รายงาน “The Future 100” ประจำปี มองไปข้างหน้า หาเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคและนวัตกรรมที่จะกำหนดชะตา ในปี 2020 ตั้งแต่เทรนด์ของการมองอนาคตในแง่บวก จนถึงการเปิดกว้างและทัศนคติที่เปลี่ยนไปต่อประเด็นที่เคยเป็นสิ่งต้องห้าม
กรุงเทพฯ, (21 มกราคม 2563) – ขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ วันเดอร์แมน ธอมสัน อินเทลลิเจนซ์ (Wunderman Thompson Intelligence) ได้เปิดเผย 100 เทรนด์แห่งอนาคตด้วยการเผยแพร่รายงาน “เดอะ ฟิวเจอร์ วันฮันเดรด (The Future 100)”
“The Future 100” จะช่วยให้ผู้อ่านได้เตรียมปรับตัวรับพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคกับ 100 เทรนด์ที่ ดิ อินโนเวชั่น กรุ๊ป (The Innovation Group) คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 10 หมวด และแต่ละเทรนด์ให้ภาพรวมของกระแสที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบันไว้อย่างกระชับ เข้าใจง่าย พร้อมกับคำอธิบายอย่างชัดเจนว่าเพราะเหตุใดแบรนด์และนักการตลาดจึงควรให้ความสนใจกับเทรนด์นั้นๆ
จากเทรนด์ที่หลากหลายตั้งแต่เครื่องดื่มค็อกเทลอันแสนซับซ้อนและสปาดิจิทัลไปจนถึงประกันภัยแบบบอกรับเป็นสมาชิกและการเดินทางสำรวจทางวิทยาศาสตร์ “The Future 100” คาดว่าปี 2020 จะเป็นการเปิดศักราชใหม่ที่อยู่กับความเป็นจริง แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งจินตนาการสร้างสรรค์ ด้วยพลังของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและประสบการณ์ที่ถูกนิยามขึ้นใหม่เพื่อนักช้อปสายไฮสตรีท รายงานฉบับนี้อัดแน่นด้วยข้อมูลเชิงลึกและมุมมองที่สดใหม่เกี่ยวกับปีนี้และปีต่อๆ ไป
เอมม่า ชิว (Emma Chiu) Global Director ของวันเดอร์แมน ธอมสัน อินเทลลิเจนซ์ กล่าวถึงรายงานฉบับนี้ว่า “การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่แท้จริงได้เกิดขึ้นแล้ว โดยที่เจตนารมณ์และความโปร่งใสจะเป็นคุณสมบัติสำคัญที่สุดที่ทำให้ลูกค้าเกิดความจงรักภักดี ในขณะที่จินตนาการจะมีบทบาทเหนือข้อมูลในเรื่องการดึงดูดผู้บริโภค “The Future 100” คือวิธีหนึ่งในการเกาะติดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และแนวโน้มย่อยที่ขยับตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นโอกาสให้นักการตลาดได้พาตัวเองขึ้นนำหน้า
รายงานฉบับนี้จัดแบ่งเทรนด์ต่างๆ ออกเป็น 10 หมวดหมู่ ได้แก่ วัฒนธรรม (Culture), เทคโนโลยีและนวัตกรรม (Tech & Innovation), การเดินทางและภาคบริการ (Travel & Hospitality), แบรนด์และการตลาด (Brands & Marketing), อาหารและเครื่องดื่ม (Food & Drink), ความงาม (Beauty), ค้าปลีก (Retail), สินค้าและบริการระดับหรูหรา (Luxury), สุขภาพ (Health) และการเงิน (Finance)
ไฮไลท์ปี 2020
- มองอนาคตในแง่บวก (Optimistic Futures) – ช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้บริโภคตกอยู่กับความกับวิตกกังวลใจ แต่บริษัทที่คิดการณ์ไกลหลายรายกำลัง ทำให้บรรยากาศที่หมองหม่นกลับสดใสขึ้นด้วยภาพอนาคตที่เป็นไปได้จริงและมองโลกในแง่ดี ไม่ว่าจะด้วยสีแพนโทนในเฉดแดง Flame Scarlet สุดร้อนแรงสำหรับฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2020 หรือแคมเปญ “Rebuild The World” ของเลโก้
