Monday, 6 May 2024 | 11 : 28 am

4Quarter.co

Monday, 6 May 2024 | 11 : 28 am
โรคหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ภัยเงียบอันตรายที่พร้อมคร่าชีวิต   •   กรุงเทพประกันภัย ห่วงใยลูกค้าที่ประสบภัยลมพายุฤดูร้อน รับแจ้งเคลม 24 ชั่วโมง โทรสายด่วน 1620   •   คณะกรรมการ คปภ. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งรองเลขาธิการ และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   สสว. ส่งภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ “ปวดหัวซินโดรม” มุ่งสร้างการรับรู้และแนะนำบริการ E-Service เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SME   •   เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ตอกย้ำความสำเร็จ การก้าวสู่องค์กร Net Zero   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเงิน 6 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี   •   ธ.ก.ส. จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันฉัตรมงคล 2567   •   ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยมาตรฐาน “Green Living Standard” ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนกลับคืนสู่โลก หนึ่งพันห้าร้อยล้านลิตรตลอด 3 ปี ลดผลกระทบ PM2.5 และประหยัดค่าไฟ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าให้แก่ลูกบ้าน   •   TOA โชว์วิชั่นผู้นำนวัตกรรมรักษ์โลก ชูแนวคิดความยั่งยืน “Future Tree” ในงานสถาปนิก’67 ตอกย้ำพันธกิจ Green Mission นวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   •   HKSTP นำเสนอโครงการบ่มเพาะ หวังเพิ่มศักยภาพของสตาร์ทอัพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชี้ไทยที่มีศักยภาพสูง เล็งดึงสตาร์ทอัพไทยเข้าสู่ฮ่องกงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้   •   ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล   •   เคทีซี จับมือ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ มอบสิทธิพิเศษ สำหรับชุดน้ำชายามบ่ายจากผลงานศิลปะชิ้นเอกของ วินเซนต์ แวน โก๊ะ   •   FWD ประกันชีวิต จัดงาน MDRT & Agency Annual Awards 2024 ฉลองความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล   •   เก็บคูปองส่วนลดสูงสุด 200 บาท/เดือน กับบัตรกรุงศรี เดบิต หรือบัตร Krungsri Boarding Card ที่ Lazada   •   THAIFA ประกาศผลรางวัลตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2567   •   MTL Click แอปพลิเคชันจากเมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4   •   ออมสิน จับมือ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคี ร่วมอนุรักษ์ป่าชายเลน   •   หอการค้าไทย Kick Off โครงการรวมพลังคนไทย บริจาคโลหิต ปี 2567 ต่อยอดโครงการ 9 แสนซีซี 90 ปี หอการค้าไทย เชิญชวนสมาชิกร่วมบริจาคโลหิต เพื่อใช้สำรองยามขาดแคลน   •   วิริยะประกันภัย ปิดฉากดวลวงสวิงสนามสุดท้ายโซนภาคใต้ “Viriyah Invitational Golf Tournament 2024”   •   “แอกซ่าประกันภัย” เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า จับมือ “วีซ่า”มอบประกันภัยการเดินทางต่างประเทศฟรี! รับเทรนด์ท่องเที่ยวเติบโต   •   กรุงศรี ออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือน ตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเครื่องกรองน้ำพกพาและน้ำดื่มสนับสนุนภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ   •   กรุงเทพประกันชีวิต และ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมจัดงานขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจใช้บริการวางแผนความคุ้มครองและการออมยาวนานกว่า 20 ปี   •   กรุงศรี คอนซูมเมอร์ แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด   •   แอปฟินนิกซ์ (FINNIX) เปิดตัวห้องเรียนออนไลน์ฟรี ‘เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์’ ตอบอินไซต์คนทำมาหากินที่ไม่มีเวลา ตั้งเป้าเสริมแกร่ง 10,000 คนทั่วไทยปีนี้   •   ฟิลลิปประกันชีวิต มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้น ภายใต้หัวข้อ “Get To Know Philliplife”   •   BAM จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาบุคลากร   •   SCG HOME Experience เปิด 3 โซนใหม่ ตอกย้ำทุกเทรนด์การอยู่อาศัยเอาใจคนรักบ้าน   •   ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME รายย่อย มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   คิง เพาเวอร์ ส่งท้ายความฮอต ยิ่งช้อป ยิ่งได้ลด ตลอดทั้งเดือน

กทปส. ผลักดันศักยภาพด้านเทคโนโลยีการแพทย์ผ่านระบบห้องแยกโรคชนิดความดันลบ และระบบโทรเวชกรรม รพ. สมเด็จฯ

กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. ตรวจความคืบหน้า โครงการสนับสนุนเทคโนโลยีทางการแพทย์สู้ภัยโควิด-19 โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา โดยโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณกว่า 16 ล้านบาท ในการสร้างห้องความดันลบและระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine)และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าในช่วงที่ผ่านมา

