Monday, 29 April 2024 | 8 : 55 pm

4Quarter.co

Monday, 29 April 2024 | 8 : 55 pm
กลุ่มเอไอเอ ประกาศผลประกอบการมูลค่าธุรกิจใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยมูลค่าธุรกิจใหม่ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ   •   วิริยะประกันภัย ถวายเครื่องอุปโภคบริโภค มูลนิธิสหชาติ เพื่อสนับสนุนการจัดการแก้ปัญหาช้างป่าภาคตะวันออก   •   TOA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 และอนุมัติจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลัง 0.35 บาทต่อหุ้น   •   บีคอน วีซี ร่วมกับ SUN Group ลงทุน Series A ใน ION Energy สตาร์ทอัพพลังงานโซลาร์สัญชาติไทย หนุนการเข้าถึงพลังงานสะอาดต้นทุนต่ำ   •   เมืองไทยประกันภัย จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 จ่ายเงินปันผล 5.00 บาทต่อหุ้น   •   เคทีซี ควงแขน ซีไลฟ์ แบงคอก ชวนครอบครัวท่องเที่ยว เปิดประสบการณ์นอกห้องเรียน   •   พลังบุญทิพย #225 พิธีมหามงคลเทวาภิเษกบวงสรวงองค์เทพหนุมานทิพยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ พร้อมจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ประจำปี เพื่อความเป็นสิริมงคลแห่งแผ่นดินไทย   •   TQMalpha มั่นใจกลุ่มธุรกิจประกันเบี้ยแตะ 33,000 ล้านบาท เร่งสปีดพัฒนาเทค-แพลตฟอร์มกลุ่มประกันและการเงิน เพื่อตอบโจทย์การบริการผู้บริโภค   •   ลดสูงสุด 20% เมื่อจองเที่ยวบิน หรือ ที่พัก ผ่านบัตร Krungsri Boarding Card หรือบัตรกรุงศรี เดบิต ที่ Trip.com   •   “สาระ ล่ำซำ” รับรางวัลเกียรติยศ TOP CEO (THAILAND) 2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3   •   ธ.ก.ส. ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ MRR ลง 0.25% หนุนการฟื้นตัวกลุ่มเปราะบาง   •   เอไอเอ ประเทศไทย มอบรางวัลเกียรติยศแก่สุดยอดตัวแทน “ที่สุดแห่งปี” ประจำปี 2566 ในงาน AIA Annual Agency Awards Presentation 2023­­­­   •   ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย   •   ออมสิน ประกาศลดดอกเบี้ย MRR ลง 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยทุกกลุ่ม คงเหลืออัตราดอกเบี้ย MRR (หลังปรับลด) = 6.595%   •   Caring is Giving “Protect Your Car” ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ใส่ใจคุณ พร้อมเคียงข้างทุกการเดินทาง ชวนลดความเสี่ยง ปกป้องรถที่คุณรักอย่างยั่งยืน   •   เคทีซี เผยยอดใช้จ่ายไอเทมคลายร้อนที่ KTC U SHOP พุ่งกว่า 120% เปิดช่องทางช้อปใหม่ผ่านแอป KTC Moblie สะดวก ปลอดภัย พร้อมรับโปรสุดคุ้ม   •   กสิกรไทย ร่วมฉลองความสำเร็จ KCBL รุ่น 1   •   กคช. ระดมผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ มุ่งการพัฒนาควบคู่ 4 มิติ เศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงบั้นปลาย   •   ถอดบทวิเคราะห์ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เผยมุมมองขยายพอร์ต สู่ 4 จุดยุทธศาสตร์สำคัญของกรุงเทพฯ “กาญจนาภิเษก – พุทธมณฑล – พัฒนาการ – รามคำแหง”   •   สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายรัฐบาล ประกาศลดดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและกลุ่มเปราะบาง   •   ผู้บริหารไทยประกันชีวิต รับรางวัล TOP CEO Thailand 2023   •   วิริยะประกันภัย รวมพลังจิตอาสาสร้างโป่งเทียม แหล่งอาหารช้างป่า ผืนป่าภาคตะวันออก   •   กรุงศรี เดินหน้ากลยุทธ์กลุ่มลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ รุกสร้างระบบนิเวศเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมเชื่อมต่อโอกาสลงทุนในอาเซียน   •   ทีทีบี ชวนเอสเอ็มอี ร่วมสัมมนา finbiz connect the future for growth เชื่อมเทรนด์ธุรกิจอนาคต..สู่กลยุทธ์การเติบโตยั่งยืน   •   เงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับ นักศึกษาปริญญาโท บริหารธุรกิจ (MBA) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   •   เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับ มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบเงินสนับสนุน “มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจในพระบรมราชินูปถัมภ์”   •   พรูเด็นเชียล ประเทศไทย คว้ารางวัลสุดยอดนายจ้างระดับโลก “Global Best Employer Brand Awards 2024”   •   เปิดบ้านหรู 3 ชั้น พร้อมชม Club House สุดหรู ที่ ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50   •   กสิกรไทย ปรับโครงสร้างคณะกรรมการ ลดจำนวนกรรมการเป็น 15 คนจาก 18 คน เพิ่มสัดส่วนกรรมการอิสระเกินกว่ากึ่งหนึ่ง ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสอดคล้องมาตรฐานสากล   •   เอสซีจี แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2567 ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เดินหน้านวัตกรรมกรีนต่อเนื่อง เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด รุกธุรกิจในตลาดเติบโตสูง

