Sunday, 28 April 2024 | 7 : 23 pm

4Quarter.co

Sunday, 28 April 2024 | 7 : 23 pm
ธ.ก.ส. ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ MRR ลง 0.25% หนุนการฟื้นตัวกลุ่มเปราะบาง   •   เอไอเอ ประเทศไทย มอบรางวัลเกียรติยศแก่สุดยอดตัวแทน “ที่สุดแห่งปี” ประจำปี 2566 ในงาน AIA Annual Agency Awards Presentation 2023­­­­   •   ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย   •   ออมสิน ประกาศลดดอกเบี้ย MRR ลง 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยทุกกลุ่ม คงเหลืออัตราดอกเบี้ย MRR (หลังปรับลด) = 6.595%   •   Caring is Giving “Protect Your Car” ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ใส่ใจคุณ พร้อมเคียงข้างทุกการเดินทาง ชวนลดความเสี่ยง ปกป้องรถที่คุณรักอย่างยั่งยืน   •   เคทีซี เผยยอดใช้จ่ายไอเทมคลายร้อนที่ KTC U SHOP พุ่งกว่า 120% เปิดช่องทางช้อปใหม่ผ่านแอป KTC Moblie สะดวก ปลอดภัย พร้อมรับโปรสุดคุ้ม   •   กสิกรไทย ร่วมฉลองความสำเร็จ KCBL รุ่น 1   •   กคช. ระดมผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ มุ่งการพัฒนาควบคู่ 4 มิติ เศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงบั้นปลาย   •   ถอดบทวิเคราะห์ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เผยมุมมองขยายพอร์ต สู่ 4 จุดยุทธศาสตร์สำคัญของกรุงเทพฯ “กาญจนาภิเษก – พุทธมณฑล – พัฒนาการ – รามคำแหง”   •   สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายรัฐบาล ประกาศลดดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและกลุ่มเปราะบาง   •   ผู้บริหารไทยประกันชีวิต รับรางวัล TOP CEO Thailand 2023   •   วิริยะประกันภัย รวมพลังจิตอาสาสร้างโป่งเทียม แหล่งอาหารช้างป่า ผืนป่าภาคตะวันออก   •   กรุงศรี เดินหน้ากลยุทธ์กลุ่มลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ รุกสร้างระบบนิเวศเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมเชื่อมต่อโอกาสลงทุนในอาเซียน   •   ทีทีบี ชวนเอสเอ็มอี ร่วมสัมมนา finbiz connect the future for growth เชื่อมเทรนด์ธุรกิจอนาคต..สู่กลยุทธ์การเติบโตยั่งยืน   •   เงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับ นักศึกษาปริญญาโท บริหารธุรกิจ (MBA) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   •   เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับ มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบเงินสนับสนุน “มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจในพระบรมราชินูปถัมภ์”   •   พรูเด็นเชียล ประเทศไทย คว้ารางวัลสุดยอดนายจ้างระดับโลก “Global Best Employer Brand Awards 2024”   •   เปิดบ้านหรู 3 ชั้น พร้อมชม Club House สุดหรู ที่ ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50   •   กสิกรไทย ปรับโครงสร้างคณะกรรมการ ลดจำนวนกรรมการเป็น 15 คนจาก 18 คน เพิ่มสัดส่วนกรรมการอิสระเกินกว่ากึ่งหนึ่ง ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสอดคล้องมาตรฐานสากล   •   เอสซีจี แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2567 ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เดินหน้านวัตกรรมกรีนต่อเนื่อง เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด รุกธุรกิจในตลาดเติบโตสูง   •   การเคหะแห่งชาติ ร่วมรับรางวัล “รัฐวิสาหกิจดีเด่นด้านการส่งเสริมและพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน” ภายในงาน “มอบรางวัล SIAMRATH AWARDS 2024”   •   ทิพยประกันภัย ปลุกกระแสประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพแพทย์ สร้างความอุ่นใจให้แพทย์ มอบความคุ้มครองสูงสุดถึง 6 ล้านบาท   •   องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี จับมือ เคทีซี เดินหน้าขยายฐานนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “Korea Everything” ทุกสิ่งเป็นจริงที่เกาหลี   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร จัดกิจกรรม “SMART HEALTHY CHALLENGE 2024” ดูแลสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก นำทุกคนก้าวสู่โลกใหม่เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดี   •   “สำนักงาน คปภ. – ภาคธุรกิจประกันภัย” เตรียมความพร้อมรองรับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 เรื่อง สัญญาประกันภัย (TFRS 17)   •   สมัครบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า รูดช้อปรับคุ้ม! รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%   •   เอไอเอ ประเทศไทย สนับสนุนกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุฟรี แก่เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ร่วมโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2   •   ทิพยประกันภัย คว้าสุดยอด 2 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ รางวัลผู้บริหารองค์กรดีเด่นแห่งปี และรางวัลบริษัทประกันภัยที่ส่งเสริมความยั่งยืนด้านการพัฒนาสังคมยอดเยี่ยม   •   ศุภาลัย ผนึก ทีโอเอ ปั้นนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว ผุดโปรเจกต์ยักษ์ ‘ฝ้ายิปซัม & สีรักษ์โลก’ เดินหน้าสู่องค์กร Zero Waste อย่างยั่งยืน   •   ออมสิน รับรางวัลองค์กรแห่งความยั่งยืนเพื่อสังคม

