นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการส่งต่อข้อความเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับรายชื่อ Blacklist บริษัทประกัน (รถยนต์) ที่ได้กลับมาแพร่ระบาดโดยการส่งต่อกันในสื่อสังคมออนไลน์อีกครั้งว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เคยเกิดขึ้นและเป็นข่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยในปี 2557 สมาคมประกันวินาศภัยไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ร่วมกันชี้แจงข้อเท็จจริงและยืนยันว่าข้อความที่มีการส่งต่อนั้นไม่เป็นความจริง ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าวและนำไปแชร์ต่อเพื่อไม่ให้เกิดการรับรู้ที่ผิด อีกทั้งบริษัทประกันภัยที่ได้รับความเสียหายจากข้อความที่ส่งต่อกันนี้ได้มีการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่สร้างข่าวลือ และผู้กระทำผิดได้ออกมาแถลงข่าวขอโทษผ่านสื่อมวลชนไปแล้วนั้น แต่ปัจจุบันพบว่ายังคงมีประชาชนที่ได้รับข้อความที่ส่งต่อกันมาอีกเป็นจำนวนมาก และหลงเชื่อส่งต่อข้อความดังกล่าวนั้นไปอีก ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้มีการประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อหรือส่งต่อข้อมูลโดยขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงข้อมูลที่ได้รับมานั้น ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ. www.oic.or.th
จากกรณีดังกล่าวนี้ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลตามข้อความที่ได้มีการกล่าวอ้างถึงรายชื่อบริษัทประกันวินาศภัย และขอแจ้งให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่แท้จริง เพื่อไม่ให้ผู้ที่ไม่หวังดีนำไปใช้ในการกล่าวอ้างหรือหวังผลในทางที่ไม่ถูกต้องอีกต่อไป โดยมีบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกกล่าวอ้าง จำนวน 4 บริษัทได้ปิดกิจการไปแล้ว ได้แก่ บริษัท พาณิชยการประกันภัย จำกัด ปิดกิจการเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2548 บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด ปิดกิจการเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2552 บริษัท ลิเบอร์ตี้ประกันภัย จำกัด ปิดกิจการ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2554 และบริษัท พัชรประกันภัย จำกัด มีการเปลี่ยนชื่อ เป็น บริษัท ธนสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น บริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และปิดกิจการเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 ซึ่งเป็นการนำข้อความเก่า ๆ ในอดีตกลับมาสร้างข่าวลวงกันใหม่อีกครั้งที่ปราศจากข้อเท็จจริง!!!
สำหรับบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกกล่าวอ้างโดยมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงในข้อความที่ส่งต่อกันทางแอปพลิเคชัน LINE อีก 4 บริษัท ซึ่งปัจจุบันยังคงดำเนินธุรกิจ และมีฐานะการเงินที่มั่นคงแข็งแรง มีการดำเนินงานเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่
บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจมากว่า 73 ปี มีทุนจดทะเบียน 1,618 ล้านบาท ณ ไตรมาสที่ 1/2563 มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน สูงถึง 397.11% และอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง สูงถึง 342.48% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ สำนักงาน คปภ. ได้กำหนดไว้ และมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 3,928 ล้านบาท สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 295 ถนนสี่พระยา แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2640 7777 สายด่วน Hotline 1741
บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 74 ปี มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2562 มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนร้อยละ 164.33 ตามที่สำนักงาน คปภ. กำหนดไว้ มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 15,144 ล้านบาท สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 315 อาคารอาคเนย์ ชั้นจี-7 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร. 0 2631 1311 ศูนย์ดูแลลูกค้า โทร. 1726
บริษัท เอราวัณประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 38 ปี มีทุนจดทะเบียน 570 ล้านบาท ณ ไตรมาสที่ 1/2563 มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน สูงถึงร้อยละ 484.61 และอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง สูงถึงร้อยละ 9,975.80 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ สำนักงาน คปภ. ได้กำหนดไว้ สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 292 ถนนเยาวราช แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100 โทรศัพท์ 0 2224 0056
บริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 38 ปี มีทุนจดทะเบียน 2,640 ล้านบาท ณ ไตรมาสที่ 1/2563 มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนและอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องตามมาตรฐานที่สำนักงาน คปภ. ประกาศกำหนด และมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 5,373 ล้านบาท สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 492, 494 ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทรศัพท์ 0 2792 5555 สายด่วน 1729
“ปัจจุบันมีการสร้างกระแสข่าวปลอมเป็นจำนวนมากที่ส่งต่อเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย ประชาชนจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ก่อนส่งต่อหรือแชร์ทุกครั้ง เพราะไม่เช่นนั้นอาจตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่มีเจตนาไม่ดี และอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 ซึ่งมีโทษตามกฎหมายได้” นายอานนท์ กล่าวทิ้งท้าย