บำรุงราษฎร์ แนะวิธีถนอมสายตา พร้อมชูเทคโนโลยีใหม่ในการรักษาปัญหาสายตาสั้นและเอียงด้วย ReLEx SMILE ไร้ใบมีด แผลเล็ก หายเร็ว

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้คาดการณ์ว่าในปี ค.ศ. 2050 ทั่วโลกจะมีประชากรกว่า 50% หรือประมาณ 5,000 ล้านคน จะเป็นผู้ที่มีภาวะสายตาสั้น และประมาณ 900 ล้านคนจะมีปัญหาสายตาสั้นมากกว่า 500 (หรือค่าสายตา -5.00 diopter) ขึ้นไป ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล ออกนอกบ้านน้อยลง จดจ่อกับโทรศัพท์หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์มากขึ้น รวมถึงพันธุกรรมจากพ่อแม่ที่สายตาสั้นทั้งคู่ จะส่งผลให้ลูกมีโอกาสสายตาสั้น สูงกว่าคนทั่วไปถึง 5 เท่า

พญ. ฐาริณี กุลกำม์ธร จักษุแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการตัดแก้ไขสายตาด้วยเลเซอร์ ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า สายตาผิดปกติที่พบได้ทั่วไป แบ่งออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่ สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง และสายตายาวสูงอายุ โดยภาวะสายตาสั้นเป็นปัญหาที่พบได้มากที่สุดในทุกเพศ ทุกวัย และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในเด็กเล็กจนถึงเด็กวัยเรียน ซึ่งภาวะสายตาสั้น หรือ Myopia คือความผิดปกติในระบบหักเหแสงและรวมแสงของดวงตา โดยแสงจากวัตถุที่มองในระยะไกลจะโฟกัสก่อนถึงประสาทตา ทำให้ผู้ที่สายตาสั้นจึงมองเห็นวัตถุที่อยู่ไกลเป็นภาพมัวๆ ไม่ชัด เนื่องจากกระบอกตายาวกว่าปกติ หรือกระจกตาโค้งมากกว่าปกติ อีกทั้งมักพบอาการสายตาเอียงร่วมกับสายตาสั้น โดยสถิติพบว่ากว่า 50% ของผู้มีปัญหาสายตา มักมีค่าสายตาเอียงร่วมด้วย ซึ่งสายตาเอียงเกิดจากการที่กระจกตามีความโค้งไม่เท่ากันในแต่ละแกน ทำให้เกิดจุดโฟกัส 2 จุด ไม่รวมเป็นภาพเดียว มีจุดหนึ่งโฟกัสที่ก่อนหรือหลังจอประสาทตา ทำให้ภาพที่เห็นจะทั้งเบลอและมีเงา หรือเป็นภาพซ้อน ซึ่งประสิทธิภาพการมองวัตถุแย่กว่าอาการสายตาสั้นหรือสายตาเอียงเพียงอย่างเดียว

ที่ผ่านมา ผู้มีปัญหาภาวะสายตาผิดปกติมักนิยมเลือกแว่นสายตาและคอนแทคเลนส์ ซึ่งเป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติแบบชั่วคราว ในขณะเดียวกันวิทยาการใหม่ๆ และนวัตกรรมในการรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยเลเซอร์ ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากเป็นการรักษาแบบถาวรและเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีหลากหลายวิธี อาทิ

  1. นวัตกรรมรีเลกส์ สมายล์ (ReLEx SMILE) เป็นเทคโนโลยีล่าสุดในการผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติด้วยเลเซอร์ที่พัฒนาต่อยอดมาจากเลสิก เป็นเทคนิคที่ไร้ใบมีดใช้ในการผ่าตัดแก้ไขสายตาสั้นและสายตาเอียง จะมีแผลเปิดที่กระจกตาเล็กมากประมาณ 2-4 มิลลิเมตร เพื่อปรับความโค้งของกระจกตาให้เหมาะสมกับค่าสายตาที่ต้องการแก้ไข โดยไม่กระทบกระเทือนกระจกตาชั้นบนและเส้นประสาทที่ผิวกระจกตา ทำให้แผลหายเร็วและสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ หลังจากผ่าตัดเพียง 1-2 วัน จะได้ค่าสายตาหลังการผ่าตัดที่มีความแม่นยำ วิธีนี้ไม่มีการตัดฝากระจกตาทำให้ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ฝากระจกตาตัดไม่สมบูรณ์ หรือฝากระจกตาเคลื่อน เป็นต้น​ เหมาะกับผู้ที่ไม่อยากใส่แว่น หรือคอนแทคเลนส์ โดยเป็นผู้ที่มีสายตาสั้นตั้งแต่ 50 ถึง 1000 (หรือ -10.00 D) และสายตาเอียงถึง 500 (-5.00 D) ซึ่งเป็นเทรนด์การแพทย์ของบำรุงราษฎร์ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีการรักษาแบบแผลเล็ก (Minimally Invasive Surgery) มาใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อวัยวะได้รับการบอบช้ำน้อยที่สุด
  1. การทำ Femtosecond LASIK เป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ โดยเป็นการตัดฝากระจกตาแบบไม่ใช้ใบมีด ด้วยเครื่อง Visumax Femtosecond Laser ร่วมกับเครื่อง Excimer laser (MEL90) ในการปรับแต่งความโค้งกระจกตา และปิดฝากระจกตากลับโดยไม่จำเป็นต้องเย็บแผล ​
  1. การทำ PRK (Photorefractive Keratectomy) สำหรับรักษาภาวะสายตาสั้น สายตายาวแต่กำเนิดและสายตาเอียง อีกทั้งเป็นวิธีทางเลือกสำหรับผู้มีกระจกตาบาง หรือไม่เหมาะสมกับการเลเซอร์ด้วยวิธีอื่น โดยใช้เครื่อง excimer laser ขัดที่ผิวกระจกตาโดยตรง และไม่มีการแยกชั้นกระจกตา ซึ่งเป็นวิธีการผ่าตัดแก้ไขสายตาวิธีแรกๆ และจำเป็นต้องใส่คอนแทคเลนส์เพื่อลดอาการระคายเคืองหลังผ่าตัดประมาณ 3-5 วัน
  1. การผ่าตัดด้วยเทคนิค Monovision สำหรับผู้ที่มีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป อาจพบกับปัญหาสายตายาวตามอายุ ทำให้การมองในที่ใกล้ลดลง โดยการผ่าตัดด้วยเทคนิคนี้เป็นการรักษาเพื่อช่วยให้มองเห็นชัดทั้งใกล้และไกล สามารถทำได้ด้วยวิธี ReLEx SMILE, Femtosecond LASIK และ PRK โดยการตั้งค่าเลเซอร์ให้ตาหนึ่งข้างมองชัดในที่ไกล ส่วนอีกข้างมองชัดในที่ใกล้ในผู้ที่สายตายาวตามอายุ ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม​

ทั้งนี้ จักษุแพทย์จะเป็นผู้ตรวจตาและวินิจฉัยอย่างละเอียดก่อนที่จะแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสม พร้อมให้ข้อมูลรายละเอียดของวิธีการรักษาต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ที่มีภาวะสายตาผิดปกติและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะรายบุคคลเพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดในการรักษา

พญ. ฐาริณี กุลกำม์ธร กล่าวให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพตา ที่ผ่านมาเรามักจะละเลยความสำคัญในการถนอมดวงตา ซึ่งถือเป็นอวัยวะที่ละเอียดอ่อนมากที่สุดอย่างหนึ่ง เนื่องจากอาจเสื่อมหรือบกพร่องจากเหตุปัจจัยต่างๆ ได้ เช่น อายุ อาชีพการงาน การเล่นกีฬา โภชนาการ สภาวะแวดล้อม และสุขภาพด้านอื่นของร่างกายที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของตา เช่น โรคเบาหวาน โรคต้อกระจก ฯลฯ จึงควร ‘ตรวจสุขภาพตา’ เป็นประจำทุกปี โดยเริ่มตรวจได้ตั้งแต่วัยเด็กก่อนเข้าเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เพราะทุกวันนี้มีแนวโน้มพบเด็กที่มีภาวะสายตาสั้นในอายุที่น้อยลงเรื่อยๆ 

ข้อควรปฏิบัติในชีวิตประจำวัน คือ ควรจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา ทำให้ตาไม่แห้ง และควรพักสายตาจากการจ้องจอมอนิเตอร์เป็นเวลานานๆ โดยใช้หลัก 20 20 20 คือ ทุกๆ 20 นาที ของการมองใกล้ เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์ อ่านหนังสือ โดยให้พักสายตาประมาณ 20 วินาที โดยมองไปที่ไกลในระยะ 20 ฟุต เพื่อคลายกล้ามเนื้อตา ทำให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและไม่ปวดกล้ามเนื้อตา ที่สำคัญควรหาเวลาออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านอย่างน้อย 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพราะจากการวิจัยระบุว่าแสงแดดจะสามารถป้องกันไม่ให้เด็กสายตาสั้นมาก เพราะในแสงแดดจะมีสารที่ไปยับยั้งไม่ให้ลูกตายาวเกินปกติ เพราะการที่ลูกตายาวเกินไปเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การโฟกัสตกก่อนจอประสาทตา ทำให้เกิดภาวะสายตาสั้นได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1378 หรือติดต่อศูนย์จักษุ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น. ฮอตไลน์ 0-2 011 3886 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bumrungrad.com/th/treatments/relex-smile และ https://youtu.be/c7XP6FLfEk0