Sunday, 22 December 2024 | 1 : 47 pm
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Sunday, 22 December 2024 | 1 : 47 pm
spot_img
ธ.ก.ส. ชวนน้องๆ ออมเงิน รับกระปุก “คุณมั่งมี” สุดน่ารัก ผ่านแคมเปญเงินฝากวันเด็กแห่งชาติ “Kids D 2568”   •   เคพีไอ เปิดตัวสโลแกนใหม่ “Your Trust, Our Care” สื่อสารแบรนด์ผ่านคาแรคเตอร์ “Baby CARE Boy”   •   ถอดรหัส เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ เติบโตสวนกระแสตลาดก่อสร้างพัฒนา “ปูนเอสซีจี คาร์บอนต่ำ” รายแรกของไทยบุกตลาดโลก   •   “แอล ดับเบิลยู เอสฯ” ระบุ 3 เมกะเทรนด์ในการพัฒนาอสังหาฯ ปี 2568   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย คาดการณ์ ปี ’68 ธุรกิจประกันวินาศภัยฟื้น เติบโต 1.5%-2.5% รับแรงหนุนเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวฟื้นตัว   •   ธ.ก.ส. จับรายชื่อผู้โชคดีในแคมเปญ “แจกโชคใหญ่ใช้ BAAC Connect” ครั้งที่ 3รับของรางวัลมูลค่ารวม 3 แสนบาท   •   แรบบิท ประกันชีวิต ขนทัพผลิตภัณฑ์ร่วมงานมหกรรมการเงินกรุงเทพส่งท้ายปี ครั้งที่ 7   •   เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมกับ เอ ไลฟ์ ส่งความอุ่นใจส่งท้ายปี ด้วยแคมเปญ “ฟรี! ประกันอุบัติเหตุ อยู่ที่ไหน ก็อุ่นใจกับเอไอเอ”มอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่ม วงเงินคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาทต่อกรมธรรม์   •   กรุงเทพประกันชีวิต จัดโครงการ “ใส่ใจแบ่งปัน สานฝันเพื่อน้อง” รวมพลังทำความดีส่งท้ายปี 2567   •   เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลัง เคาน์เตอร์เซอร์วิส ส่ง “กรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่สุขกายสุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์)”เติมเต็มความสุขและความอุ่นใจรับเทศกาลปีใหม่   •   ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ โชว์ต้นคริสต์มาสรักษ์โลก เติมเต็มความสุขปีใหม่ 2568   •   ทิพยประกันภัย จับมือ NT ลงนาม MOU พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ายุคดิจิทัล   •   วิริยะประกันภัย ร่วมสนับสนุน คปภ. สมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ โครงการจัดหารถไฟฟ้าบริการประชาชน รพ.รามาฯ   •   กรุงเทพประกันภัย มอบรางวัลแห่งความภาคภูมิใจในการทำงาน   •   ธ.ก.ส. เตือนภัย! ระวังมิจฉาชีพทำหนังสือแอบอ้างเป็นธนาคาร เพื่อหลอกให้โอนเงิน
spot_img

จุรินทร์ เด็ดขาด! จัดหน้ากากอนามัยบริหารรวมศูนย์ ส่ง สธ. กระจาย โรงพยาบาลวันละ 7 แสนชิ้น ที่เหลือ วันละ 5 แสนชิ้น กระจายสู่ร้านธงฟ้า สนามบิน สายการบิน ให้ถึงประชาชนกลุ่มเสี่ยง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร) กล่าวว่า วานนี้ (4 มีนาคม 2563) กรรมการเชิญผู้แทนของโรงงานหน้ากากอนามัย และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ไม่ได้เป็นกรรมการเข้ามาหารือด้วย และได้ข้อสรุปดังนี้ คือ ภาพรวมของการผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศ โดยหน้ากากที่เป็นที่ต้องการอยู่ขณะนี้คือหน้ากากสีเขียว มีโรงงานที่ผลิตได้ 11 โรง มีกำลังการผลิตเดือนละ 36 ล้านชิ้น หรือ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขร่วมกันกรมการค้าภายใน ได้แบ่งหน้ากาก 600,000 ชิ้น จากโรงงานผู้ผลิตมาบริหารจัดการร่วมกัน ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนั้นกระจายออกตลาดโดยโรงงานผู้ผลิตเอง ซึ่งอาจจะทำให้ราคาแตกต่างกันในตลาด

“แต่ว่านับจากนี้ไปหน้ากากที่ผลิตได้จากโรงงานทั้งหมดจะถูกนำมาบริหารโดยศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย ตามมติครม.และคำสั่ง กกร.โดยมีกระทรวงสาธารณสุขบริหารร่วมกันกับกระทรวงพาณิชย์ โดยมีตัวแทนคือ รองเลขาฯอย. องค์การเภสัชกรรม•และผู้แทนจากโรงพยาบาลต่างๆ ศูนย์จึงมีหน้าที่บริหารจัดการหน้ากากทั้ง 1.2 ล้านชิ้นให้กระจายไปยังภาคส่าวนต่างๆ ” นายจุรินทร์ กล่าว

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมกันสรุปว่าจะจัดสรรให้กระทรวงสาธารสุข 700,000 ชิ้นโดยให้กระจายไปยังสถานพยาบาลทั้งหมดทั้งประเทศ ส่วนที่เหลือประมาณ 500,000 ชิ้น คน จะกระจายไปยังกลุ่มเสี่ยงอื่น รวมทั้งประชาชนทั้งประเทศ 60 ล้านคน เช่น ร้านขายยา หรือสายการบิน เช่น การบินไทย ร้านค้าส่งค้าปลีกต่างๆ รวมทั้งร้านธงฟ้า และอื่นๆ เป็นต้น โดยศูนย์กระจายหน้ากากอนามัยจะบริหารจัดการหน้ากาการ่วมกันทุกวัน เพื่อตรวจสอบการกระจายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดย 700,000 ชิ้นแรกจะเร่งไปเติมสต๊อกที่ขาดไปของโรงพยาบาลก่อน และจากนั้นจะได้บริหารจัดการอีกที ซึ่งครม.มีความเห็นชอบแล้วที่จะให้ขายหน้ากากอนายมัยที่ราคา 2.50 บาท โดยต้นทุนส่วนเกินรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระเอง

สำหรับหน้ากากนำเข้า จะมี 2 ส่วน ส่วนแรกคือหน้ากากอนามัยที่มีสีเขียว ที่เราใช้อยู่ขณะนี้ ซึ่งจะมีอยู่ไม่มากนัก และหน้ากากทางเลือกที่จะมีรูปทรงแตกต่างกันไป สำหรับหน้ากากทางเลือกนี้ กกร.มีความเห็นว่าราคาขายปลีกนนั้นไม่ควรจะเกินไปกว่าร้อยละ 60 ของต้นทุนนำเข้า ซึ่งร้อยละ 60 นี้จะรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆทั้งหมด เช่น ต้นทุนบริหาร ค่าขนส่ง และค่าตอบแทนต่างๆ นี่เป็นตัวแรกโดยประมาณ โดยผู้นำเข้าจะต้องแสดงต้นทุนนำเข้าว่าเป็นเท่าไหร่ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาของเจ้าหน้าที่

สำหรับหน้ากากที่ผลิตโดยโรงงานทั้ง 11 โรงงาน ที่ยังคงมีเหลือในประเทศ ที่ขายในราคาแตกต่างกันไป จะให้เวลาผู้ประกอบการ 3 วันในการเคลียร์สต๊อก จากวันจันทร์เป็นต้นไป จะต้องจำหน่ายในราคา 2.50 บาทต่อชิ้น ข้อกำหนดข้างต้นนี้ไม่รวมหน้ากากผ้า ที่ ครม.มีมติจัดสรรงบให้ 225 ล้านบาทเพื่อการผลิตโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน้ากากผ้าชนิดอื่นๆ ที่จะถูกผลิตในอนาคต ที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองแล้วว่ากันเชื้อโรคได้

