Monday, 6 May 2024 | 8 : 39 am

4Quarter.co

Monday, 6 May 2024 | 8 : 39 am
โรคหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ภัยเงียบอันตรายที่พร้อมคร่าชีวิต   •   กรุงเทพประกันภัย ห่วงใยลูกค้าที่ประสบภัยลมพายุฤดูร้อน รับแจ้งเคลม 24 ชั่วโมง โทรสายด่วน 1620   •   คณะกรรมการ คปภ. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งรองเลขาธิการ และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   สสว. ส่งภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ “ปวดหัวซินโดรม” มุ่งสร้างการรับรู้และแนะนำบริการ E-Service เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SME   •   เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ตอกย้ำความสำเร็จ การก้าวสู่องค์กร Net Zero   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเงิน 6 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี   •   ธ.ก.ส. จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันฉัตรมงคล 2567   •   ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยมาตรฐาน “Green Living Standard” ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนกลับคืนสู่โลก หนึ่งพันห้าร้อยล้านลิตรตลอด 3 ปี ลดผลกระทบ PM2.5 และประหยัดค่าไฟ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าให้แก่ลูกบ้าน   •   TOA โชว์วิชั่นผู้นำนวัตกรรมรักษ์โลก ชูแนวคิดความยั่งยืน “Future Tree” ในงานสถาปนิก’67 ตอกย้ำพันธกิจ Green Mission นวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   •   HKSTP นำเสนอโครงการบ่มเพาะ หวังเพิ่มศักยภาพของสตาร์ทอัพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชี้ไทยที่มีศักยภาพสูง เล็งดึงสตาร์ทอัพไทยเข้าสู่ฮ่องกงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้   •   ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล   •   เคทีซี จับมือ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ มอบสิทธิพิเศษ สำหรับชุดน้ำชายามบ่ายจากผลงานศิลปะชิ้นเอกของ วินเซนต์ แวน โก๊ะ   •   FWD ประกันชีวิต จัดงาน MDRT & Agency Annual Awards 2024 ฉลองความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล   •   เก็บคูปองส่วนลดสูงสุด 200 บาท/เดือน กับบัตรกรุงศรี เดบิต หรือบัตร Krungsri Boarding Card ที่ Lazada   •   THAIFA ประกาศผลรางวัลตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2567   •   MTL Click แอปพลิเคชันจากเมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4   •   ออมสิน จับมือ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคี ร่วมอนุรักษ์ป่าชายเลน   •   หอการค้าไทย Kick Off โครงการรวมพลังคนไทย บริจาคโลหิต ปี 2567 ต่อยอดโครงการ 9 แสนซีซี 90 ปี หอการค้าไทย เชิญชวนสมาชิกร่วมบริจาคโลหิต เพื่อใช้สำรองยามขาดแคลน   •   วิริยะประกันภัย ปิดฉากดวลวงสวิงสนามสุดท้ายโซนภาคใต้ “Viriyah Invitational Golf Tournament 2024”   •   “แอกซ่าประกันภัย” เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า จับมือ “วีซ่า”มอบประกันภัยการเดินทางต่างประเทศฟรี! รับเทรนด์ท่องเที่ยวเติบโต   •   กรุงศรี ออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือน ตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเครื่องกรองน้ำพกพาและน้ำดื่มสนับสนุนภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ   •   กรุงเทพประกันชีวิต และ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมจัดงานขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจใช้บริการวางแผนความคุ้มครองและการออมยาวนานกว่า 20 ปี   •   กรุงศรี คอนซูมเมอร์ แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด   •   แอปฟินนิกซ์ (FINNIX) เปิดตัวห้องเรียนออนไลน์ฟรี ‘เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์’ ตอบอินไซต์คนทำมาหากินที่ไม่มีเวลา ตั้งเป้าเสริมแกร่ง 10,000 คนทั่วไทยปีนี้   •   ฟิลลิปประกันชีวิต มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้น ภายใต้หัวข้อ “Get To Know Philliplife”   •   BAM จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาบุคลากร   •   SCG HOME Experience เปิด 3 โซนใหม่ ตอกย้ำทุกเทรนด์การอยู่อาศัยเอาใจคนรักบ้าน   •   ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME รายย่อย มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   คิง เพาเวอร์ ส่งท้ายความฮอต ยิ่งช้อป ยิ่งได้ลด ตลอดทั้งเดือน

“โมเดอร์น่า” ประกาศผลการวิจัยทางคลินิกเบื้องต้น ของวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรผสม mRNA-1273.211

