างแบรนด์ด้วยคำมั่นสัญญา “We Live For Your Health” ส่งแบรนด์ครองใจผู้บริโภค พร้อมเดินกลยุทธ์ต่อยอดช่องทางขายทรงประสิทธิภาพภายใต้กลยุทธ์ Real-Time Strategic Platform สร้างธุรกิจใหม่เพิ่มมูลค่าธุรกิจ ผนึกเข้ากับ Data Driven Marketing ชูหมัดเด็ดเปิดโมเดลธุรกิจใหม่ “Amado Shopping” เขย่าวงการทีวีโฮมช้อปปิ้งด้วยจุดแข็งคิด “GP” ต่ำเพียง 25% รวมเรตติ้งประสิทธิภาพจากช่องทีวีชั้นนำของประเทศ และจัดโปรโมชั่นสินค้าจับกลุ่มเป้าหมาย ของแต่ละช่องได้แบบเฉพาะเจาะจง ตั้งเป้าปีแรกกวาดรายได้ 1,000 ล้านบาท ผงาดขึ้นแท่นท็อป 1 ใน 10 ของตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งไทย จากการใช้ข้อมูลขับเคลื่อนการตลาด เพิ่มโอกาสสร้างยอดขายได้ 2เท่า ลุยเดินหน้าเข้าตลาด mai

นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (Amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริม อาหารชั้นนำ เผยจากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา อมาโด้วางกลยุทธ์สานต่อความสำเร็จให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ยิ่งขึ้น

ทั้งนี้โดนใช้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.กลยุทธ์นำแบรนด์อมาโด้ก้าวสู่แบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค ด้วยกำหนดคำมั่นสัญญา (Brand Promise) เป็น “We Live For Your Health” ให้ตลาดและผู้บริโภคจดจำอมาโด้ คือผู้ผลิตวิตามินอาหารเสริมที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นเกราะป้องกันสุขภาพของคนไทย ด้วยการรีแบรนด์ และรีแพ็คเกจใหม่ทั้งหมด 2.กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพ ตอบสนองความ ต้องการตลาด ด้วยทีม Research & Development ผู้ชำนาญการ คอยคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกไตรมาส โดยผลิตภัณฑ์ตัวแรกของปีนี้เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มโปรไบโอติก เกรดพรีเมี่ยม ตีตลาดสุขภาพ 3.กลยุทธ์เดินหน้าสร้างช่องทางขายที่หลากหลายและทรงประสิทธิภาพที่ตอบสนองทันทีทันใด (Real-Time Strategic Platform) ด้วยความสามารถในการมองหาช่องทางขาย ทรงประสิทธิภาพ ให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีศักยภาพ โดยมีแผนเพิ่มร้านอมาโด้ใหม่อีก 56 สาขา เป็น 100 สาขา เพิ่มตัวแทนขายอีก 25 ราย รวมกับตัวแทนปัจจุบันเป็น 50 ราย

นอกจากนี้ ล่าสุดยังได้เปิดตัว Amado Shopping นับเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ หรือ New Business Model บุกตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้ง และยังเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับวงการดังกล่าวด้วยการนำจุดแข็งด้านความสามารถ คัดสรรช่วงเวลาที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดของสถานีโทรทัศน์ชั้นนำในประเทศ มาผนวกเข้ากับ Data Driven Marketing เครื่องมือทางการตลาดที่ทรงประสิทธิภาพในการนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นตรงกลุ่ม เป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง สามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นถึง 2 เท่า

โดยโมเดลธุรกิจใหม่ดังกล่าว เกิดจากการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ หลังจากเดินหน้าทำการตลาดผ่านช่องทางเทเลเซลล์ ด้วยการนำสินค้าไปโปรโมทขายตามรายการต่าง ๆ ของสถานีโทรทัศน์ชั้นนำนับเป็นการต่อยอดช่องทางขายสู่ธุรกิจใหม่และนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าธุรกิจ ผนวกกับตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งยังมีมูลค่าการเติบโตน่าจับตา โดยเฉพาะยุคโควิด-19 ประกอบกับผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกดิจิทัล ผู้คนดูทีวีออนไลน์ย้อนหลังมากขึ้น ส่งผลให้ปี 2563 ตลาดดังกล่าวมีมูลค่าถึง 14,000 ล้านบาท