- ยุคแห่งความเป็นส่วนตัว (The Privacy Era) – ครั้งหนึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลเคยถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ช่วยผู้บริโภค แต่ในปัจจุบันมันกลับถูกตราหน้าว่ามีวาระซ่อนเร้นและไร้ซึ่งจริยธรรม ผู้บริโภคได้มาถึงจุดแตกหักแล้ว ท่ามกลางสภาวะที่มีการล้ำเส้นในเรื่องข้อมูลอยู่บ่อยครั้งและรุนแรง โครงการต่างๆ ที่บาง แบรนด์ได้ดำเนินการไปในปี 2019 ถือเป็นก้าวแรกเพื่อไถ่โทษของตนเอง และแนวคิดที่จะให้ผู้บริโภคมีอำนาจควบคุมข้อมูลของตนเองก็กำลังมีความเป็นไปได้อย่างชัดเจน
- แบรนด์ที่ดีต่อภูมิอากาศ (Climate Positive Brands) – ในขณะที่ปัญหาเรื่องสภาพภูมิอากาศยังคงเป็นข่าวใหญ่อยู่เนืองๆ แบรนด์ต่างๆ จึงมุ่งสร้างหลักประกันว่าตนเองจะมีแผนธุรกิจที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงและ มีนโยบายที่ทำให้อัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิของตนเองเป็นศูนย์ (Carbon-neutral) ตลอดจน มีความโปร่งใสในเรื่องความรับผิดชอบของตน การทำเช่นนี้ไม่เพียงสร้างความเชื่อถือ แต่ยังช่วยสร้างความจงรักภักดีของลูกค้าอีกด้วย เนื่องจากผู้บริโภคมีความตระหนักและรอบรู้เรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี
- การปลดเปลื้องสิ่งต้องห้ามในโลกตะวันออก (Untabooing in the East) – ความเปลี่ยนแปลงที่นำมาซึ่งการเปิดกว้างในเรื่องสิ่งต้องห้ามและข้อจำกัดทางเพศตามขนบเดิมๆ ในเอเชียกำลังจุดประกายให้เกิดแนวทางการตลาดที่สดใหม่ในภูมิภาคนี้ ทัศนคติต่อสุขภาพจิต สุขภาพทางเพศ และเพศสภาพ กำลังเปลี่ยนแปลงไป ด้วยพลังสนับสนุนของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
- สวนสนุกความงามรูปแบบใหม่ (New Beauty Playgrounds) – การช้อปปิ้งแบบสร้างประสบการณ์ มีความสอดคล้องกับเทรนด์ของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ความงามในปัจจุบันที่ยังคงชื่นชอบการได้ลองและเลือกซื้อเครื่องสำอางเองภายในร้าน จากเทรนด์ดังกล่าวแบรนด์ความงามจึงมุ่งสร้างพื้นที่ที่จะเป็นสวนสนุกที่สร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้อย่างแท้จริง พร้อมกับจินตนาการสร้างสรรค์เคาน์เตอร์ผลิตภัณฑ์ความงามขึ้นใหม่ให้เป็นที่หมายซึ่งผู้บริโภคสามารถใช้เวลาสนุกไปกับการเล่นการลอง และแน่นอนว่าจะต้องซื้อผลิตภัณฑ์ได้ด้วย
- ระบบสมาชิกบุกโลกตะวันออก (Subscription Goes East) – ระบบสมาชิกไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องการรับข่าว การเข้าฟิตเนสเซ็นเตอร์ หรือการฟังเพลงอีกต่อไป โลกของการใช้ชีวิตในระบบสมาชิกกำลังเฟื่องฟูถึงขีดสุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทุกวันนี้คุณสามารถเป็นสมาชิกได้ทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องดื่มที่บาร์ไปจนถึงการทำผมและการรักษาความงาม การเสาะหาเสื้อผ้าสำหรับสวมไปทำงาน หรือแม้กระทั่งรถยนต์เล็กซัส
- สนามบินยกระดับ (Elevated Airports) – สนามบินกำลังก้าวไกลเกินความเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการเดินทาง สู่การเป็นที่หมายทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นอยู่ในตัวของมันเอง ดังที่ได้เห็นจากท่าอากาศยานชางงีของสิงคโปร์ซึ่งมีน้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลก (Jewel Changi) และท่าอากาศยานนานาชาติต้าซิง (Daxing International Airport) ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นรูปปลาดาว โดยสถาปนิก ซาฮา ฮาดิด ผู้ล่วงลับ
สามารถดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็ม พร้อมข้อมูลครบทั้ง 100 เทรนด์ได้ที่ https://www.jwtintelligence.com/trend-reports/the-future-100-2020/