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 โมเดอร์น่าได้ประกาศผลการวิจัยทางคลินิกเบื้องต้นของวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตร mRNA-1273.211 ซึ่งเป็นวัคซีนสูตรผสมชนิดแรกที่ทางบริษัทได้พัฒนาขึ้นและกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยทางคลินิกในอาสาสมัคร โดยวัคซีน mRNA-1273.211 นี้เป็นสูตรผสมของสายพันธุ์ดั้งเดิม และสายพันธุ์เบต้า ในปริมาณที่เท่ากันอย่างละครึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรมาตรฐาน mRNA-1273 รุ่นปัจจุบัน ขนาด 50 ไมโครกรัม พบว่า วัคซีน mRNA-1273.211 ในขนาด 50 ไมโครกรัม นั้นสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์ โอไมครอนและสายพันธุ์น่ากังวล อื่นๆ ได้แก่ เดลต้า และ เบต้า ได้ในระดับที่สูงกว่า และระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่าดังกล่าวก็ยังมีการตรวจวัดได้ที่เวลา 6 เดือนหลังจากนั้น

โดยในส่วนของภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโอไมครอนของวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรผสม mRNA-1273.211 รุ่นใหม่นี้ เมื่อวัดหลังฉีดไปแล้ว 1 เดือน พบว่ามีระดับที่สูงกว่าการกระตุ้นด้วยวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรมาตรฐานรุ่นปัจจุบันที่ประมาณ 2.20 เท่า (1408 เทียบกับ 629) และเมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือน พบว่าภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโอไมครอนก็ยังคงระดับที่สูงกว่าที่ 2.15 เท่า (317 เทียบกับ 146)

ในด้านความปลอดภัยของวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตร mRNA-1273-211 ขนาด 50 ไมโครกรัม พบว่า โดยทั่วไปอาสาสมัครมีการยอมรับวัคซีนได้ดี อาการไม่พึงประสงค์ที่พบมีความคล้ายคลึงกับที่มีการรายงานจากวัคซีนสูตรมาตรฐานขนาด 50 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นที่ใช้ฉีดอยู่ในปัจจุบันนี้ โดยอาการส่วนใหญ่อยู่ในระดับเล็กน้อย-ปานกลาง

Stéphane Bancel ซึ่งดำรงตำแหน่ง Chief Executive Officer ของบริษัทโมเดอร์น่า ได้กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับข้อมูลที่ได้จากการทดสอบวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตร mRNA-1273.211 ซึ่งเป็นวัคซีนสูตรผสมตัวแรกที่เราพัฒนาขึ้นมา ผลการทดสอบที่แสดงให้เห็นว่าวัคซีนสูตรผสมนี้ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มี mRNA ของสายพันธุ์โอไมครอนเป็นส่วนประกอบ แต่ก็สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโอไมครอนและสายพันธุ์น่ากังวลชนิดอื่นๆ ได้ในระดับที่สูงกว่าวัคซีนสูตรมาตรฐาน แสดงให้เห็นว่า กลยุทธ์ที่เราวางแผนไว้เพื่อรับมือกับไวรัสสายพันธุ์น่ากังวลและเริ่มดำเนินมาตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วนั้น เราได้มาถูกทางแล้ว นอกจากนี้แล้ว ทางโมเดอร์น่าเองกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 2/3 ของวัคซีนเข็มกระตุ้นรุ่นใหม่อีกหนึ่งสูตรคือ mRNA-1273.214 ซึ่งเป็นวัคซีนสูตรผสมระหว่างสายพันธุ์ดั้งเดิม และ สายพันธุ์โอไมครอน โดยคาดว่าผลการทดสอบเบื้องต้นจะออกมาภายในไตรมาสที่สองของปีนี้ โดยทั้งวัคซีน mRNA-1273.211 และ mRNA-1273.214 นั้นถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นตัวเลือกของการใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นรุ่นใหม่ที่จะผลิตออกมในช่วงปลายปีนี้ เราเชื่อมั่นว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรผสมที่ประกอบไปด้วยสองสายพันธุ์ จะเป็นวัคซีนรุ่นใหม่ที่จะสามารถใช้รับมือกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต”

ส่วนวัคซีนเข็มกระตุ้นรุ่นปัจจุบันนี้เมื่อใช้ฉีดกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 หรือ 4 จากข้อมูลจากการใช้งานจริงในหลายๆประเทศทั่วโลก ก็แสดงให้เห็นว่ายังคงสามารถป้องกันการติดเชื้อแบบรุนแรงและการต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ดี