Sunday, 22 December 2024 | 3 : 31 pm
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Sunday, 22 December 2024 | 3 : 31 pm
spot_img
คปภ. เสริมมาตรฐาน ลดข้อพิพาท! เปิดตัวคู่มือจ่ายสินไหมชัดเจน เพิ่มความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมประกันภัย   •   ธ.ก.ส. ชวนน้องๆ ออมเงิน รับกระปุก “คุณมั่งมี” สุดน่ารัก ผ่านแคมเปญเงินฝากวันเด็กแห่งชาติ “Kids D 2568”   •   เคพีไอ เปิดตัวสโลแกนใหม่ “Your Trust, Our Care” สื่อสารแบรนด์ผ่านคาแรคเตอร์ “Baby CARE Boy”   •   ถอดรหัส เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ เติบโตสวนกระแสตลาดก่อสร้างพัฒนา “ปูนเอสซีจี คาร์บอนต่ำ” รายแรกของไทยบุกตลาดโลก   •   “แอล ดับเบิลยู เอสฯ” ระบุ 3 เมกะเทรนด์ในการพัฒนาอสังหาฯ ปี 2568   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย คาดการณ์ ปี ’68 ธุรกิจประกันวินาศภัยฟื้น เติบโต 1.5%-2.5% รับแรงหนุนเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวฟื้นตัว   •   ธ.ก.ส. จับรายชื่อผู้โชคดีในแคมเปญ “แจกโชคใหญ่ใช้ BAAC Connect” ครั้งที่ 3รับของรางวัลมูลค่ารวม 3 แสนบาท   •   แรบบิท ประกันชีวิต ขนทัพผลิตภัณฑ์ร่วมงานมหกรรมการเงินกรุงเทพส่งท้ายปี ครั้งที่ 7   •   เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมกับ เอ ไลฟ์ ส่งความอุ่นใจส่งท้ายปี ด้วยแคมเปญ “ฟรี! ประกันอุบัติเหตุ อยู่ที่ไหน ก็อุ่นใจกับเอไอเอ”มอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่ม วงเงินคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาทต่อกรมธรรม์   •   กรุงเทพประกันชีวิต จัดโครงการ “ใส่ใจแบ่งปัน สานฝันเพื่อน้อง” รวมพลังทำความดีส่งท้ายปี 2567   •   เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลัง เคาน์เตอร์เซอร์วิส ส่ง “กรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่สุขกายสุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์)”เติมเต็มความสุขและความอุ่นใจรับเทศกาลปีใหม่   •   ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ โชว์ต้นคริสต์มาสรักษ์โลก เติมเต็มความสุขปีใหม่ 2568   •   ทิพยประกันภัย จับมือ NT ลงนาม MOU พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ายุคดิจิทัล   •   วิริยะประกันภัย ร่วมสนับสนุน คปภ. สมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ โครงการจัดหารถไฟฟ้าบริการประชาชน รพ.รามาฯ   •   กรุงเทพประกันภัย มอบรางวัลแห่งความภาคภูมิใจในการทำงาน
spot_img

SEAC จับมือ Simplilearn ผู้นำในการสร้าง Digital Academy นำเข้าหลักสูตรชั้นนำระดับโลก

SEAC (เอสอีเอซี) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน ตอกย้ำ “การเรียนรู้” สามารถเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในทุกช่วงอายุ ภายใต้ Lifelong Learning Concept เดินหน้าสานต่อพันธกิจในการพัฒนาทักษะและความสามารถของคนด้วยการรีสกิล (Reskill) และอัพสกิล (Upskill) เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ทรงประสิทธิภาพสู่หนทางความสำเร็จในระยะยาว

ล่าสุดร่วมมือ Simplilearn สถาบันผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลก ในการฝึกอบรม Digital Skills 4.0 นำเข้าหลักสูตรที่เสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานและใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิตอลที่หลากหลายและครอบคลุมต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ อาทิ DevOps, Lean Six Sigma, Digital Marketing, Advanced SEO, Advanced Digital Marketing, Advanced Social Media, Agile Scrum Master, Apache Kafka, Apache Cassandra, Apache Spark & Scala, Data Science and Analytics, Data Hadoop, Machine Learning, Power BI และอื่นๆ อีกมากมาย ผ่านการเรียนรู้บนโมเดล YourNextU รวมทั้งห้องเรียนเสมือนจริงออนไลน์ Live Virtual Session และการนำเสนอโซลูชั่นที่เฉพาะเจาะจงต่อความต้องการของแต่ละองค์กร (Customized Solution) เพื่อเร่งสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางโลกยุคดิสรัปชั่น

นางอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC (Southeast Asia Center) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า “SEAC เชื่อเสมอว่าการที่ประเทศไทยได้เปลี่ยนผ่านสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) โดยในปีนี้มีมูลค่าเศรษฐกิจดิจิตอลกว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือถือเป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้องค์กรใหญ่ๆ ต้องรีบลุกขึ้นมาปรับตัวทำเรื่อง Digital Transformation อีกทั้งเมื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตและธุรกิจในทุกแง่มุมอย่างปฏิเสธไม่ได้ เราจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตอยู่กับ Digital Transformation ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาความเข้าใจเทคโนโลยี ตีความ และประยุกต์ใช้งานได้ (Digital Literacy) และการพัฒนาทักษะในการใช้งานเทคโนโลยีเพื่อทำให้การทำงานของเราดีขึ้น สะดวกขึ้น สิ่งสำคัญคือเราต้องเตรียมความพร้อมให้ตัวเองและธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างไม่มีสะดุด ล่าสุด SEAC ได้ร่วมมือกับ Simplilearn สถาบันผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกในการฝึกอบรม Digital Skills 4.0 ด้วยรูปแบบการเรียนรู้ที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสาน และมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์ นำเข้าหลักสูตรพัฒนาทักษะดิจิตอลที่หลากหลายและครอบคลุมที่สุด สำหรับนำมาประยุกต์ใช้เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจและพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันของคนไทยในระบบเศรษฐกิจยุคใหม่”

“อย่ามองว่าเทคโนโลยีเป็นแค่เทคโนโลยี แต่ให้มองว่าเทคโนโลยีส่งผลกระทบเชิงลึกอย่างไรบ้างต่อชีวิตและธุรกิจของเรา หากอยากอยู่รอด ต้องดิสรัปต์ตัวเอง ก่อนจะถูกดิสรัปต์”

