บริษัท ยู.เอส.สัมมิท (โอเวอร์ซีส์) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย สินค้าแม่และเด็ก ภายใต้แบรนด์เพียวรีน (PUREEN) เดินหน้าฉลองยอดขาย “เพียวรีน เบบี้ ไวพส์” ครบ 30 ล้านแพ็ก จัดแคมเปญ “Puree 30 Million Packs Celebration” เพื่อแทนคำขอบคุณและคืนกำไรสู่สังคม ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์เพียวรีน มูลค่า 150,000 บาท สำหรับดูแลสุขภาพผู้ป่วยเด็ก และบุคลากร ของสถาบัน สุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
นายฟิลลิป สุรเดชวิบูลย์ General Manager บริษัท ยู.เอส.สัมมิท (โอเวอร์ซีส์) จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี นับตั้งแต่แบรนด์เพียวรีนเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย พันธกิจหลักของแบรนด์ คือ “คิดเพื่อคุณ ถึงลูกน้อย” ที่ผ่านมา บริษัททุ่มเทสร้างสรรค์สินค้าคุณภาพ เพื่อช่วยให้คุณแม่และลูกน้อยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญทางด้านเภสัชศาสตร์เป็นพื้นฐาน ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเพียวรีนไม่เพียงมีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของกลุ่มคุณแม่ และครอบครัว แต่ยังคิดค้นด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง, ปลอดภัย และใส่ใจในทุกขั้นตอน ได้รับ ความไว้วางใจจากคุณแม่ ในการดูแลลูกน้อยและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เบบี้ ไวพส์ ซึ่งเป็นหมวดที่ใหญ่ที่สุดของแบรนด์
“ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์เบบี้ ไวพส์ของเราขายดีอยู่แล้ว แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด -19 ที่ทุกคนหันมาใส่ใจเรื่องความสะอาดทำให้ผลิตภัณฑ์เบบี้ ไวพส์ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด แม้กระทั่งสถานการณ์โรคระบาดเริ่มคลี่คลาย ผลิตภัณฑ์เบบี้ ไวพส์ก็ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตามพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่น่าสนใจคือ กลุ่มลูกค้าหลักไม่ได้จำกัด อยู่แต่กลุ่มคุณแม่ที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เบบี้ ไวพส์ เพื่อดูแลความสะอาดให้ลูกน้อย แต่รวมไปถึง คนทุกเพศทุกวัยที่เลือกใช้เบบี้ ไวพส์ เพราะชื่นชอบในความสะดวกและมั่นใจในความสะอาด”
จากความนิยมในกลุ่มผลิตภัณฑ์เบบี้ ไวพส์ ทำให้เพียวรีน ถือโอกาสนี้จัดแคมเปญ Pureen 30 Million Packs Celebration เพื่อฉลองความสำเร็จและแสดงคำขอบคุณจากใจที่ผู้บริโภควางใจให้เพียวรีน เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลลูกน้อยและครอบครัวมาตลอด พร้อมคืนกำไรให้สังคม ด้วยการ นำผลิตภัณฑ์เพียวรีน มูลค่า 150,000 บาท มามอบให้กับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯ เพื่อฉลองในโอกาส พิเศษและส่งต่อความสุขไปถึงเด็กๆ
“เหตุผลที่เลือกนำผลิตภัณฑ์มามอบให้กับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯ เพราะมองว่า เพียวรีน เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคุณแม่และเด็กโดยตรง ดังนั้นเราจึงอยากส่งมอบผลิตภัณฑ์ คุณภาพที่เราพัฒนาด้วยความพิถีพิถันและใส่ใจ เพื่อสร้างความสุขและรอยยิ้มให้เด็กๆ โดยเรามองว่าผลิตภัณฑ์ของเราน่าจะตอบโจทย์กับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ที่มีผู้ป่วยเด็กๆ มาใช้บริการปีละหลายหมื่นคน และยังเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กๆ ที่อาจจะไม่ได้มีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์ เพียวรีนได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์เพียวรีน พร้อมทั้งเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับ ครอบครัวคนไข้และสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯ โดยการที่เพียวรีนได้เป็นส่วนเล็กๆ ในการช่วยเหลือเด็กๆ ถือเป็นความภาคภูมิใจของแบรนด์ ซึ่งเล็งเห็นถึงความสำคัญในการคืนกำไรสู่สังคมเป็นอย่างยิ่ง จึงมีกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง”
ด้าน ผศ.พิเศษ.พญ.นัยนา ณีศะนันท์ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า “ปัจจุบันสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯ มีจำนวนเตียงผู้ป่วยมากกว่า 400 เตียง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ปีละ 18,000 ราย ส่วนผู้ป่วยนอกเฉลี่ยปีละ 400,000 ราย การที่แบรนด์เพียวรีนเล็งเห็นถึงบทบาทของการเป็นสถานพยาบาล ของรัฐเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้การรักษาเฉพาะผู้ป่วยเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 15 ปี ของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯ และนำผลิตภัณฑ์มาสนับสนุนในครั้งนี้ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่นำมาล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯอยู่แล้ว โดยจากนี้จะมีการนำไปจัดสรรและส่งต่อไปถึงมือเด็กๆ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัวผู้ป่วยต่อไป จริงๆ แล้วการแบ่งปันน้ำใจหรือสนับสนุนสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯ สามารถทำได้ในหลากหลายมิติ ไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ในรูปแบบของเงินบริจาค แต่อาจเป็นการแบ่งปันสิ่งของหรือผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย หรือการเข้ามาจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้ปกครองและเด็ก ๆ ก็ได้เช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม นอกจาก แคมเปญ Pureen 30 Million Packs Celebration ที่ทางเพียวรีน ตั้งใจคืนกำไรสู่สังคม ทางแบรนด์ยังถือโอกาสสุดพิเศษนี้ คืนกำไรให้ลูกค้า ด้วยการจัดทำโปรโมชันพิเศษ กับห้างสรรพสินค้า แผนกเด็ก, ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าชั้นนำทั่วไป จนถึงเดือนมิถุนายนอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแคมเปญดีๆ ที่สร้างรอยยิ้มให้ทั้งผู้ให้ ผู้รับและลูกค้าที่ให้การสนับสนุน แบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้นายฟิลลิป กล่าวทิ้งท้ายว่า เป้าหมายสูงสุดของแบรนด์เพียวรีน ไม่ได้เน้นการ สร้างกำไรสูงสุด แต่หัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตของแบรนด์ คือ การสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เพื่อให้แบรนด์สามารถเข้าไปนั่งในใจลูกค้า และเป็นแบรนด์ที่อยู่ใน Top of Mind ของลูกค้านั่นเอง