Saturday, 4 May 2024 | 8 : 21 am

4Quarter.co

Saturday, 4 May 2024 | 8 : 21 am
สสว. ส่งภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ “ปวดหัวซินโดรม” มุ่งสร้างการรับรู้และแนะนำบริการ E-Service เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SME   •   เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ตอกย้ำความสำเร็จ การก้าวสู่องค์กร Net Zero   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเงิน 6 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี   •   ธ.ก.ส. จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันฉัตรมงคล 2567   •   ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยมาตรฐาน “Green Living Standard” ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนกลับคืนสู่โลก หนึ่งพันห้าร้อยล้านลิตรตลอด 3 ปี ลดผลกระทบ PM2.5 และประหยัดค่าไฟ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าให้แก่ลูกบ้าน   •   TOA โชว์วิชั่นผู้นำนวัตกรรมรักษ์โลก ชูแนวคิดความยั่งยืน “Future Tree” ในงานสถาปนิก’67 ตอกย้ำพันธกิจ Green Mission นวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   •   HKSTP นำเสนอโครงการบ่มเพาะ หวังเพิ่มศักยภาพของสตาร์ทอัพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชี้ไทยที่มีศักยภาพสูง เล็งดึงสตาร์ทอัพไทยเข้าสู่ฮ่องกงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้   •   ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล   •   เคทีซี จับมือ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ มอบสิทธิพิเศษ สำหรับชุดน้ำชายามบ่ายจากผลงานศิลปะชิ้นเอกของ วินเซนต์ แวน โก๊ะ   •   FWD ประกันชีวิต จัดงาน MDRT & Agency Annual Awards 2024 ฉลองความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล   •   เก็บคูปองส่วนลดสูงสุด 200 บาท/เดือน กับบัตรกรุงศรี เดบิต หรือบัตร Krungsri Boarding Card ที่ Lazada   •   THAIFA ประกาศผลรางวัลตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2567   •   MTL Click แอปพลิเคชันจากเมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4   •   ออมสิน จับมือ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคี ร่วมอนุรักษ์ป่าชายเลน   •   หอการค้าไทย Kick Off โครงการรวมพลังคนไทย บริจาคโลหิต ปี 2567 ต่อยอดโครงการ 9 แสนซีซี 90 ปี หอการค้าไทย เชิญชวนสมาชิกร่วมบริจาคโลหิต เพื่อใช้สำรองยามขาดแคลน   •   วิริยะประกันภัย ปิดฉากดวลวงสวิงสนามสุดท้ายโซนภาคใต้ “Viriyah Invitational Golf Tournament 2024”   •   “แอกซ่าประกันภัย” เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า จับมือ “วีซ่า”มอบประกันภัยการเดินทางต่างประเทศฟรี! รับเทรนด์ท่องเที่ยวเติบโต   •   กรุงศรี ออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือน ตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเครื่องกรองน้ำพกพาและน้ำดื่มสนับสนุนภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ   •   กรุงเทพประกันชีวิต และ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมจัดงานขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจใช้บริการวางแผนความคุ้มครองและการออมยาวนานกว่า 20 ปี   •   กรุงศรี คอนซูมเมอร์ แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด   •   แอปฟินนิกซ์ (FINNIX) เปิดตัวห้องเรียนออนไลน์ฟรี ‘เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์’ ตอบอินไซต์คนทำมาหากินที่ไม่มีเวลา ตั้งเป้าเสริมแกร่ง 10,000 คนทั่วไทยปีนี้   •   ฟิลลิปประกันชีวิต มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้น ภายใต้หัวข้อ “Get To Know Philliplife”   •   BAM จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาบุคลากร   •   SCG HOME Experience เปิด 3 โซนใหม่ ตอกย้ำทุกเทรนด์การอยู่อาศัยเอาใจคนรักบ้าน   •   ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME รายย่อย มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   คิง เพาเวอร์ ส่งท้ายความฮอต ยิ่งช้อป ยิ่งได้ลด ตลอดทั้งเดือน   •   TOA เปิดนโยบาย GREEN MISSION เดินหน้าพันธกิจ พิชิต Net Zero เสริมแกร่งด้วย ฉลากลดโลกร้อน (CFR) มากที่สุดในสีทาอาคาร ตอกย้ำผู้นำตลาดสีเบอร์หนึ่ง เติบโตสู่ปีที่ 60 อย่างยั่งยืน   •   การเคหะแห่งชาติ ก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 อาคาร D1 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% คาดว่าจะส่งมอบให้ผู้อยู่อาศัยประมาณเดือนพฤษภาคม 2567   •   ทิพยประกันภัย จับมือ BEM มอบของขวัญช่วงวันแรงงาน สำหรับผู้ถือบัตร MRT/MRT PLUS และ EASY PASS รับฟรี! ประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท พร้อมค่าชดเชยรายวัน 500 บาทต่อวัน

บอร์ด กนอ. ลงพื้นที่นิคมฯ บางปู ตรวจเช็คระบบบำบัดน้ำเสีย สั่งทุกหน่วยเตรียมแผนระบายน้ำช่วงฤดูฝน

บอร์ด กนอ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ติดตามการดำเนินการด้านระบบบำบัดน้ำเสีย กำชับทุกโรงงานปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมจัดประชุมหารือแผนการระบายน้ำช่วงฤดูฝน ลดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่รอบนิคมฯ

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย คณะกรรมการ กนอ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ กนอ. และผู้บริหาร กนอ ให้การต้อนรับ

นายกอบชัย ระบุว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อติดตามการดำเนินงานในด้านต่างๆของนิคมฯ พร้อมกับมอบนโยบายด้านการส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีในพื้นที่ โดยเน้นด้านการตลาดและนวัตกรรม ที่ใช้วิธีการกระจายสินค้าในการทำการตลาดเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี ล่าสุดได้ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยในการให้มีตลาดชุมชนในทุกพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีได้ทำการตลาดฟรี ภายใต้สโลแก “เศรษฐกิจฟรี สู่ชุมชน” 

นายกอบชัย กล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องการส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีในพื้นที่นิคมฯบางปูแล้วยังเป็นห่วงปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่นิคมฯบางปูที่ ซึ่ง กนอ. ได้รายงานว่าได้เตรียมแผนป้องกันน้ำท่วมไว้แล้ว โดยมีเขื่อนดินโดยรอบนิคมฯ และกรณีที่เกิดฝนตก น้ำจะไหลผ่านรางระบายน้ำฝนเข้าสู่บ่อพักน้ำฝน จำนวน 8 บ่อ ซึ่งบ่อพักน้ำฝนและรางระบายน้ำฝนทั่วพื้นที่นิคมฯบางปู มีความสามารถในการรองรับน้ำรวมทั้งสิ้น ประมาณ 347,000 ลูกบาศก์เมตร สำหรับการระบายน้ำออกนอกพื้นที่นิคมฯบางปูนั้น จะระบายน้ำออกนอกพื้นที่ด้วยเครื่องสูบน้ำ กำลังการสูบรวมประมาณ 82,000 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง แบ่งเป็นสถานีสูบระบายน้ำ จำนวน 11 สถานี กำลังการสูบรวมประมาณ 70,000 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และ เครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ จำนวน 10 ชุด กำลังการสูบรวมประมาณ 12,000 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ขณะเดียวกันยังมีมาตรการการบริหารจัดการด้านอื่นๆ เช่น การปรับปรุงและเตรียมความพร้อมของเครื่องสูบน้ำและระบบควบคุมตามแผนงานการบำรุงรักษา การขุดลอกคูคลอง การพร่องน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝน การติดตามและสื่อสารสภาพอากาศจากแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการฝึกซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีน้ำท่วม

“ปัจจุบัน การรระบายน้ำออกจากพื้นที่นิคมฯบางปู สามารถระบายออกจากพื้นที่ได้บริเวณทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก โดยทางด้านทิศเหนือระบายน้ำออกสู่คลองหกส่วน และด้านทิศตะวันออกระบายออกสู่คลองลำสลัด และเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการระบายน้ำที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชน ได้มอบหมายให้ กนอ.หารือร่วมกับหน่วยงานราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาจัดทำแผนปรับปรุงแก้ไขการระบายน้ำออกจากนิคมฯบางปูเพื่อลดผลกระทบต่อชุมชน โดยให้หาวิธีลดการระบายน้ำลงสู่คลองลำสลัดและคลองหกส่วน โดยอาจเป็นการระบายน้ำจากพื้นที่นิคมฯบางปูลงสู่คลองชายทะเลหรือระบายน้ำลงสู่ทะเลโดยตรง ซึ่ง กนอ.จะนำไปพิจารณาหาแนวทางเพื่อดำเนินการในระยะยาวต่อไป” นายกอบชัย กล่าว

นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า สิ่งที่คณะกรรมการ กนอ.เป็นห่วงอีกเรื่อง คือการจัดการระบบบำบัดน้ำเสีย ที่อยากให้นิคมฯบางปู ได้ทำความเข้าใจกับชุมชนรอบนิคมฯ อย่างชัดเจน ว่า น้ำที่ผ่านการบำบัดของนิคมฯบางปูเป็นน้ำที่มีคุณภาพตามมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีระบบบำบัดน้ำเสียที่มีคุณภาพสามารถรองรับน้ำเสียครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งมีด้วยกัน 3 แห่ง ประกอบด้วย 1.ระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง เขตอุตสาหกรรมทั่วไป ระบบ Activated Sludge (AS1) ที่สามารถรองรับน้ำเสียได้ 45,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน 2.ระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง เขตอุตสาหกรรมทั่วไป (ส่วนขยาย) ระบบ Activated Sludge (AS2) สามารถรองรับน้ำเสียได้ 3,600 ลูกบาศก์เมตร/วัน และ3.ระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง เขตประกอบการเสรี ใช้ระบบ Rotating Biological Contactor (RBC) รองรับน้ำเสียได้ 2,300 ลูกบาศก์เมตร/วัน โดยโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมทุกโรงงานต้องนำน้ำเสียผ่านระบบบำบัดน้ำเสียเบื้องต้นของแต่ละโรงงานก่อนแล้วจึงปล่อยน้ำเสียเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางของ กนอ.

“สำหรับระบบบำบัดน้ำเสียแบบแอกทิเวเต็ดสลัดจ์ (Activated Sludge Process) เป็นวิธีบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการทางชีววิทยา ที่ใช้แบคทีเรียพวกที่ใช้ออกซิเจน (Aerobic Bacteria) เป็นตัวหลักในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย ซึ่งสามารถบำบัดน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม โดยต้องควบคุมสภาวะแวดล้อมและลักษณะทางกายภาพต่าง ๆ ให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มจำนวนของจุลินทรีย์ และจะทำให้ระบบมีประสิทธิภาพในการบำบัดสูงสุด ซึ่งหลักการทำงานประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ถังเติมอากาศ (Aeration Tank) และถังตกตะกอน (Sedimentation Tank) โดยน้ำเสียจะถูกส่งเข้าถังเติมอากาศ ซึ่งมีสลัดจ์(เชื้อจุลินทรีย์ที่ย่อยสลายสารอินทรีย์ที่ปนเปื้อนมากับน้ำเสีย) อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งภายในถังเติมอากาศ (Aeration Tank) จะทำให้เชื้อจุลินทรีย์สามารถเจริญเติบโตได้ เชื้อจุลินทรีย์เหล่านี้จะทำการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียให้อยู่ในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำในที่สุด ซึ่งน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วจะไหลไปยังถังตกตะกอนเพื่อแยกสลัดจ์ออกจากน้ำใส โดยสลัดจ์ที่แยกตัวอยู่ที่ก้นถังตกตะกอนส่วนหนึ่งจะถูกสูบกลับเข้าไปในถังเติมอากาศใหม่ เพื่อรักษาความเข้มข้นของสลัดจ์ในถังเติมอากาศให้ได้ตามที่กำหนด และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นสลัดจ์ส่วนเกิน (Excess Sludge) ที่ต้องนำไปกำจัดต่อไป สำหรับน้ำใสส่วนบนจะเป็นน้ำทิ้งที่สามารถระบายออกสู่สิ่งแวดล้อมได้  นอกจากนี้ยังมีระบบการจัดการขยะ โดยมีเตาเผาขยะในพื้นที่ จำนวน 2 เตา สามารถรองรับของเสียได้ทั้งนิคมฯบางปูอีกด้วย” นางสาวสมจิณณ์ พิลึก กล่าว

ข้อมูลจำเพาะ : นิคมฯ บางปู จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ มีผู้ประกอบการจำนวน 370 โรงงาน เป็นเขตอุตสาหกรรมทั่วไป 324 โรงงาน เขตประกอบการค้าเสรี 46 โรงงาน มีผู้ใช้แรงงานในพื้นที่นิคมฯ ประมาณ 58,000 คน มูลค่าการลงทุน (ทั้งนิคมฯ) ประมาณ 203,595 ล้านบาท มูลค่าการส่งออกต่อปีประมาณ 45,833 ล้านบาท โดยนักลงทุนในนิคมฯบางปู ประกอบไปด้วย นักลงทุนญี่ปุ่น 24 % นักลงทุนไต้หวัน 20% นักลงทุนอเมริกา 5 % นักลงทุนสิงคโปร์ มาเลเซีย และยุโรป 12% รวมทั้งนักลงทุนชาวไทยอีก 39% โดยอุตสาหกรรมหลักในนิคมฯ ประกอบด้วย  อุตสาหกรรมปุ๋ย สีและเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมเหล็ก และเหล็กกล้า อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมยางและพลาสติก อุตสาหกรรมเครื่องหนัง อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และการขนส่ง