“Amado Shopping ไม่ได้เป็นเพียงช่องทางสำหรับจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนเองเท่านั้น แต่ยังเปิดรับ พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ต้องการนำสินค้ามาจัดจำหน่ายผ่านทาง Amado Shopping ซึ่งโมเดลธุรกิจใหม่ของ อมาโด้ถือเป็นการนำจุดแข็งของอมาโด้มาสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับธุรกิจใหม่มากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถเก็บรวบรวมสะสมข้อมูลลูกค้าเป็น Big Data ที่เป็นขุมทรัพย์สำคัญของธุรกิจ ผนวกกับศักยภาพของอมาโด้ในการทำ Data Driven Marketing สู่การเพิ่มมูลค่ามหาศาลให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่องอีกด้วย” นายธนาตรัยฉัตร กล่าว

ทั้งนี้ Amado Shopping มีจุดเด่นคือ 1.มีทีมเทเลเซลล์รับสายพร้อมปิดการขาย 200 คน 2.มีบริการส่ง สินค้ารวดเร็วมีประสิทธิภาพภายใต้การบริการของอมาโด้เอง สามารถส่งของได้ภายใน 48 ชั่วโมง 3.มีคลังสินค้า จัดเก็บสินค้าขนาดใหญ่ 3 ไร่ครึ่ง และคาดการณ์จะขยายเป็น 6 ไร่ ในอนาคต มีความสามารถในการจัดเก็บ และบริหารสต๊อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ 4.มีช่วงเวลาการออกอากาศ (เรตติ้ง) ที่ดีและมีประสิทธิภาพของ แต่ละช่องรวมมากกว่า 3,000 ออนแอร์แบบ Tie-in 5. GP ต่ำกว่าตลาดเพียง 25% 6.ฐานข้อมูลลูกค้า (Data Driven) และเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ช่วยให้สามารถจัดโปรโมชั่นและสินค้าแบบเจาะลึกตรงกลุ่ม เป้าหมายในแต่ละช่อง แต่ละรายการ สามารถสร้าง รายได้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และ 7.สามารถตรวจสอบยอดขาย และคำนวณ ROI ได้แบบ Real-Time ซึ่งในปีนี้อมาโด้ตั้งเป้ามีรายได้จาก Amado Shopping ถึง 1,000 ล้านบาท และก้าวขึ้นเป็นท็อป 1 ใน 10 ของตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งในประเทศ

นายพร้อมวิชญ์ กรณ์อัศวกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า อมาโด้ตั้งเป้าหมายรายได้เป็น 3,000 ล้านบาท ในปี 2564 ซึ่งจะส่งผลให้อมาโด้ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 ของตลาด ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และจะก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ในอีก 3 ปีข้างหน้า ประกอบกับเดินขยายธุรกิจรองรับการนำ บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภาพในปลายปีนี้หรือต้นปี โดยในปีที่ผ่านมา อมาโด้ ประสบผลสำเร็จด้วยยอดขาย 2,298 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 231.14% คิดเป็นมูลค่า 1,600 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มีรายได้ 694 ล้านบาท อัตราการเติบโตดังกล่าวคิดเป็น 10% ของตลาดวิตามินและอาหารเสริม ที่มีมูลค่า 22,621 ล้านบาท และมีมูลค่าการเติบโตสูงกว่าตลาดรวม ที่เติบตัวเลขเฉลี่ย 8.5%

โดยรายได้ดังกล่าวแบ่งตามช่องทางขายต่าง ๆ ดังนี้ ตัวแทน 49% เทเลเซลล์ 29% ออนไลน์ 16.8% ร้านค้า อมาโด้ 3% โมเดิร์นเทรด 2.2% เป็นเพศหญิงกว่า 87% และเพศชาย 13% และกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งมีกำลังซื้อสูงกว่า 51% สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มลูกค้าของอมาโด้เป็นกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงที่พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นตัวช่วยดูแลสุขภาพและความงาม

จากสัดส่วนรายได้ดังกล่าวทำให้เห็นว่าฐานลูกค้าเทเลเซลล์จากการขายของในรายการโทรทัศน์และออนไลน์ เติบโต ใกล้เคียงกัน ทำให้อมาโด้มองเห็นโอกาสเพิ่มมูลค่าธุรกิจ สู่การพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ “Amado Shopping” ความสำเร็จของอมาโด้ที่ผ่านมาเกิดจากแก่นในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ (Core Business) 3 ด้าน ได้แก่ 1.มี Research & Development คิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง 2.สร้างช่องทางขายที่หลากหลายและทรงประสิทธิภาพที่ตอบสนองทันทีทันใด (Real-Time Strategic Platform) 3.การขับเคลื่อนการตลาดด้วยข้อมูล หรือ Data Driven Marketing ด้วยการนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์หาความต้องการของลูกค้าในเชิงลึก (Customer Insight) สู่การออกแบบโปรโมชั่นและนำเสนอสินค้าให้ตรงตามความต้องการดังกล่าว ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะ