Sunday, 5 May 2024 | 6 : 58 pm

4Quarter.co

Sunday, 5 May 2024 | 6 : 58 pm
คณะกรรมการ คปภ. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งรองเลขาธิการ และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   สสว. ส่งภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ “ปวดหัวซินโดรม” มุ่งสร้างการรับรู้และแนะนำบริการ E-Service เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SME   •   เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ตอกย้ำความสำเร็จ การก้าวสู่องค์กร Net Zero   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเงิน 6 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี   •   ธ.ก.ส. จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันฉัตรมงคล 2567   •   ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยมาตรฐาน “Green Living Standard” ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนกลับคืนสู่โลก หนึ่งพันห้าร้อยล้านลิตรตลอด 3 ปี ลดผลกระทบ PM2.5 และประหยัดค่าไฟ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าให้แก่ลูกบ้าน   •   TOA โชว์วิชั่นผู้นำนวัตกรรมรักษ์โลก ชูแนวคิดความยั่งยืน “Future Tree” ในงานสถาปนิก’67 ตอกย้ำพันธกิจ Green Mission นวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   •   HKSTP นำเสนอโครงการบ่มเพาะ หวังเพิ่มศักยภาพของสตาร์ทอัพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชี้ไทยที่มีศักยภาพสูง เล็งดึงสตาร์ทอัพไทยเข้าสู่ฮ่องกงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้   •   ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล   •   เคทีซี จับมือ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ มอบสิทธิพิเศษ สำหรับชุดน้ำชายามบ่ายจากผลงานศิลปะชิ้นเอกของ วินเซนต์ แวน โก๊ะ   •   FWD ประกันชีวิต จัดงาน MDRT & Agency Annual Awards 2024 ฉลองความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล   •   เก็บคูปองส่วนลดสูงสุด 200 บาท/เดือน กับบัตรกรุงศรี เดบิต หรือบัตร Krungsri Boarding Card ที่ Lazada   •   THAIFA ประกาศผลรางวัลตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2567   •   MTL Click แอปพลิเคชันจากเมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4   •   ออมสิน จับมือ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคี ร่วมอนุรักษ์ป่าชายเลน   •   หอการค้าไทย Kick Off โครงการรวมพลังคนไทย บริจาคโลหิต ปี 2567 ต่อยอดโครงการ 9 แสนซีซี 90 ปี หอการค้าไทย เชิญชวนสมาชิกร่วมบริจาคโลหิต เพื่อใช้สำรองยามขาดแคลน   •   วิริยะประกันภัย ปิดฉากดวลวงสวิงสนามสุดท้ายโซนภาคใต้ “Viriyah Invitational Golf Tournament 2024”   •   “แอกซ่าประกันภัย” เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า จับมือ “วีซ่า”มอบประกันภัยการเดินทางต่างประเทศฟรี! รับเทรนด์ท่องเที่ยวเติบโต   •   กรุงศรี ออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือน ตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเครื่องกรองน้ำพกพาและน้ำดื่มสนับสนุนภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ   •   กรุงเทพประกันชีวิต และ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมจัดงานขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจใช้บริการวางแผนความคุ้มครองและการออมยาวนานกว่า 20 ปี   •   กรุงศรี คอนซูมเมอร์ แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด   •   แอปฟินนิกซ์ (FINNIX) เปิดตัวห้องเรียนออนไลน์ฟรี ‘เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์’ ตอบอินไซต์คนทำมาหากินที่ไม่มีเวลา ตั้งเป้าเสริมแกร่ง 10,000 คนทั่วไทยปีนี้   •   ฟิลลิปประกันชีวิต มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้น ภายใต้หัวข้อ “Get To Know Philliplife”   •   BAM จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาบุคลากร   •   SCG HOME Experience เปิด 3 โซนใหม่ ตอกย้ำทุกเทรนด์การอยู่อาศัยเอาใจคนรักบ้าน   •   ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME รายย่อย มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   คิง เพาเวอร์ ส่งท้ายความฮอต ยิ่งช้อป ยิ่งได้ลด ตลอดทั้งเดือน   •   TOA เปิดนโยบาย GREEN MISSION เดินหน้าพันธกิจ พิชิต Net Zero เสริมแกร่งด้วย ฉลากลดโลกร้อน (CFR) มากที่สุดในสีทาอาคาร ตอกย้ำผู้นำตลาดสีเบอร์หนึ่ง เติบโตสู่ปีที่ 60 อย่างยั่งยืน   •   การเคหะแห่งชาติ ก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 อาคาร D1 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% คาดว่าจะส่งมอบให้ผู้อยู่อาศัยประมาณเดือนพฤษภาคม 2567

บีเอ็นวาย เมลลอน เผยทิศทางการลงทุนโลกปี 2566 แนะนักลงทุนตั้งรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ชูตราสารหนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่สดใส

บีเอ็นวาย เมลลอน ที่ปรึกษาการลงทุนระดับโลกและพันธมิตรของเมย์แบงก์ ประเทศไทย คาดการณ์สถานการณ์เศรษฐกิจและกลยุทธ์การลงทุนสำหรับปี 2566 โดยพิจารณาถึงผลกระทบของเงินเฟ้อ เศรษฐกิจถดถอย ความเสี่ยง และความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ตลอดจนคาดการณ์แนวโน้มปัจจัยเสี่ยง สินทรัพย์ และโอกาสการลงทุน เพื่อให้นักลงทุนได้จับตาดูและเตรียมพร้อมรับมือกับกระแสการลงทุนที่คาดว่าจะกลับมาร้อนแรงขึ้นในปีนี้
อนินดา มิตรา หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคภูมิภาคเอเชียและกลยุทธ์การลงทุน (Head of Asia Macro and Investment Strategy) บีเอ็นวาย เมลลอน เปิดเผยว่า บีเอ็นวาย เมลลอน ไอเอ็ม ในฐานะบริหารเงินลงทุนทั่วโลกมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้ทำการวิเคราะห์สถานการณ์การลงทุนในปี 2566 พบว่า นักลงทุนคาดว่าปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน และภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นในปี 2565 จะจบลง อย่างไรก็ดียังคงแนะนำให้เตรียมพร้อมรับกับความกดดันที่ยังคงมีอยู่ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เป็นอย่างน้อย

นอกจากนี้ พบว่านักลงทุนยังมีโอกาสที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับการลงทุนภายในปีนี้เมื่อสถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น โดย ตลาดหุ้นจะยังคงเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย และมีโอกาสที่อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์บางกลุ่มอาจมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน จากวัฏจักรเศรษฐกิจที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น รวมถึงนโยบายทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือการลงทุนในตราสารหนี้ซึ่งอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าตราสารทุนในระยะสั้น เนื่องจากความสามารถในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงที่อัตราการเติบโตช้า ในทางตรงกันข้าม ตราสารทุนก็อาจทำผลงานได้ดีกว่ามากหากเศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วพอภายหลังในปี 2566

ภาพรวมกลยุทธ์การลงทุนปี 2566
• ในขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงยังคงต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันในระยะสั้น ท่ามกลางอุปสรรคและนโยบายการเงินแบบรัดกุม ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นภายในกลางปี 2566 ทำให้นักลงทุนควรพิจารณาแนวทางการจัดสรรสินทรัพย์ที่สมดุล โดยให้เน้นให้น้ำหนักกับตราสารหนี้มากกว่าตราสารทุน
• ความเสี่ยงต่อตราสารทุนยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
• พันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ระดับลงทุนได้ (Investment Grade) จะสร้างผลตอบแทนคาดหวังปรับด้วยความเสี่ยงได้ดีกว่าตราสารทุน ในสภาวการณ์ที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวช้าลงและความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังคงอยู่ในระดับสูง

มุมมองต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจมหภาค
บีเอ็นวาย เมลลอน ยังมีมุมมองต่อเศรษฐกิจมหภาคว่า นักลงทุนไม่เพียงแต่ต้องเผชิญกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แต่ยังคงต้องต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อซึ่งกำลังเข้าสู่เฟสใหม่ โดยปัญหาหลักยังคงอยู่ที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐอเมริกาอาจผ่านพ้นจุดสูงที่สุดไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ปรับตัวลดลงมาสู่ระดับที่ธนาคารกลางหรือ เฟด หวังไว้ เช่นกัน

ทั้งหมดนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว ซึ่งระดับเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยยังคงสูงกว่ากลุ่มประเทศในตลาดเกิดใหม่ ในขณะเดียวกัน แม้ว่าแรงกดดันด้านอุปทานได้ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว และมีความคืบหน้าที่ชัดเจนในการเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ในทางกลับกัน จุดสนใจใหม่ย้ายมาอยู่ที่แรงกดดันจากอุปสงค์ ซึ่งสถานการณ์ยังคงไม่ได้เป็นบวกอย่างเต็มที่

“แรงกดดันด้านราคาค่าจ้าง ต้นทุนการจ้างงาน และแรงกดดันด้านราคาหลักยังคงสูง โดยอยู่ที่ประมาณ 5% – 6% ซึ่งยังไม่ลงมาใกล้เคียงกับระดับเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ 2% ในเร็วๆ นี้” อนินดา มิตรา กล่าว

ความท้าทายและข้อควรพิจารณาในปี 2566
การรับมือโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ
• บีเอ็นวาย เมลลอน ไอเอ็ม เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จำเป็นที่จะต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยไปอยู่ที่อย่างน้อย 5%
• ตลาดตราสารหนี้ยังคงสะท้อนความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยสะท้อนจากอัตราผลตอบแทนแบบ Inverted Yield Curve
วิกฤตพลังงานในยุโรป
• ภาวะเศรษฐกิจถดถอยมีแนวโน้มที่จะเกิดสูงมากขึ้น จากความต้องการพลังงานที่ลดลงและนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น
• คำถามที่สำคัญก็คือนโยบายพลังงานและการดำเนินนโยบายทางการคลังจากสหภาพยุโรปจะสามารถป้องกันไม่ให้ราคาพลังงานสูงขึ้น ต่อไปได้หรือไม่
เศรษฐกิจจีนชะลอตัว
• การชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน การเปลี่ยนแปลงนโยบาย Zero-Covid ที่ประสบปัญหาภาคสังคมจะสร้างความท้าทายต่อการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
• การเปิดประเทศที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก