Monday, 29 April 2024 | 2 : 14 am

4Quarter.co

Monday, 29 April 2024 | 2 : 14 am
ธ.ก.ส. ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ MRR ลง 0.25% หนุนการฟื้นตัวกลุ่มเปราะบาง   •   เอไอเอ ประเทศไทย มอบรางวัลเกียรติยศแก่สุดยอดตัวแทน “ที่สุดแห่งปี” ประจำปี 2566 ในงาน AIA Annual Agency Awards Presentation 2023­­­­   •   ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย   •   ออมสิน ประกาศลดดอกเบี้ย MRR ลง 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยทุกกลุ่ม คงเหลืออัตราดอกเบี้ย MRR (หลังปรับลด) = 6.595%   •   Caring is Giving “Protect Your Car” ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ใส่ใจคุณ พร้อมเคียงข้างทุกการเดินทาง ชวนลดความเสี่ยง ปกป้องรถที่คุณรักอย่างยั่งยืน   •   เคทีซี เผยยอดใช้จ่ายไอเทมคลายร้อนที่ KTC U SHOP พุ่งกว่า 120% เปิดช่องทางช้อปใหม่ผ่านแอป KTC Moblie สะดวก ปลอดภัย พร้อมรับโปรสุดคุ้ม   •   กสิกรไทย ร่วมฉลองความสำเร็จ KCBL รุ่น 1   •   กคช. ระดมผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ มุ่งการพัฒนาควบคู่ 4 มิติ เศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงบั้นปลาย   •   ถอดบทวิเคราะห์ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เผยมุมมองขยายพอร์ต สู่ 4 จุดยุทธศาสตร์สำคัญของกรุงเทพฯ “กาญจนาภิเษก – พุทธมณฑล – พัฒนาการ – รามคำแหง”   •   สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายรัฐบาล ประกาศลดดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและกลุ่มเปราะบาง   •   ผู้บริหารไทยประกันชีวิต รับรางวัล TOP CEO Thailand 2023   •   วิริยะประกันภัย รวมพลังจิตอาสาสร้างโป่งเทียม แหล่งอาหารช้างป่า ผืนป่าภาคตะวันออก   •   กรุงศรี เดินหน้ากลยุทธ์กลุ่มลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ รุกสร้างระบบนิเวศเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมเชื่อมต่อโอกาสลงทุนในอาเซียน   •   ทีทีบี ชวนเอสเอ็มอี ร่วมสัมมนา finbiz connect the future for growth เชื่อมเทรนด์ธุรกิจอนาคต..สู่กลยุทธ์การเติบโตยั่งยืน   •   เงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับ นักศึกษาปริญญาโท บริหารธุรกิจ (MBA) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   •   เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับ มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบเงินสนับสนุน “มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจในพระบรมราชินูปถัมภ์”   •   พรูเด็นเชียล ประเทศไทย คว้ารางวัลสุดยอดนายจ้างระดับโลก “Global Best Employer Brand Awards 2024”   •   เปิดบ้านหรู 3 ชั้น พร้อมชม Club House สุดหรู ที่ ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50   •   กสิกรไทย ปรับโครงสร้างคณะกรรมการ ลดจำนวนกรรมการเป็น 15 คนจาก 18 คน เพิ่มสัดส่วนกรรมการอิสระเกินกว่ากึ่งหนึ่ง ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสอดคล้องมาตรฐานสากล   •   เอสซีจี แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2567 ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เดินหน้านวัตกรรมกรีนต่อเนื่อง เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด รุกธุรกิจในตลาดเติบโตสูง   •   การเคหะแห่งชาติ ร่วมรับรางวัล “รัฐวิสาหกิจดีเด่นด้านการส่งเสริมและพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน” ภายในงาน “มอบรางวัล SIAMRATH AWARDS 2024”   •   ทิพยประกันภัย ปลุกกระแสประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพแพทย์ สร้างความอุ่นใจให้แพทย์ มอบความคุ้มครองสูงสุดถึง 6 ล้านบาท   •   องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี จับมือ เคทีซี เดินหน้าขยายฐานนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “Korea Everything” ทุกสิ่งเป็นจริงที่เกาหลี   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร จัดกิจกรรม “SMART HEALTHY CHALLENGE 2024” ดูแลสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก นำทุกคนก้าวสู่โลกใหม่เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดี   •   “สำนักงาน คปภ. – ภาคธุรกิจประกันภัย” เตรียมความพร้อมรองรับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 เรื่อง สัญญาประกันภัย (TFRS 17)   •   สมัครบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า รูดช้อปรับคุ้ม! รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%   •   เอไอเอ ประเทศไทย สนับสนุนกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุฟรี แก่เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ร่วมโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2   •   ทิพยประกันภัย คว้าสุดยอด 2 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ รางวัลผู้บริหารองค์กรดีเด่นแห่งปี และรางวัลบริษัทประกันภัยที่ส่งเสริมความยั่งยืนด้านการพัฒนาสังคมยอดเยี่ยม   •   ศุภาลัย ผนึก ทีโอเอ ปั้นนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว ผุดโปรเจกต์ยักษ์ ‘ฝ้ายิปซัม & สีรักษ์โลก’ เดินหน้าสู่องค์กร Zero Waste อย่างยั่งยืน   •   ออมสิน รับรางวัลองค์กรแห่งความยั่งยืนเพื่อสังคม