นายแพทย์สมยศ โล่ห์จินดาพงศ์ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา กล่าวว่า โครงการจัดหาวัสดุ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ห้องแยกโรคชนิดความดันลบ และระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine) เพื่อเตรียมความพร้อม รับการระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ซึ่งได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมและสนับสนุนเงินจาก กทปส. เพื่อเตรียมความพร้อมสถานการณ์ “ไวรัสโคโรน่า” สายพันธุ์ใหม่ 2019 ร่วมกับ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ตั้งแต่ปี 2563 โครงการได้รับทุนสนับสนุนโครงการฯ จำนวน 16,556,000 บาท เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้ได้ดำเนินการ ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ

ทั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่
1.เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนากิจการโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับงานสาธารณสุข โดยมุ่งเน้นให้เกิดการเว้นระยะห่างทางกายภาพ หรือ Physical Distancing เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์ “ไวรัสโคโรน่า” สานพันธุ์ 2019 (COVID-19)
2.เพื่อจัดเตรียมระบบเทคโนโลยีสารสนเทศโดยใช้ระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine) ในกระบวนการคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 นอกสถานที่
3.เพื่อให้โรงพยาบาลมีห้องแยกโรคชนิดความดันลบ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคทางอากาศเพียงพอสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
รวมไปถึงการจัดเตรียมครุภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ ได้แก่ เครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมด้วยปริมาตรและความดันขนาดเล็ก กล้องอินฟาเรดสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย เครื่องเฝ้าระวังและติดตามสัญญาณชีพผู้ป่วย ห้องแยกโรคชนิดความดันลบ จำนวน 4 ห้อง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคทางอากาศ

นายแพทย์สมยศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้โครงการฯ ยังได้พัฒนาระบบ IoT ในห้องความดันลบ และพัฒนาระบบ Teleconference เพื่อใช้การดูแลรักษาผู้ป่วย พัฒนา API (Application Programming Interface) สำหรับการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศโรงพยาบาล (HIS ใหม่) และเครื่องมือวัดสัญญาณชีพผู้ป่วย รวมทั้งจัดเตรียมเวชภัณฑ์และวัสดุทางการแพทย์ในกระบวนการคัดกรองวินิจฉัยให้รวดเร็วเพียงพอ โดยมีเป้าหมายคัดกรองผู้สงสัยติดเชื้อ จำนวน 4,800 ในส่วนของการพัฒนาห้องความดันลบด้วยระบบ IoT จะมีการติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่าง ๆภายในห้องความดันลบ เพื่อช่วยให้ติดตามและเฝ้าระวังผู้ป่วยได้โดยที่ไม่ต้องเข้าไปภายในห้อง อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่อสัญญาณชีพ เพื่อส่งข้อมูลที่จำเป็นเข้าสู่เคาเตอร์พยาบาล และในส่วนของการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลส่วนกลางที่จะมีระบบคัดกรองด้วยปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยวิเคราะห์สัญญาณชีพต่าง ๆ จากระบบ IoT และส่วนโครงการ API จะเป็นการพัฒนาเชื่อมต่อกับระบบสารสนเทศของโรงพยาบาลทั้งในส่วนของระเบียนเวชและผลการตรวจวิเคราะห์ต่าง ๆ จากห้องปฏิบัติการ รวมทั้งผลการวิเคราะห์ต่าง ๆที่เคยได้ทำการรักษากับคนไข้รายนั้น ๆ

ทั้งนี้ภายในห้องคนไข้ บนหัวเตียงจะมีเซ็นเซอร์ที่วัดสภาพแวดล้อมของห้อง ทั้งในส่วนของอุณหภูมิ ความชื้น และสภาพอากาศภายในห้อง ทั้งระบบการหมุนเวียนของอากาศ แรงดัน และค่าก๊าซคาบอนไดออกไซต์ และอีกตัวคือการวัดสัญญาณชีพเพื่อส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบสารสนเทศของโรงพยาบาล เพื่อเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์แบบอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้แพทย์และพยาบาลผู้ดูแลสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้ผ่านโมบายแอปพลิคเชั่น และสั่งยาให้กับผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที

นายแพทย์สมยศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันระบบ IoT ของโรงพยาบาล ได้มีการพัฒนาต่อยอดหลังจากที่ได้รับเงินทุนสนับสนุน โดยได้ทำการเชื่อมต่อเข้าระบบเครื่องชั่งน้ำหนัก อุณภูมิ และส่วนสูงเข้ากับระบบสารสนเทศส่วนกลางแบบอัตโนมัติ นอกจากนั้นยังได้รับอนุมัติโครงการพัฒนาโมบายแอปพลิเคชั่น ในเรื่องของการลงทะเบียนเพื่อเข้ารับการรักษาแบบออนไลน์ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริการ ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา โดยในอนาคตจะมีการเชื่อมต่อระบบตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG (Electrocardiogram) เข้ามาในระบบส่วนกลาง พร้อมทั้งการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ด้านจักษุแพทย์ และระบบทุกส่วนของคลีนิกต่อไป เพื่อช่วยให้มีข้อมูลมากเพียงพอในการวิเคราะห์ ซึ่งระบบทั้งหมดจะเข้ามาอยู่ในฐานข้อมูลของโรงพยาบาลที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐาน (เครดิต : ขอบคุณ thereporter.asia)