ในมุมมองของ Mr. Jaspreet Bindra ผู้ก่อตั้ง Digital Matters บริษัทให้คำปรึกษาเรื่อง Digital Transformation ผู้มีประสบการณ์โดยตรงและยาวนานในการสร้างการเปลี่ยนแปลงรูปแบบองค์กรมากมายอย่างมีกลยุทธ์และชั้นเชิงทางธุรกิจ โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเป็นตัวช่วยให้สอดรับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว กล่าวว่า “ไม่มีองค์กรไหนที่จะสามารถพลิกโฉมธุรกิจได้โดยไม่ต้องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาช่วย แต่ผู้นำองค์กรจะต้องเข้าใจกระบวนการทำ Digital Transformation ก่อนว่าการวางกลยุทธ์ทางดิจิตอล ไม่ใช่แค่เรื่องของการใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเพียงเท่านั้น หากองค์กรอยากจะปรับเปลี่ยนต้องตระหนักถึง 3 หัวใจสำคัญของ Digital Transformation ที่จะต้องทำงานสอดคล้องประสานกัน ได้แก่ 1. เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ส่งผลต่อโมเดลธุรกิจ (Business Model) เราจะต้องรู้จักมองหาเทรนด์และทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งถึงรูปแบบการใช้ชีวิต และความต้องการของพวกเขา เช่น การเติบโตของโมเดลธุรกิจแบบ Platform อันเป็นเพราะกระแสเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (Sharing Economy) กำลังมาแรงในหมู่วัยรุ่นที่หันมาลงทุนกับประสบการณ์ที่เน้นการเช่า-ยืมแทนการครอบครอง เพื่อลดทรัพยากรส่วนเกิน (Excess Capacity) และจัดสรรให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด 2. การให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า (Customer Experience) โดยวิเคราะห์ Consumer Journey และทำการวางรูปแบบตลาดให้สอดคล้องกันทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ (Online & Offline Strategy) เพราะทุกวันนี้เราไม่สามารถแยก 2 เรื่องนี้ได้ในการวางกลยุทธ์ เนื่องจากชีวิตของคนเราล้วนแล้วแต่ต้องเจอกับเรื่องทั้งออนไลน์และออฟไลน์ผสมกันอยู่ตลอดเวลา และ 3. คนและวัฒนธรรมขององค์กร (People and Culture) ซึ่งถือเป็นแกนหลักที่สำคัญที่สุด จนอาจพูดได้ว่าการทำ Digital Transformation ได้ประสบความสำเร็จต้องประกอบด้วยหลายปัจจัย แต่การทำ Digital Transformation ที่ไม่ประสบความสำเร็จเป็นเพราะเหตุผลเดียวนั่นคือเรื่องของ “คน” ซึ่งนี่คือเรื่องของการเน้นการสร้างและปลูกฝังให้คนในองค์กรมีทักษะดิจิตอลที่จำเป็น ประกอบกับการมี Digital Mindset คือกล้าลงมือทำ ไม่ยึดติด ไม่กลัวล้มเหลว พร้อมเรียนรู้และปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะหากขาดกลยุทธ์และการวางแผนที่รอบคอบอาจกลายเป็นแค่การเปลี่ยนระบบการทำงานซึ่งเกิดประโยชน์น้อย”

โดย Simplilearn คือ สถาบันผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกในการฝึกอบรมแบบออนไลน์ กับเป้าหมายที่ต้องการส่วนหนึ่งในการช่วยให้องค์กรและธุรกิจสามารถอยู่รอดท่ามกลางกระแสดิจิตอลดิสรัปชั่น ด้วยโปรแกรมการเรียนรู้แบบเจาะลึกเกี่ยวกับ Digital Transformation มุ่งเน้นไปที่การรีสกิล (Reskill) และอัพสกิล (Upskill) คนและองค์กรทั่วโลกผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยที่สุด ปัจจุบัน Simplilearn ให้บริการมายาวนานกว่า 10 ปี การันตีความนิยมด้วยยอดการใช้งานกว่า 150 ประเทศทั่วโลก พร้อมไปด้วยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมมาโดยเฉพาะมากกว่า 5 ล้านคนและผู้ฝึกสอนระดับอุตสาหกรรมกว่าอีก 1,000 คน อัดแน่นไปด้วยบทเรียนออนไลน์กว่า 150 บทเรียนให้เลือกตามความต้องการ และได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 10 แบรนด์ธุรกิจเพื่อการศึกษาที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกจาก LinkedIn

“ด้วยความตั้งใจให้คนไทยได้เข้าถึงเนื้อหา ทักษะความรู้ระดับโลกในรูปแบบและราคาที่คนไทยจับต้องได้ สำหรับความร่วมมือระหว่าง SEAC และ Simplilearn นี้ จะเน้นรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็น 1.ห้องเรียนออนไลน์ผ่านโมเดลการเรียนรู้ YourNextU 2. Labs/Live Virtual Session จากผู้เชี่ยวชาญพร้อมคำแปลภาษาไทย และ 3. การนำเสนอโซลูชั่นที่เฉพาะเจาะจงต่อความต้องการของแต่ละองค์กร (Customized Solution) เพราะเราเชื่อว่าทักษะดิจิตอล (Digital Skills 4.0) คือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดยุคดิสรัปชั่นที่คนไทยจำเป็นต้องรีสกิล (Reskill) และอัพสกิล (Upskill) ตั้งแต่วันนี้” นางอริญญา กล่าวสรุป

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img