คปภ. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ทุกฝ่ายเห็นตรงกันที่จะต้องเร่งแปลงโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ Digital Insurance ให้เป็นรูปธรรม

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ เปิดเวทีสัมมนารับฟังความคิดเห็นตามโครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาและเสนอแนะแนวทางการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมประกันภัยปรับเปลี่ยนองค์กร (Transformation) เป็น Digital Insurance ณ โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ (Grand Richmond Hotel) จังหวัดนนทบุรี

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลการศึกษาเสนอแนะแนวทางการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมประกันภัยปรับเปลี่ยนองค์กรเป็น Digital Insurance ในเบื้องต้น พร้อมทั้งเพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เช่น กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย สมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทย สภาองค์กรของผู้บริโภค สมาคมโรงพยาบาลเอกชน เป็นต้น

โดยการสัมมนาเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง จัดขึ้น 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565

เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า สำนักงาน คปภ. มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมประกันภัยปรับเปลี่ยนองค์กร (Transformation) เป็น Digital Insurance โดยได้จัดให้มีการ Kick Off โครงการนี้เมื่อช่วงเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา โดยที่ปรึกษาซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านกฎหมาย คณิตศาสตร์ประกันภัย บริหารความเสี่ยง ด้านการตลาด และด้าน IT ได้มีการทบทวนสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 กรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 4 รวมถึงกฎหมายประกันภัยของประเทศไทยที่เกี่ยวข้อง มีการนำข้อเสนอแนะของ World Bank และ IMF ในการประเมิน FSAP ด้านการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยมาพิจารณา มีการวิเคราะห์โครงสร้างตลาดประกันภัยทางเศรษฐศาสตร์ วิเคราะห์และเปรียบเทียบกับ Market Structure ในต่างประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม เป็นต้น และที่สำคัญได้มีการทำ Survey เกี่ยวกับ Digital Insurance ของบริษัทประกันภัยไทย และมีการสัมภาษณ์บุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องในหลากหลายภาคส่วน

ดังนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาและเป็นการสร้างความเข้าใจเบื้องต้นให้กับผู้มีส่วนได้เสียกับอุตสาหกรรมประกันภัยไทย สำนักงาน คปภ. จึงได้จัดการสัมมนาเปิดรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวขึ้น ซึ่งเป็นการนำเสนอผลการศึกษาโดยอาจารย์พฤทธิพร นครชัย จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของที่ปรึกษาศศินทร์ฯ แบ่งเป็น 2 ด้าน คือ ด้านที่ 1 การกำกับดูแล เสนอแนะให้กำกับดูแลให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมมีสภาพแวดล้อมที่สามารถแข่งขันได้เท่าเทียมกัน อาทิ การเปิดเสรีให้มีการแข่งขันกับต่างประเทศ หรือการแข่งขันระหว่างบริษัทประกันภัยดิจิทัล และบริษัทประกันภัยแบบดั้งเดิม เช่น การขออนุมัติหรือการมี Fast Track ในการทดสอบผลิตภัณฑ์ และควรดึงดูดบริษัทประกันภัยต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศ รวมทั้งควรเพิ่มความยืดหยุ่นในการกำกับดูแลเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของธุรกิจและนวัตกรรมดิจิทัลในอนาคต โดยเสนอแนะให้สำนักงานฯ เร่งดำเนินการตามแผนการปรับการกำกับดูแล ให้เป็น Principle หรือ Objective Based มากขึ้น เช่น การกำกับดูแลแบบ Portfolio ตามระดับชั้นของความสามารถความเสี่ยงและความเข้มแข็งทางการเงินรวมทั้งขั้นตอนการอนุมัติผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเน้นความเสถียรของระบบและความปลอดภัยมากกว่ารายละเอียดปลีกย่อย ด้านที่ 2 แนวทางการส่งเสริมดิจิทัล อาทิ ส่งเสริมให้มีผู้บริหารด้านดิจิทัลของบริษัทประกันภัยมาจากอุตสาหกรรมดิจิทัล โดยแนวทางควรเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจในด้านเทคนิครวมถึง Mindset ของตลาดและการดำเนินธุรกิจดิจิทัลอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งควรมีการสร้าง Platform กลาง ที่บริษัทประกันภัยสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น TFRS17 ที่มีการลงทุนสูง เป็นต้น โดยสำนักงาน คปภ. อาจเปิดโอกาสให้ Startup ที่มีความสามารถเข้ามาเป็นผู้จัดทำ Platform กลาง เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือการคำนวณอัตราเบี้ยประกันภัย ลดการฉ้อฉลประกันภัยและต้นทุนบริษัทประกันภัย ลดภาระในการแปลงข้อมูลเข้าสู่ระบบภายในสำนักงานฯ และลดการลงทุนด้านข้อมูลที่ซับซ้อน โดยอาจมีการเชื่อมต่อข้อมูลที่สำคัญในธุรกิจร่วมด้วย

นอกจากนี้ สำนักงานฯ อาจพิจารณาการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนทักษะที่จำเป็น เช่น นักคณิตศาสตร์ประกันภัย โดยอาจมีโครงการ Actuary Junior และควรมีการประชุมกับภาคธุรกิจอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเพื่อทราบความเป็นไปปัญหาและอุปสรรคในการหาทางออกหรือแก้ไขร่วมกัน ตลอดจนดำเนินการร่วมกับภาครัฐอื่น ๆ เพื่อดำเนินการในด้านต่าง ๆ เช่น การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับโรงพยาบาลเอกชน และแก้ไขกฎหมายที่ปลดข้อจำกัดทางด้านการดำเนินงานด้านดิจิทัล รวมไปถึงการควบรวมบริษัทประกันภัย เป็นต้น

“การสัมมนาครั้งนี้นอกจากเป็นเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมประกันภัยไทยแล้ว ยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประสบการณ์เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการธุรกิจประกันภัยในมิติต่าง ๆ และการพัฒนาองค์กรให้สามารถเผชิญกับบริบทของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที โดยจากการแสดงความคิดเห็น มีข้อเสนอแนะในทิศทางที่สอดคล้องกันคือ เห็นความสำคัญที่บริษัทประกันภัยจะต้องปรับเปลี่ยนองค์กรเป็น Digital โดยควรมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในทุกกระบวนงานของระบบประกันภัย (End-to-End Process) และควรต้องให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงเรื่อง IT Security โดยเห็นว่าที่ผ่านมาโครงการ OIC Sandbox ของสำนักงาน คปภ. เป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาคธุรกิจประกันภัย

สำหรับประเด็นที่เกี่ยวกับจำนวนของผู้ประกอบการในธุรกิจประกันภัยที่เหมาะสม ผู้เข้าร่วมงานสัมมนาเห็นว่าควรต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการผูกขาด และการแข่งขันในธุรกิจ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้เสียผลประโยชน์ และสำนักงาน คปภ. ควรมีการกำกับดูแลที่เป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ที่มาจากกลุ่ม Start-up เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ร่วมสัมมนาเห็นตรงกันว่าการควบรวมกิจการของบริษัทประกันภัย เป็นปัจจัยที่จะสร้างจุดแข็งให้กับบริษัทในการ Transform เป็น Digital Insurer เป็นต้น ทั้งนี้ทีมที่ปรึกษาโครงการจะได้นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้เข้าร่วมสัมมนาไปเพิ่มเติมและปรับปรุงผลการศึกษาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเพื่อจะได้ใช้เป็นแนวทางในการกำกับดูแลให้อุตสาหกรรมประกันภัยก้าวสู่การเป็น Digital Insurance อย่างแท้จริง และเกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย