Thursday, 2 May 2024 | 1 : 27 pm

4Quarter.co

Thursday, 2 May 2024 | 1 : 27 pm
กรุงศรี ออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือน ตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเครื่องกรองน้ำพกพาและน้ำดื่มสนับสนุนภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ   •   กรุงเทพประกันชีวิต และ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมจัดงานขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจใช้บริการวางแผนความคุ้มครองและการออมยาวนานกว่า 20 ปี   •   กรุงศรี คอนซูมเมอร์ แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด   •   แอปฟินนิกซ์ (FINNIX) เปิดตัวห้องเรียนออนไลน์ฟรี ‘เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์’ ตอบอินไซต์คนทำมาหากินที่ไม่มีเวลา ตั้งเป้าเสริมแกร่ง 10,000 คนทั่วไทยปีนี้   •   ฟิลลิปประกันชีวิต มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้น ภายใต้หัวข้อ “Get To Know Philliplife”   •   BAM จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาบุคลากร   •   SCG HOME Experience เปิด 3 โซนใหม่ ตอกย้ำทุกเทรนด์การอยู่อาศัยเอาใจคนรักบ้าน   •   ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME รายย่อย มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   คิง เพาเวอร์ ส่งท้ายความฮอต ยิ่งช้อป ยิ่งได้ลด ตลอดทั้งเดือน   •   TOA เปิดนโยบาย GREEN MISSION เดินหน้าพันธกิจ พิชิต Net Zero เสริมแกร่งด้วย ฉลากลดโลกร้อน (CFR) มากที่สุดในสีทาอาคาร ตอกย้ำผู้นำตลาดสีเบอร์หนึ่ง เติบโตสู่ปีที่ 60 อย่างยั่งยืน   •   การเคหะแห่งชาติ ก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 อาคาร D1 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% คาดว่าจะส่งมอบให้ผู้อยู่อาศัยประมาณเดือนพฤษภาคม 2567   •   ทิพยประกันภัย จับมือ BEM มอบของขวัญช่วงวันแรงงาน สำหรับผู้ถือบัตร MRT/MRT PLUS และ EASY PASS รับฟรี! ประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท พร้อมค่าชดเชยรายวัน 500 บาทต่อวัน   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร ส่ง“โอเชี่ยนไลฟ์ เบทเทอร์ ไลฟ์ 95/60 (Package)” แบบประกันตลอดชีพแนวคิดใหม่ ที่จะช่วยให้คุณออกแบบอนาคตที่ดียิ่งกว่าสำหรับวัยเกษียณ   •   กสิกรไทย ประกาศลดดอกเบี้ยช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง 0.25% เป็นระยะเวลา 6 เดือน ในช่วงที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่   •   TQM ร่วมกับ BKI จัดแคมเปญรับวันแรงงาน กับแนวคิด ประกันภัยมนุษย์เงินเดือน: ทุกความเสี่ยงบริหารได้ พร้อมมอบฟรีประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม (ไมโครอินชัวรันส์)   •   กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต จัดกิจกรรมลูกค้า “Barista Workshop” ณ จ.เชียงราย และเชียงใหม่ เอาใจคนรักกาแฟ   •   ศุภาลัย ร่อนโปรฯเด็ด “ของแทร่ แฟร์ทุกช้อยส์” เลือกเล้ย เครื่องใช้ไฟฟ้าสุดพรีเมียม 8 ชิ้น หรือช่วยผ่อนสูงสุด 2 แสนบาท!   •   กรุงศรี คว้ารางวัล “Best Bank for Sustainable Finance” และกวาดรางวัลด้านความยั่งยืน ตอกย้ำการเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจไว้วางใจ สู่การเติบโตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน   •   กลุ่มเอไอเอ ประกาศผลประกอบการมูลค่าธุรกิจใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยมูลค่าธุรกิจใหม่ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ   •   ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งปีที่อัตราหุ้นละ 0.52 บาท   •   วิริยะประกันภัย ถวายเครื่องอุปโภคบริโภค มูลนิธิสหชาติ เพื่อสนับสนุนการจัดการแก้ปัญหาช้างป่าภาคตะวันออก   •   TOA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 และอนุมัติจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลัง 0.35 บาทต่อหุ้น   •   บีคอน วีซี ร่วมกับ SUN Group ลงทุน Series A ใน ION Energy สตาร์ทอัพพลังงานโซลาร์สัญชาติไทย หนุนการเข้าถึงพลังงานสะอาดต้นทุนต่ำ   •   เมืองไทยประกันภัย จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 จ่ายเงินปันผล 5.00 บาทต่อหุ้น   •   เคทีซี ควงแขน ซีไลฟ์ แบงคอก ชวนครอบครัวท่องเที่ยว เปิดประสบการณ์นอกห้องเรียน   •   พลังบุญทิพย #225 พิธีมหามงคลเทวาภิเษกบวงสรวงองค์เทพหนุมานทิพยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ พร้อมจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ประจำปี เพื่อความเป็นสิริมงคลแห่งแผ่นดินไทย   •   TQMalpha มั่นใจกลุ่มธุรกิจประกันเบี้ยแตะ 33,000 ล้านบาท เร่งสปีดพัฒนาเทค-แพลตฟอร์มกลุ่มประกันและการเงิน เพื่อตอบโจทย์การบริการผู้บริโภค   •   ลดสูงสุด 20% เมื่อจองเที่ยวบิน หรือ ที่พัก ผ่านบัตร Krungsri Boarding Card หรือบัตรกรุงศรี เดบิต ที่ Trip.com   •   “สาระ ล่ำซำ” รับรางวัลเกียรติยศ TOP CEO (THAILAND) 2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

เลขาธิการ คปภ. ระดมสมองวางกรอบยุทธศาสตร์ 3 ปี

เลขาธิการ คปภ. ระดมสมองวางกรอบยุทธศาสตร์ 3 ปี นำสำนักงาน คปภ. ฟันฝ่า “ยุคโควิดภิวัฒน์” ก้าวสู่ความเป็นองค์กรชั้นนำที่สร้างเสริมระบบประกันภัยให้เข้าถึงโดยง่าย เป็นธรรม และยั่งยืน

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการคปภ.) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการตามโครงการพัฒนาการบริหารเชิงกลยุทธ์ของสำนักงาน คปภ. (OIC Strategic Management) สำหรับผู้บริหารระดับสูง เพื่อกำหนดทิศทางในการจัดทำกรอบแผนยุทธศาสตร์สำนักงาน คปภ. 3 ปี (ปี2564 – 2566) และจัดทำแผนการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. ปี 2564 จัดโดยสายกลยุทธ์องค์กร สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ระหว่างวันที่ 3-4 สิงหาคม 2563 ณ โรงแรม Renaissance Pattaya Resort & Spa จังหวัดชลบุรี

ในโอกาสนี้ เลขาธิการ คปภ. ได้กล่าวในตอนหนึ่งว่า การจัดทำแผนยุทธศาสตร์สำนักงาน คปภ. 3 ปี (ปี 2564 – 2566) และจัดทำแผนการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. ปี 2564 มีความแตกต่างไปจากทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากครั้งนี้จำเป็นต้องหยิบยก สภาพปัญหา โอกาส และความท้าทาย ของสำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัยที่กำลังเผชิญอยู่ เพื่อนำมาใช้เป็นกรอบความคิดหลัก ๆ ในการจัดทำแผนฯ ดังกล่าว ซึ่งสภาพปัญหา โอกาส และความท้าทาย 7 ประการ ได้แก่

ประการแรก การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – 19 กลายเป็นตัวเร่งให้สังคมไทยเข้าสู่รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “ยุคโควิดภิวัฒน์” ที่พฤติกรรมของคนเปลี่ยนแปลงไป มีการใช้เทคโนโลยีและทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น มีการดำเนินธุรกิจจะเป็นรูปแบบใหม่ภายใต้ New Normal หรืออาจปรับไปสู่ New Business Model มีการนำ Application AI Platform และ API (Application Programming Interface) มาสนับสนุนในการทำธุรกิจประกันภัยตั้งแต่ต้นน้ำไปยังปลายน้ำมากขึ้น เช่น การเปรียบเทียบเงื่อนไขความคุ้มครองของผลิตภัณฑ์ประกันภัย อัตราเบี้ยประกันภัย การเสนอขาย การ Underwrite การออกกรมธรรม์ประกันภัย รวมถึงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน หรือการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเรื่องของจำนวนวันในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ เป็นต้น

ประการที่ 2 การพัฒนาศูนย์ข้อมูลกลางประกันภัย หรือ Insurance Bureau System (IBS) ให้เป็นคลังข้อมูลที่ทรงประสิทธิภาพให้กับระบบประกันภัยของไทย ซึ่งในอนาคตจำเป็นต้องวาง Organization Structure ที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดการพัฒนา IBS อย่างรวดเร็วและยั่งยืน สำหรับภารกิจเร่งด่วนคือการพัฒนา OIC Gateway เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลกับบริษัทประกันภัยกว่า 80 แห่งเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อบริการประชาชนผ่านระบบกลางที่เดียว และต่อยอดให้เกิดความร่วมมือทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมประกันภัยในอนาคต โดยประชาชนผู้เอาประกันภัยจะสามารถใช้เลขที่บัตรประจำตัวประชาชนในการตรวจสอบการทำประกันภัยผ่าน OIC Chatbot ในระยะต่อไปจะมีการต่อยอดให้มีการนำข้อมูลจาก IBS มาใช้ผ่าน Platform เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันในอุตสาหกรรมโดยการทำ Big Data Analytics