เจโทรฯ เปิดตัวแคมเปญ “[Made in JAPAN] วัตถุดิบญี่ปุ่นแท้ ส่งต่อความรัก ด้วยความอร่อย” ร่วมกับร้านอาหารทั่วไทยกว่า 200 ร้าน

เจโทรฯ เปิดตัวแคมเปญ “[Made in JAPAN] วัตถุดิบญี่ปุ่นแท้ ส่งต่อความรัก ด้วยความอร่อย”
ประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับสื่อชั้นนำ และร้านอาหาร 236 ร้าน ทั่วไทย

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) ประกาศจัดแคมเปญ “[Made in JAPAN] วัตถุดิบญี่ปุ่นแท้ ส่งต่อความรัก ด้วยความอร่อย” ร่วมกับร้านค้าที่ได้รับรองเครื่องหมาย “Japanese Food Supporter”(*) และบริษัทผู้ส่งออก-นำเข้า เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสกับเสน่ห์และได้ลิ้มรสความอร่อยของวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น

แคมเปญจัดขึ้นระหว่างวันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ถึง วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 โดยเป็นการผนึกกำลังระหว่างร้านอาหารในกรุงเทพฯ 150 ร้าน และในต่างจังหวัด 86 ร้าน รวม 236 ร้าน ร่วมกับสื่อชั้นนำ เพื่อประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และเผยแพร่เคล็ดลับความอร่อยของวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นแท้ ที่ผ่านกระบวนการเพาะเลี้ยง เพาะปลูก และผลิตมาอย่างพิถีพิถันตามแบบฉบับญี่ปุ่น เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาติความอร่อยของวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่น ผ่านเรื่องราวที่มาอันน่าสนใจ รวมถึงได้ลิ้มลองวัตถุดิบตามฤดูกาล เสมือนบินไปทานที่ญี่ปุ่นด้วยตนเอง

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยโดยเฉพาะในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเพื่อให้คนไทยทั่วประเทศได้มีโอกาสลิ้มลองและรับรู้ถึงเสน่ห์ของวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นได้อย่างทั่วถึง เจโทร กรุงเทพฯ จึงได้จัดแคมเปญนี้ขึ้นโดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในกรุงเทพฯเท่านั้น แต่ขยายขอบเขตแคมเปญไปยังร้านอาหารในต่างจังหวัดด้วย โดย นอกเหนือจากวัตถุดิบที่คนไทยคุ้นเคยอยู่แล้วอย่างเนื้อวัว หรืออาหารทะเลญี่ปุ่นแล้ว ยังมีการนำเสนอวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นที่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายอย่าง “เนื้อหมูญี่ปุ่น” ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในผู้บริโภคชาวไทยด้วย

นายคุโรดะ จุน ประธานเจโทร กรุงเทพฯ กล่าวถึงแนวคิดที่มาและความคาดหวังต่อการดำเนินโครงการว่า “ตั้งแต่ที่ได้มีการเริ่มสำรวจจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยเมื่อปี 2550 จะเห็นได้ว่าร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอเรื่อยมา แต่เมื่อปี 2564 การออกมาตรการล็อกดาวน์ห้ามบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้าน จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้ประกอบการร้านอาหาร แต่กระนั้นก็ตาม ร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 4,370 ร้าน จากจำนวน 4,094 ร้านในปี 2563 โดยเฉพาะจำนวนร้านอาหารที่อยู่ในต่างจังหวัดนั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทางเจโทร กรุงเทพฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่อาหารญี่ปุ่นได้กลายเป็นสิ่งใกล้ตัวและได้รับความนิยมจากคนไทยมากขนาดนี้ การจัดแคมเปญนี้มุ่งเน้นประชาสัมพันธ์ไปยังผู้บริโภคชาวไทยทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยได้รับความร่วมมือจากร้านอาหารที่เข้าร่วมแคมเปญในการรังสรรค์เมนูจากวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ส่งมอบประสบการณ์ความอร่อยใหม่ๆ ให้คนไทยได้เพลิดเพลินกัน

โดยในครั้งนี้มีวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นที่คนไทยยังไม่เคยได้ลิ้มลอง อาทิ เนื้อหมูนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มาเสิร์ฟในเมนูที่เข้าร่วมแคมเปญอีกด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญนี้จะสร้างโอกาสให้คนไทยทุกคน แม้ว่าตัวจะอยู่ในประเทศไทย แต่ก็สามารถสัมผัสเสน่ห์และลิ้มลองความอร่อยของวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นแท้ๆ ได้ มุ่งหวังที่จะสร้างแฟนพันธุ์แท้ของวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่น ให้เกิดการบริโภคซ้ำในอนาคต และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญนี้จะสามารถสร้างประโยชน์และรายได้อย่างต่อเนื่องให้กับร้านอาหารรวมถึงบริษัทผู้ส่งออก-นำเข้าที่สนับสนุนวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย”

POINT 1 | ขยายขอบเขตการจัดแคมเปญให้กว้างขึ้นครอบคลุมไปยังร้านอาหารในต่างจังหวัด
แคมเปญ “[Made in JAPAN] วัตถุดิบญี่ปุ่นแท้ ส่งต่อความรัก ด้วยความอร่อย” นี้ได้รับความร่วมมือจากร้านอาหารที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย “Japanese Food Supporter” มากถึง 32 แบรนด์ 236 ร้าน ร่วมกันประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น โดยวัตถุดิบหลักในแคมเปญนี้ ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู และอาหารทะเล ในจำนวนดังกล่าวมีถึง 86 ร้านที่อยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยโดยเฉพาะในต่างจังหวัดมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก จึงอยากให้คนไทยในต่างจังหวัดได้มีโอกาสรับรู้ถึงเสน่ห์ความอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่น [ Made in JAPAN] ได้ลิ้มลองเมนูที่ใช้วัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นแท้พร้อมกันทั่วไทย

POINT 2 | ลิ้มลอง “เนื้อหมูนำเข้าจากญี่ปุ่นแท้ๆ” ได้ในไทย นอกจากวัตถุดิบที่คนไทยคุ้นเคยอย่างเนื้อวัว หรืออาหารทะเลญี่ปุ่นแล้ว แคมเปญนี้ มีการนำเสนอวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นที่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายอย่าง “เนื้อหมูญี่ปุ่น” ด้วย โดยประเทศไทยเพิ่งมีการผ่อนคลายการนำเข้าเนื้อสุกรจากญี่ปุ่นเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา แต่จำนวนการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นนั้นยังมีจำนวนไม่มากนัก แคมเปญนี้จึงมุ่งหวังให้คนไทยทุกคนได้มีโอกาสลิ้มลองเนื้อหมูนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ซี่งมีลักษณะเด่นที่มีเนื้อที่นุ่มชุ่มฉ่ำลิ้น มันที่แทรกมีรสชาติอร่อยเป็นเอกลักษณ์ ให้เนื้อหมูนำเข้าจากญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้นในผู้บริโภคชาวไทย นำไปสู่ปริมาณการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีวัตถุดิบที่ยังไม่ได้เป็นที่รู้จัก อาทิ ปลาบุริ ปลาซันมะ นำเสนอในแคมเปญนี้อีกด้วย

POINT 3 | ผนึกกำลังกับร้านอาหาร ด้วยแนวคิด “ร้านอาหาร = ช่องทางการสื่อสารกับผู้บริโภค” ประชาสัมพันธ์เข้าถึงผู้บริโภคกว่า 10 ล้านคน
แคมเปญมีกำหนดการในการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ อย่างกว้างขวาง
ช่องทางที่ 1 ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อชั้นนำรวมทั้งอินฟลูเอนเซอร์ นำเสนอเกี่ยวกับเสน่ห์ของวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และเผยแพร่ให้ผู้บริโภคชาวไทยรับรู้เกี่ยวกับการจัดแคมเปญในครั้งนี้ โดยมุ่งหวังให้เกิดการบริโภคเมนูที่ใช้วัตถุดิบญี่ปุ่นดังกล่าวที่ร้านอาหาร และมีกำหนดที่จะดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงของแคมเปญ เพื่อที่จะให้เกิดความต่อเนื่องและเกิดการบริโภคซ้ำจริงในอนาคต โดยแบ่งเป็นช่องทางหลักๆ ได้แก่ การ PR ผ่านหน้าเพจหลักของแคมเปญ ด้วยการร่วมมือกับ Wongnai แพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารและโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่งมีผู้ใช้งานประจำกว่า 14 ล้านคนต่อเดือน และประสานกำลังกับอินฟลูเอนเซอร์สายอาหารชื่อดัง ในการเดินสายทำคอนเทนต์ที่ร้านอาหารที่เข้าร่วมแคมเปญ โดยนำเสนอเสน่ห์ เรื่องราวความใส่ใจ ความพิถีพิถันของผู้ผลิตญี่ปุ่นต่อวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นก่อนที่จะถูกส่งตรงถึงผู้บริโภคชาวไทย
ช่องทางที่ 2 ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของร้านอาหาร ทางสื่อหน้าร้าน และสื่อโซเชียลมีเดีย หรืออินฟลูเอนเซอร์ของทางร้าน นำเสนอเคล็ดลับความอร่อยของวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นแท้ตามฤดูกาล ผ่านช่องทางหลากหลาย ทั้งการแนะนำของพนักงานโดยตรง รวมไปถึงการทำสื่อประชาสัมพันธ์ออฟไลน์ที่หน้าร้าน อย่างเมนู หรือป้ายโปสเตอร์ และการประชาสัมพันธ์ทางออนไลน์ผ่าน Facebook หรือ Instagram ของทางร้าน โดยได้มีการรวบรวมข้อมูลของร้านอาหารที่เข้าร่วมแคมเปญทั้งหมดนำเสนอในหน้าเพจหลักของแคมเปญใน Wongnai อีกด้วย ร้านอาหารจึงได้กลายเป็น “สื่อกลาง” ในการสื่อสารกับผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นแนวคิดหลักของแคมเปญในครั้งนี้

โดยการผนึกกำลังดังกล่าว มีเป้าหมายที่จะประชาสัมพันธ์เข้าถึงคนไทยกว่า 10 ล้าน reach หรือทุกๆ 1 ใน 6-7 คน ของคนไทยทั่วประเทศ
ทางเจโทรฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญนี้จะทำให้ คนไทยทั่วประเทศได้รับรู้ถึงเสน่ห์ของวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นแท้ได้อย่างทั่วถึง นำไปสู่การขยายช่องทางการตลาดให้กับผู้ส่งออกสินค้าอาหารจากประเทศญี่ปุ่นไปยังร้านอาหารต่างๆ ในประเทศไทย ไม่จำกัดแค่ในกรุงเทพมหานครแต่ขยายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย และหวังว่าในโอกาสนี้ คนไทยทุกคนจะได้ร่วมลิ้มลองวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นแท้ๆ ผ่านแคมเปญนี้ ให้หายคิดถึงญี่ปุ่นกัน

(*) ร้านค้าที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย “Japanese Food Supporter”
“Japanese Food Supporter” คือ ระบบการรับรองร้านค้าที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นโดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงญี่ปุ่น (MAFF) และเจโทรฯ ซึ่งร้านค้าที่ได้รับการรับรองทั่วโลกมีจำนวน 8,453 ร้าน ในประเทศไทยมีร้านค้าที่ได้รับการรับรอง 865 ร้าน (ร้านอาหาร 587 ร้าน ร้านค้าปลีก 278 ร้าน) (ข้อมูลเดือนกันยายน 2565)

ติดต่อสอบถาม
เจโทร กรุงเทพฯ แผนกเกษตรและอาหาร
นายทานิกุจิ ฮิโรกิ และ นายมุราคามิ ยูกิ (ภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ)
นางสาวญาดา วงศ์ภัทรกุล (ภาษาไทยและภาษาญี่ปุ่น) Tel: 02-253-6441, E-mail: bgk-food@jetro.go.jp