เริ่มแล้ว Cat Expo Thailand 2025 วันแรก ‘ทาสแมว’ แห่ร่วมงานคึกคัก คาดเม็ดเงินสะพัด 120 ล้านบาท!   •   คีย์ อินโนเวธ ผสานพลังเยาวชน อัสสัมชัญ บางรัก มอบนวัตกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแก่ กอ.รมน. สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนในพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมทั่วประเทศ   •   ธ.ก.ส. เสิร์ฟโปรโมชันพิเศษมากมาย บุก Thailand Smart Money กรุงเทพฯ พร้อมเปิดตัว Art Toy ชุด Agri Animal ตัว Secret   •   กรุงเทพประกันภัย ครองอันดับความน่าเชื่อถือ A- (Stable) จาก S&P อย่างต่อเนื่อง   •   TOA ไม่ทิ้งกัน รวมพลัง ‘ทีโอเอ อาสา’ เดินหน้าฟื้นฟูชาวใต้หลังน้ำลด ส่งมอบถุงยังชีพ – สิ่งของบรรเทาทุกข์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เต็มสูบ   •   เมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล “The Digital Insurance APAC 2025 – AI Initiative of the Year” จากผลงาน Chompoo Chatbot จุดประกายวิสัยทัศน์องค์กรแห่งอนาคตด้วยพลังของ AI   •   ไทยกรุ๊ปฯ จัดงาน A ROOT by Thai Group รีเฟรชกายใจ ส่งท้ายปี เติมพลังสุขรับปีใหม่A   •   อลิอันซ์ อยุธยา ส่งมอบความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ พร้อมทั้งดูแลลูกค้าในพื้นที่อย่างใกล้ชิด   •   มูลนิธิกรุงศรี สนับสนุน มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ร่วมสร้างรอยยิ้มใหม่ให้กับเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่   •   ออมสิน น้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่ 9   •   GC ประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดใหม่ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากนักลงทุน เสริมแกร่งโครงสร้างเงินทุนระยะยาว รองรับการเติบโตธุรกิจมูลค่าสูง-คาร์บอนต่ำ   •   BAM ผนึก Agentplus–MBKG เดินหน้าโมเดล “NPAs Smart Agent” เร่งระบายทรัพย์–ต่อยอดสินเชื่อครบวงจร   •   ไทยประกันชีวิต – คปภ. ร่วมส่งความช่วยเหลือ ด่วน! เพื่อพี่น้องชาวใต้   •   คปภ. ออกมาตรการเร่งด่วน! ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ สั่งทุกบริษัทส่งรถยกฟรี–เร่งจ่ายสินไหมใน 7 วัน   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย มอบผ้าห่ม 700 ผืน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
spot_img
spot_img

4Quarter.co

spot_img
เริ่มแล้ว Cat Expo Thailand 2025 วันแรก ‘ทาสแมว’ แห่ร่วมงานคึกคัก คาดเม็ดเงินสะพัด 120 ล้านบาท!   •   คีย์ อินโนเวธ ผสานพลังเยาวชน อัสสัมชัญ บางรัก มอบนวัตกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแก่ กอ.รมน. สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนในพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมทั่วประเทศ   •   ธ.ก.ส. เสิร์ฟโปรโมชันพิเศษมากมาย บุก Thailand Smart Money กรุงเทพฯ พร้อมเปิดตัว Art Toy ชุด Agri Animal ตัว Secret   •   กรุงเทพประกันภัย ครองอันดับความน่าเชื่อถือ A- (Stable) จาก S&P อย่างต่อเนื่อง   •   TOA ไม่ทิ้งกัน รวมพลัง ‘ทีโอเอ อาสา’ เดินหน้าฟื้นฟูชาวใต้หลังน้ำลด ส่งมอบถุงยังชีพ – สิ่งของบรรเทาทุกข์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เต็มสูบ   •   เมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล “The Digital Insurance APAC 2025 – AI Initiative of the Year” จากผลงาน Chompoo Chatbot จุดประกายวิสัยทัศน์องค์กรแห่งอนาคตด้วยพลังของ AI   •   ไทยกรุ๊ปฯ จัดงาน A ROOT by Thai Group รีเฟรชกายใจ ส่งท้ายปี เติมพลังสุขรับปีใหม่A   •   อลิอันซ์ อยุธยา ส่งมอบความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ พร้อมทั้งดูแลลูกค้าในพื้นที่อย่างใกล้ชิด   •   มูลนิธิกรุงศรี สนับสนุน มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ร่วมสร้างรอยยิ้มใหม่ให้กับเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่   •   ออมสิน น้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่ 9   •   GC ประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดใหม่ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากนักลงทุน เสริมแกร่งโครงสร้างเงินทุนระยะยาว รองรับการเติบโตธุรกิจมูลค่าสูง-คาร์บอนต่ำ   •   BAM ผนึก Agentplus–MBKG เดินหน้าโมเดล “NPAs Smart Agent” เร่งระบายทรัพย์–ต่อยอดสินเชื่อครบวงจร   •   ไทยประกันชีวิต – คปภ. ร่วมส่งความช่วยเหลือ ด่วน! เพื่อพี่น้องชาวใต้   •   คปภ. ออกมาตรการเร่งด่วน! ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ สั่งทุกบริษัทส่งรถยกฟรี–เร่งจ่ายสินไหมใน 7 วัน   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย มอบผ้าห่ม 700 ผืน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
spot_img

กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง วิเคราะห์เกมเศรษฐกิจโลกในยุคทรัมป์ 2.0 ชี้ไทยเตรียมรับมือความท้าทายครั้งใหญ่ กรุงเทพฯ

(23 มกราคม 2568) – กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง เผยมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2568 ในงานสัมมนา KRUNGSRI PRIVATE BANKING Investment Outlook 2025 ในหัวข้อ 2025 and Beyond: Power Dynamics after Trump Era โดยได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและการลงทุน ได้แก่ Mr. Shaun Jamieson, Vice President Global Allocation Team BlackRock ดร. อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายวิรัตน์ วิทยศรีธาดา, CFA ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์และที่ปรึกษาการลงทุน และหัวหน้าทีม Krungsri Investment Intelligence ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

โดยสรุปเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน ชี้นักลงทุนควรจับตานโยบายทรัมป์ 2.0 ที่อาจมีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนทั่วโลกอย่างใกล้ชิด

BlackRock คาดการณ์โอกาสและความเสี่ยงรอบใหม่ เริ่มต้นด้วยมุมมองเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางความไม่ชัดเจนของนโยบายรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์

Mr. Shaun Jamieson, Vice President Global Allocation Team, BlackRock ได้แบ่งกรอบการวิเคราะห์สถานการณ์ออกเป็น 3 ส่วน ประกอบไปด้วย ปัจจัยคงที่ ปัจจัยผันแปร และสุดท้ายคือการนำทั้ง 2 ส่วนมาวิเคราะห์เป็นกลยุทธ์การลงทุน ทั้งนี้ ในส่วนของปัจจัยคงที่ ได้แก่ 1) เศรษฐกิจสหรัฐฯ พึ่งพาภาคบริการมากขึ้น ทำให้ความผันผวนทางเศรษฐกิจลดน้อยลง 2) ตลาดแรงงานสหรัฐฯ แข็งแกร่ง อัตราการว่างงานต่ำ และการจ้างงานเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ 3) ภาคครัวเรือนสหรัฐฯ มีเงินออมสูง สืบเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วง COVID-19 4) การลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) และค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CapEx) ที่เกี่ยวข้องกับ AI ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในโครงสร้างเศรษฐกิจ และคาดว่า AI จะช่วยเพิ่ม GDP ได้ถึง 15% ใน 10 ปีข้างหน้า และ 5) สภาพคล่องส่วนเกินในระบบเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง สะท้อนจากมูลค่าเงินทุนจำนวนกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในกองทุนตลาดเงิน ซึ่งอาจหนุนตลาดหุ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีตัวแปรที่ยังคงต้องติดตาม ได้แก่ 1) ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการคลังของสหรัฐฯ โดยเฉพาะด้านการค้า ขณะที่นโยบายด้าน Deregulation อาจจะให้ผลในเชิงบวก 2) ผลกระทบของกระแสทวนกลับของโลกาภิวัตน์ (Deglobalization) โดยที่แต่ละประเทศจะเน้นการพึ่งพาตนเองมากขึ้น 3) ทิศทางนโยบายการเงินของ FED ที่ยังคาดเดาไม่ได้ และ 4) หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง สิ่งเหล่านี้กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่จะระบุถึงแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในระยะถัดไป ซึ่งหากนำปัจจัยทั้ง 2 มาวิเคราะห์ถึงผลกระทบโดยรวมที่อาจเกิดขึ้น มองว่าในระยะสั้นจะมี Positive Demand Shock จากตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลดีต่อภาคการบริโภค รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่จะยังส่งผลบวกต่ออุปสงค์ในภาพรวม ขณะที่เงินเฟ้อจะยังคงมีอยู่ แต่ในระยะยาวจะเกิด Positive Supply Shock การลงทุนภาครัฐและเอกชนที่เน้นประสิทธิภาพการผลิต เช่น เทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน ที่ช่วยทดแทนแรงงานสำหรับมุมมองด้านการลงทุน แม้ว่าปัจจุบันราคาหุ้นจะไม่ได้อยู่ในระดับต่ำ แต่ยังมีโอกาสการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นที่มีผลประกอบการและกระแสเงินสดเติบโต ซึ่งปัจจุบันอัตราการเติบโตของรายได้และกระแสเงินสดอิสระสูงกว่าในอดีต ขณะที่ยุโรปมี Valuation ที่น่าสนใจ แต่มีความเสี่ยงในการเติบโต

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบริษัทชั้นนำในกลุ่ม Healthcare และ Financial ที่น่าสนใจเช่นเดียวกับญี่ปุ่น ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงของ Corporate Reform ซึ่งการซื้อหุ้นคืนช่วยเพิ่มมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นด้านตราสารหนี้ แนะนำลงทุนในตราสารอายุสั้นที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับตราสารหนี้ระยะยาว นอกจากนี้ High Yield Bond และตราสารหนี้ที่มีหลักประกันยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งจากการชำระหนี้ในช่วงดอกเบี้ยต่ำจับตาจีนตั้งรับ ‘ทรัมป์ 2.0’ ขณะที่ ‘ไทย’ เตรียมสู้ศึกการค้าสองด้าน

ด้าน ดร. อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แบ่งการวิเคราะห์การลงทุนในจีนเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนและนโยบายทรัมป์ 2.0 ซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจไทยและโลก โดยมองว่าเศรษฐกิจจีนยังอยู่ในช่วง Stabilization คือเน้นทำให้เศรษฐกิจมีความมั่งคง รักษาระดับการเติบโต และเตรียมปรับโครงสร้างระยะยาว โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีผลต่อ GDP ประมาณ 15-30% ขณะที่รัฐบาลจะหันไปสนับสนุนเทคโนโลยีมากขึ้น เช่น พลังงานสะอาด ซึ่งมีสัดส่วนการเติบโตกว่า 8% ของ GDP ส่วนด้านนโยบาย ทรัมป์ 2.0 ที่มุ่งเป้าไปที่ประเทศจีนและดึงฐานการผลิตกลับสหรัฐฯ อาจเป็นการขึ้นกำแพงภาษีกับทุกประเทศ เพื่อดึงโรงงานจากจีนและประเทศอื่นๆ กลับไปยังสหรัฐฯ สำหรับท่าทีการตอบโต้ของจีน มองว่า จีนจะเน้นการพัฒนาตลาดภายในประเทศและขยายไปยังตลาดเกิดใหม่ เช่น ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเน้นลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีใหม่ที่เริ่มต้นพร้อมกันระหว่างสหรัฐฯ และจีน เช่น AI, พลังงานทางเลือก และ Quantum Computing ซึ่งโดยสรุปแล้ว มองว่าการกระจายตัวทางเศรษฐกิจ (Globalization) ในรอบนี้ สหรัฐฯ และจีนจะพึ่งพาตนเองมากขึ้น ซึ่งอาจกระทบกับความมั่งคั่งที่ลดลง แต่จะแข็งแกร่งในระยะยาว ขณะที่ประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะไทยและประเทศกำลังพัฒนา จะเผชิญความท้าทายจากการย้ายฐานการผลิตกลับและสินค้าจีนที่ทะลักเข้าสู่ตลาดโลกKrungsri Investment Intelligence แนะคอยความชัดเจนจากปัจจัยสำคัญ

ด้าน นายวิรัตน์ วิทยศรีธาดา, CFA ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์และที่ปรึกษาการลงทุน และหัวหน้าทีม Krungsri Investment Intelligence ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มองปัจจัยสำคัญสำหรับการลงทุนในปี 2568 เป็น 4 ประเด็น ดังนี้ 1.เศรษฐกิจโลกและสหรัฐฯ : นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจโลกยังเติบโตได้ดี และมีโอกาสเกิด Recession ต่ำ อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง และความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของทรัมป์ ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจ 2.ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด 7 ไตรมาสติดต่อกัน อย่างไรก็ตามในระยะถัดไป การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำหรับตลาดหุ้นในปี 2568 3.อัตราผลตอบแทนของพันธบัตร (Bond Yield) : อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงช้าและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงนโยบายทรัมป์ 2.0 อาจส่งผลให้ FED ปรับลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น และกดดันราคาสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะหุ้น ทั้งนี้ ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจปัจจุบันที่ยังคงแข็งแกร่ง ส่งผลให้ Bond Yield อยู่ในระดับสูง ซึ่งมองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อกองทุนตราสารหนี้โลก 4.นโยบายทรัมป์ 2.0 : อาจส่งผลให้เงินเฟ้อเร่งตัว และเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามนโยบายในแง่บวกคือนโยบายการลดภาษีนิติบุคคลและ Deregulation ทั้งนี้ผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั้งแง่บวกและลบ ขึ้นอยู่กับว่าทรัมป์จะสามารถดำเนินนโยบายตามที่สัญญาไว้ได้มากน้อยและรวดเร็วแค่ไหน

โดยทีม Krungsri Investment Intelligence ได้สรุปมุมมองและคำแนะนำการลงทุนของแต่ละสินทรัพย์ ไว้ดังนี้ –ตราสารหนี้โลก : แนะนำให้ลงทุนในช่วงที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยแนะนำกองทุน KF-CSINCOM ที่มีการปรับ Duration ของกองทุนสม่ำเสมอ และปรับสัดส่วน High Quality กับ High Yield ตามสภาวะตลาด –ตลาดหุ้นโลก : มีมุมมองที่เป็นกลาง แต่มีมุมมองเป็นบวกกับการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ โดยมองว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์จากมาตรการของทรัมป์ อย่างไรก็ตามควรติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากราคาหุ้นอาจมีความผันผวนจาก Valuation ที่อยู่ในระดับสูง –หุ้นยุโรป : จังหวะซื้อที่ดีคือช่วงที่ตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจยุโรปยังมีความไม่แน่นอนสูง แนะนำรอความชัดเจนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ –หุ้นญี่ปุ่น : ยังคงได้รับประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนและเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่บริษัทมีนโยบายการซื้อหุ้นคืน –หุ้นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา : มองว่ามีปัจจัยกดดัน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ความไม่แน่นอนของการค้าระหว่างประเทศ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และอัตราผลตอบแทนสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น – หุ้นจีน : มองว่ากำลังเผชิญ 2 ประเด็นหลัก คือ การค้าระหว่างประเทศและภาคอสังหาฯ อย่างไรก็ตามมองว่ารัฐบาลจีนน่าจะมีการประกาศนโยบายด้านเศรษฐกิจเป็นระยะๆ ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น –หุ้นไทย : มองว่ามีความเสี่ยงจากการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสัดส่วนหลักของ GDP อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นปัจจัยบวก –หุ้นเวียดนาม : จะมีปัจจัยบวกจากการอัปเกรดเป็น Emerging Markets แต่ต้องระวังผลกระทบจากนโยบายการค้าของทรัมป์ ซึ่งมีผลต่อประเทศที่เกินดุลกับสหรัฐฯ

สำหรับผู้สนใจบริการ KRUNGSRI PRIVATE BANKING สามารถเข้าไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขาทั่วประเทศ หรือศึกษารายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.krungsri.com/th/wealth/krungsri-private-banking

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้ "คุกกี้” เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน โดยใช้คุกกี้เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของท่าน
รายละเอียดเพิ่มเติม: นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy), ตั้งค่าคุกกี้ (Cookies Settings)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ วิเคราะห์การเข้าชม และนำเสนอโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของท่าน สามารถตั้งค่าความยินยอมโดย เปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้ท่านสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ ท่านไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เว็บไซต์สามารถจดจำตัวเลือกหรือการตั้งค่าต่างๆ ที่ท่านได้เลือกไว้ เช่น ภาษา ภูมิภาค หรือขนาดตัวอักษร เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทำให้ท่านไม่ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่เข้าใช้งานเว็บไซต์
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประสิทธิภาพ

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เราสามารถรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เช่น จำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์สำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น โดยข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมนั้นจะไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้ถูกตั้งค่าโดยพันธมิตรด้านโฆษณา เพื่อสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับความสนใจของท่านจากการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ สำหรับแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของท่านให้มากที่สุดทั้งบนเว็บไซต์ของเราและเว็บไซต์อื่นๆ หากไม่ยินยอม โฆษณาที่แสดงผลจะเป็นแบบทั่วไปซึ่งอาจไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    รายละเอียดคุกกี้

Save