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับการส่งออก ขอเรียนว่าจะไม่มีการอนุมติให้มีการส่งออกโดยเด็ดขาด เนื่องจากหน้ากากที่ผลิตได้ในประเทศทั้ง 36 ล้านชิ้น ก็ไม่เพียงพอกับการใข้ในประเทศอยู่แล้ว แต่หากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา ไทยมีหน้ากากเพียงพอ เนื่องจากความต้องกสรยังไม่สูงขนาดนี้ และช่วงบ่ายนี้เวลา 13.30 น.กรมการค้าภายในจะจัดรถโมบายออกไปจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพ๊กละ 4 ชิ้น จำนวนรวม 111 คัน สำหรับ กทม มี 21 คัน สำหรับต่างจังหวัด 90 คัน โดยมุ่งเน้นชุมชนเมือง โดยในรถโมบายจะมีสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นอื่นๆ นำไปขายประชาชนด้วย เนื่องจากสินค้าเหล่านั้นอาจจะมีแนวโน้มขาดแคลน และจากนี้จะมีการประชุมคณะทำงานทุกวัน เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง

เนื่องจากหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมแล้ว ผู้ที่มีพฤติกรรมดังต่อไปนี้ จะถูกดำเนินคดีในการกักตุน ได้แก่ 1. เก็บสินค้าไว้ที่อื่นนอกเหนือจากที่ที่แจ้งเจ้าหน้าที่ 2. ไม่นำหน้ากากที่มีอยู่ออกมาจำหน่าย 3. ปฏิเสธการจำหน่าย 4. ประวิงการจำหน่าย 5. ส่งมอบหน้ากากอนามัยโดยที่ไม่มีเหตุผลสมควร ผู้กักตุนหรือขายที่ราคาสูงเกินสมควรที่มีเจตนาจะสร้างความปั่นป่วน (ผิดตามมาตรา 29) มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท โดยปริมาณการครอบครองสูงสุดยังไม่มีการกำหนด เนื่องจากจะเกรงว่าจะกระทบกับผู้บริสุทธิ์ทั่วไป ที่จำเป็นต้องเก็บหน้ากากอนามัยไว้สำหรับปฏิบัติภารกิจ เช่นสถานพยาบาล ซึ่งหากสถานกาณ์เปลี่ยนแปลงก็จะมีการเปลี่ยนคำสั่งอีก ทั้งนี้ ผู้ขายเกินราคา (แต่ไม่เกินสมควร) จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

สำหรับสถานพยาบาลจะถือว่าเป็นผู้ที่จะได้รับการจัดสรรเป็นลำดับต้น โดยกระทรวงสาธารณุขจะเป็นผู้บริหารจัดการให้กระจายไปให้ทั่วถึงมากที่สุด โดยไม่ให้มีสถานพยาบาลใดตกหล่น

สำหรับประกาศ กกร.วันนี้จะมี 3 ฉบับ ฉบับแรกคือประกาศราคาขายปลีกสูงสุดของหน้ากากอนามัย ฉบับที่สองคือประกาศวิธีคิดต้นทุนในการกำหนดราคาขายหน้ากากนำเข้า และประกาศที่สามเรื่องเจลแอลกอฮอล์ ซึ่งการปรับราคาต้องขออนุญาตก่อน และ2-3วันที่ผ่านมานี้ ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ส่งคนประจำโรงงานทั้ง 11 โรงแล้ว รวมทั้งจะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปประจำแต่ละโรงงานด้วย เพื่อรายงานจำนวนผลผลิตจริง และจัดการการกระจายสินค้าไปยังส่วนอื่นๆ และสำหรับการนำเข้าวัตถุดิบสำหรับการผลิตหน้ากากอนามัย มีแนวโน้มนำเข้าได้ยากขึ้น แต่ยังพอเป็นไปได้คือจากอินโดนีเซียแต่ก็จะมีราคาที่สูงขึ้น ซึ่งได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ช่วยประสาน เพื่อหาแหล่งผลิตวัตถุดิบแล้ว

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img