Saturday, 28 December 2024 | 4 : 29 am
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Saturday, 28 December 2024 | 4 : 29 am
spot_img
เมืองไทยประกันชีวิต และ มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ออกหน่วยบริการตรวจวัดสายตาและมอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุต่อเนื่อง ปีที่ 6   •   “CIMB THAI TRIATHLON 2024” ไตรกีฬารักษ์โลก เปลี่ยนเสื้อไตรกีฬาสู่เสื้อนักเรียน ส่งมอบให้ ร.ร. และน้องๆ ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์   •   ออมสิน มอบของขวัญปีใหม่ 2568 ให้ลูกค้าที่มีประวัติชำระหนี้ดี รายละ 1,000 บาท   •   เลขาธิการ คปภ. นำทีมร่วมเวที IAIS 2024 ผลักดัน 4 แนวทางหลัก สะท้อนบทบาทเชิงรุก ขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยไทยสู่ระดับโลก พร้อมรับมือความท้าทายแห่งอนาคต   •   กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดกิจกรรมลูกค้าส่งท้ายปีอย่างเหนือระดับ มอบประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟบนเรือยอร์ช และกิจกรรมทางน้ำสุดเอ็กซ์ตรีม ณ Ocean Marina Yacht Club Pattaya   •   ภาคอุตสาหกรรมประกันชีวิต – ประกันภัย จับมือรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2568 พร้อมเปิดตัวกรมธรรม์ไมโครอินชัวรันส์   •   วิริยะประกันภัย พร้อมจ่ายสินไหมทดแทน กรณี อุบัติเหตุรถยนต์ชนประชาชน หน้าโรงเรียนบ้านดอนขวาง จ.นครราชสีมา   •   ฟิลลิปประกันชีวิต ร่วมกับ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) อำนวยความสะดวกคนไทยกลับบ้านปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ 2568   •   คปภ. ชี้แจง Copayment สัญญาประกันสุขภาพปี 2568 ย้ำ! มีผลเฉพาะผู้เข้าเงื่อนไขเท่านั้น   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมรณรงค์ความปลอดภัยการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568   •   ออมสิน เปิดลงทะเบียนโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” แล้ววันนี้ ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร www.gsb.or.th และแอปพลิเคชัน MyMo   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร ส่งพลังความรักมอบความสุขให้ทุกการเดินทางในงาน “รณรงค์ความปลอดภัยการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2568”   •   กสิกรไทย ประกาศผล AFTERKLASS Business Camp ปีที่ 5 ปั้นนักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อมโลดแล่นในอนาคต   •   “คปภ. – ภาคธุรกิจประกันภัย” ร่วมรณรงค์ความปลอดภัยการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2568ภายใต้แนวคิด “เดินทางปลอดภัย ประกันภัยพร้อมดูแล” (Be Safe Be Insured)   •   วิริยะประกันภัย สนับสนุน คปภ. “รณรงค์ความปลอดภัยการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2568”
spot_img

ธ.ก.ส. เดินหน้าสนับสนุนโครงการปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่งของรัฐบาล ช่วยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกว่า 4 ล้านครัวเรือน ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพข้าวไทยสู่ตลาดโลก

ธ.ก.ส. พร้อมขับเคลื่อนโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และสารชีวภัณฑ์ ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศกว่า 4.68 ล้านครัวเรือน โดยรัฐจ่ายเงินช่วยเหลือค่าปุ๋ยครึ่งหนึ่ง หรือไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ และเกษตรกรจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง หนุนลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่าผลผลิต อันนำไปสู่การยกระดับรายได้เกษตรกรขึ้นอีก 3 เท่า ภายในระยะเวลา 4 ปี ตามนโยบายรัฐบาล เปิดแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ได้ตั้งแต่ 15 ก.ค. นี้ เป็นต้นไป

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 และที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ได้เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือโครงการปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อปัจจัยการผลิตที่สำคัญ คือ ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และสารชีวภัณฑ์ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำนวนกว่า 4.48 ล้านครัวเรือน พื้นที่กว่า 54 ล้านไร่ และเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ ประมาณ 2 แสนครัวเรือน พื้นที่ประมาณ 1.2 ล้านไร่  โดยมุ่งเน้นการเพิ่มผลผลิตข้าวด้วยการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมตามสภาพนิเวศน์และพื้นที่ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิต ควบคู่กับการสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร ด้วยการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตสมัยใหม่ เข้ามาปรับเปลี่ยนและพัฒนากระบวนการผลิตข้าว รวมถึงการใช้สาร  ชีวภัณฑ์มายกระดับผลผลิตข้าว เพื่อมุ่งสู่ระบบการผลิตข้าวปลอดภัย รวมถึงการกระตุ้นให้เกิดการผลิตพืชอินทรีย์ ที่ตอบโจทย์เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ อันเป็นทิศทางที่มุ่งไปสู่การสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและการยกระดับรายได้ให้เกษตรกรไทยเป็น 3 เท่า ภายในระยะเวลา 4 ปี ตามเป้าหมายนโยบายรัฐบาล และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก โดยรัฐบาลจะช่วยเหลือค่าปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และสารชีวภัณฑ์ ให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร ปีการผลิต 2567/68 ตามพื้นที่ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนไว้ จำนวนครึ่งหนึ่ง หรือไม่เกินไร่ละ 500 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ สูงสุด 10,000 บาท และเกษตรกรจ่ายสมทบอีกครึ่งหนึ่ง

ผู้ที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile โดยเลือกรับการสนับสนุน ค่าปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ หรือสารชีวภัณฑ์ที่ต้องการ ซึ่งมีปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 16 รายการ จากนั้น เกษตรกรสามารถชำระเงินสมทบค่าปุ๋ยตามที่แจ้งความประสงค์ และสามารถไปรับปุ๋ยและสารชีวภัณฑ์ได้ที่สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ภายใน 30 วัน โดย ธ.ก.ส. จะเปิดระบบแจ้งความประสงค์โครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 – 31 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อย สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตามปกติ

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img