ประการที่ 3 การพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมประกันภัยให้มีความมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืน (Growth and Sustainable Development) เพื่อให้สามารถแข่งขันในเวทีสากล โดยการให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยภายใต้รูปแบบการดำเนินธุรกิจ (Business Model) ที่เหมาะสม ทั้งในเรื่องความมั่นคงทางการเงิน (Prudential) การปฏิบัติและให้บริการแก่ลูกค้า (Market Conduct) ทั้งสองประเด็นนี้ต้องดำเนินการควบคู่กันไป เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าบริษัทประกันภัยมีความมั่นคง สามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันต่อผู้เอาประกันภัยได้

ประการที่ 4 ผลักดันให้ธุรกิจประกันภัยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยการส่งเสริมให้การประกันภัยเข้าไปช่วยรองรับความเสี่ยงให้กับทรัพย์สิน หรือ มหันตภัยให้แก่ภาครัฐ ซึ่งจะเห็นว่าขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีการทำประกันภัยทรัพย์สินภาครัฐ หรือในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม (Climate Change) จึงควรมีการศึกษาเรื่องการจัดตั้งกองทุนประกันภัยพิบัติขึ้น โดยมีกติกา และกำหนดผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน

ประการที่ 5 กติกาสากลที่มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยมาตรฐานสากลมีการปรับเปลี่ยนในหลายด้าน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น มาตรฐานการรายงานทางการเงิน หรือ IFRS 17 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจประกันภัยเป็นอย่างมาก ดังนั้น สำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจต้องเตรียมพร้อมรับมือ และหาทางร่วมมือเพื่อการบริหารจัดการต้นทุน (Cost Optimization ) เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

ประการที่ 6 การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ (New Product Development) โดยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบสนองพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันด้วยเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยงและความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันภัยแต่ละราย (Tailor – Made Insurance) พร้อมทั้งสนับสนุนให้บริษัทประกันภัยมีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการกำหนดรูปแบบกรมธรรม์ประกันภัยให้มีความเป็นสากลและหลากหลาย หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ตามภูมิภาคหรือพื้นที่เฉพาะ เช่น การประกันภัยทุเรียนภูเขาไฟ การประกันภัยประมง เป็นต้น

และประการที่ 7 Regulatory Reform เพื่อให้สำนักงาน คปภ. สามารถ Deliver Values to Stakeholders ได้ตรงตามวัตถุประสงค์มากขึ้น การลดความซับซ้อนของกฎระเบียบ การพัฒนาและปรับปรุงกฎระเบียบในการกำกับดูแลที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันให้มีความทันสมัยและสามารถประยุกต์ใช้กับสภาพแวดล้อม มีการปรับกฎกติกาให้เป็น
Principle – Based มากขึ้น โดยปรับปรุงกระบวนการเข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการสำหรับธุรกิจประกันภัย (Insurance Regulatory Sandbox) ให้มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน และมีการพิจารณาอนุมัติที่รวดเร็ว เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทประกันภัย คนกลางประกันภัย และ Tech Firms สามารถนำนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ หรือลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ ซึ่งขณะนี้ได้ขยายขอบเขตของ Regulatory Sandbox ไปสู่ Own Sandbox แล้ว นอกจากนี้จำเป็นต้องเร่งดำเนินการในเรื่อง Regulatory Guillotine โดยยกเลิกกฎกติกาที่ล้าสมัยปรับปรุงและพัฒนากฎหมายเกี่ยวกับการประกันภัย รวมถึงพัฒนาการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดภาระให้กับภาคธุรกิจทำให้สามารถประกอบธุรกิจได้คล่องตัวและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น

“สภาพปัญหา โอกาส และความท้าทาย ทั้ง 7 ประการ ได้ถูกนำมาใช้เป็นกรอบ ในการระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดทิศทางในการจัดทำกรอบแผนยุทธศาสตร์ฯ ในครั้งนี้ และมีทีมจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นที่ปรึกษาโครงการ โดยมีการแบ่งกลุ่มทำเวิร์คช็อปอย่างเข้มข้น ซึ่งผมได้ร่วมระดมสมองเพื่อตกผลึกความคิด และได้ข้อสรุปร่วมกันว่า แผนยุทธศาสตร์ของสำนักงาน คปภ. 3 ปี (ปี 2564 – 2566) จะต้องเป็นแผนที่มีความยืดหยุ่นพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์และขับเคลื่อนภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ของสำนักงาน คปภ.ที่จะมุ่งสู่การเป็นองค์กรชั้นนำ ที่สร้างเสริมระบบประกันภัย ให้เข้าถึงโดยง่าย เป็นธรรม และยั่งยืน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมประกันภัยทั้งระบบและสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย