Friday, 3 January 2025 | 3 : 22 am
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Friday, 3 January 2025 | 3 : 22 am
spot_img
คปภ. ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัย กรณีรถทัวร์เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 5 ราย – บาดเจ็บจำนวนมาก ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี             •   Highlight 2024 : SCGD รุกตลาดอาเซียน เติบโตต่อเนื่อง ตามเป้าโต 2 เท่าในปี 2030   •   สลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกตเต็มวงเงิน 1.5 แสนล้านบาทแล้ว! เตรียมลุ้นโชคครั้งใหม่ไปกับสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดหยกจักรพรรดิ เร็ว ๆ นี้   •   ชาวเกาะกูด จี้รัฐบาลยกเลิก MOU 44 ไม่ควรเสียดินแดนทางทะเลไปแม้แต่ตารางนิ้วเดียว   •   กรุงเทพประกันภัย ส่งความสุขปีใหม่ด้วยปฏิทิน 2568   •   ไทยประกันชีวิต จ่ายสินไหมฮอตเคลมแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินเชจูแอร์ ไถลออกนอกรันเวย์ ในเกาหลีใต้   •   ทิพยประกันภัย สนับสนุนนโยบายภาครัฐ รับประกันภัยแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย   •   กลุ่มธนชาต ปรับโครงสร้างผู้บริหาร: แต่งตั้ง “พีระพัฒน์” และ “วิชินี” สานต่อความสำเร็จองค์กร   •   เลขาธิการ คปภ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชน ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ณ จังหวัดลำปาง   •   คปภ. เร่งช่วยเหลือด้านประกันภัย กรณี “ชั้นลอยอาคารถล่ม” ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี   •   บอร์ด คปภ. เห็นชอบให้ เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต ขยายกําหนดเวลาการแก้ไขฐานะการเงินและการดําเนินงาน จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568   •   เมืองไทยประกันภัย จ่ายสินไหม 2 แสนบาท ตามความคุ้มครอง ครอบครัวน้องเหมย เหตุเสียชีวิตเครื่องบินไถลที่เกาหลีใต้   •   SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต และ ธอส. รุดมอบสินไหมเยียวยาครอบครัว กรณีอุบัติเหตุสายการบินเชจูแอร์ ที่เกาหลีใต้   •   คปภ. เร่งช่วยเหลือด้านประกันภัยเหตุเครื่องบินเชจูแอร์ไถลตกรันเวย์ที่เกาหลีใต้ พร้อมตรวจสอบสิทธิคุ้มครองผู้เสียชีวิตชาวไทย   •   การเคหะแห่งชาติ ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ถวายเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าอยู่หัว 72 พรรษา
spot_img

บีเอ็นวาย เมลลอน เผยทิศทางการลงทุนโลก ธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ยังมีท่าทีที่แตกต่าง ส่งผลต่อการลงทุนโค้งสุดท้าย ปี 2566

บีเอ็นวาย เมลลอน ที่ปรึกษาการลงทุนระดับโลกและพันธมิตรของเมย์แบงก์ คาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจและกลยุทธ์การลงทุนในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 ที่มีต่อแนวทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางในประเทศยักษ์ใหญ่ซึ่งมีความคิดเห็นแตกต่างกัน จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเงินเฟ้อ การจ้างงาน การบริโภคภายในประเทศ ตลอดจนคาดการณ์แนวโน้มปัจจัยเสี่ยง สินทรัพย์ และโอกาสการลงทุน เพื่อให้นักลงทุนได้จับตาดูและเตรียมพร้อมรับมือกับกระแสการลงทุนที่คาดว่าจะกลับมาร้อนแรงขึ้นในหลายประเทศ

  • ทีมวิเคราะห์ของทาง BNY Mellon มองว่า การปรับตัวของอัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกยังคงมีความแตกต่างกัน จึงอาจเป็นเหตุให้ธนาคารกลางขนาดใหญ่ดำเนินนโยบายต่างกันในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้
  • ในสหรัฐอเมริกา BNY Mellon มองอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเริ่มชะลอตัวลง อัตราการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ผสานกับตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ ทำให้เกิดมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามนักลงทุนมีแนวโน้มจะประเมินความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานต่ำเกินไป อีกทั้งคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และแสดงจุดยืนด้านนโยบายทางการเงินที่สอดคล้องกันในการประชุม FED เดือนกันยายนนี้
  • ด้านยุโรป ทีมวิเคราะห์ของทาง BNY Mellon มองอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงเช่นกัน แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง  ในขณะที่แนวโน้มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แผ่วลง ทำให้ยุโรปยังคงเผชิญความท้าทายมากกว่าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว จึงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะใช้นโยบายที่ระมัดระวังมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
  • ในทางตรงกันข้าม ญี่ปุ่นและอังกฤษ อัตราเงินเฟ้อยังไม่มีเสถียรภาพ ส่งผลให้ธนาคารกลางของทั้ง
    2 ประเทศ มีแนวโน้มดำเนินนโยบายทางการเงินที่รัดกุมขึ้น ซึ่งจะทำให้ทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจอาจต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัว โดยปัจจุบันญี่ปุ่นยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย คงอัตราดอกเบี้ย
    ติดลบ ในขณะที่ยุโรปปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีแนวโน้มปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในระยะท้ายของ
    วัฎจักร
  • ในส่วนของญี่ปุ่น คาดว่าธนาคารกลาง (BOJ) มีโอกาสผ่อนผันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสูงขึ้น ตามสถานการณ์ตลาด และจะเข้าแทรกควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเมื่อเห็นควร (yield curve control) ซึ่งจะเป็นผลดีต่อธนาคารในญี่ปุ่นในท้ายที่สุด
  • สำหรับจีน BNY Mellon มองว่าการเติบโตที่ชะลอลงของเศรษฐกิจจีน สินค้าคงคลังที่ยังคงเหลือปริมาณมาก จากพฤติกรรมการการจับจ่ายใช้สอยที่ลดลงของประชากรจีน ทำให้เศรษฐกิจเติบโตช้า ซึ่งภาวะการชะลอทางเศรษฐกิจของจีนนี้ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกไปจีน โดยเราเริ่มเห็นการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจในยุโรป ในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและได้รับผลกระทบน้อยกว่า

ด้านเมย์แบงก์ ประเทศไทย โดย อภิญญา องค์คุณารักษ์ CFA, CAIA กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายงาน Investment Solutions บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มองว่า “การลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ยังคงน่าสนใจทั้งในระยะกลางและระยะยาว เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่น สังเกตจากผลประกอบการของบริษัทเอกชนในไตรมาสที่สอง ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับตัวเลขภาคแรงงานที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความสำคัญในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายเริ่มชะลอความร้อนแรง จึงยังคงมองว่าตลาดหุ้นสามารถรับปัจจัยที่ FED น่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างน้อยอีกหนึ่งครั้ง และจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงไประดับหนึ่งแล้วจึงมี Downside จากประเด็นนี้ หุ้นกลุ่ม Quality Growth ของสหรัฐ ยังมีความน่าสนใจ ที่สามารถเก็บสะสมได้ระยะยาว”

ในส่วนของญี่ปุ่น อภิญญา เปิดเผยว่า “การลงทุนระยะกลาง-ยาว ในหุ้นญี่ปุ่นมีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีการปรับมาตรการ Yield Curve Control (YCC)ให้มีความยืดหยุ่น และยังใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ช่วยสนับสนุนให้ค่าเงินเยนยังอ่อนค่าต่อ และการปรับมาตรการ YCC ให้ยืดหยุ่นนี้ อาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (JBG yield) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้หุ้นกลุ่มการเงินโดยเฉพาะกลุ่มธนาคารมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี รวมถึงผลประกอบการของบริษัทญี่ปุ่นยังคงออกมาดีต่อเนื่อง ประกอบกับการประกาศซื้อหุ้นคืนและการจ่ายปันผลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นให้ก้าวต่อไปอย่างแข็งแรงอีกด้วย”

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img