คำว่า “คนตัวเล็ก” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่รายได้น้อยหรือคนจน แต่หมายถึง: คนไม่มีเครดิต คนอยู่นอกระบบ คนเคยล้มเหลวทางการเงิน คนที่ไม่เคยถูกมองว่าเป็นไปได้ Social Banking ทำสิ่งที่ระบบเดิมไม่เคยทำ คือทำให้คนที่ไม่มีคุณสมบัติตามกรอบได้กลับเข้ามาในระบบ ไม่ตัดโอกาสตั้งแต่ต้น …โดยใน 5 ปีที่ผ่านมา ธนาคารออมสิน พลิกบทบาทแบงก์รัฐสู่ธนาคารเพื่อสังคม ปล่อยสินเชื่อกว่า 1.4 ล้านล้านบาท ให้กับคนกลุ่มนี้ และช่วยแก้หนี้ให้ 8.5 ล้านบัญชี ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขธรรมดา แต่คือการเปลี่ยนสถานะทางเศรษฐกิจของผู้คนจำนวนมากให้กลับมา “เริ่มใหม่” ได้อีกครั้ง

ในช่วงที่ระบบการเงินไทยกำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน จากหนี้ครัวเรือนสูงไปจนถึงการเข้าถึงสินเชื่อที่กระจุกตัว โมเดล “Social Banking” โดย ธนาคารออมสิน ได้แสดงให้เห็นว่า รัฐสามารถ “ออกแบบระบบการเงินใหม่” ที่ช่วยเหลือคนตัวเล็กได้ ขณะที่ยังคงสามารถนำส่งกำไรกลับเป็นรายได้เข้าแผ่นดิน (เงินนำส่งคลัง) ได้สูงเป็นลำดับที่ 3 หรือกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ในปี 2567

ล่าสุด ธนาคารออมสิน “ธนาคารเพื่อสังคม” ได้สร้าง Social Impact ช่วยคนไทย 13 ล้านชีวิตได้ไปต่อ คิดเป็น 18.8 ล้านบัญชี ที่ได้รับความช่วยเหลือ ด้านฐานะการเงินออมสินเติบโตแข็งแกร่ง ตลอด 5 ปี และทำกำไรนำส่งเงินเข้ารัฐแล้วกว่า 9.6 หมื่นล้านบาท
● การขับเคลื่อนจากระดับแนวคิด สู่โครงสร้างจริง พร้อมชุดโครงการที่จับต้องได้
1. สินเชื่อเพื่อสร้างโอกาส:
ไม่ใช่แค่ปล่อยกู้ แต่คือการ “เปิดประตูใหม่” หนึ่งในแกนหลักของ Social Banking คือ “การให้โอกาสคนที่ไม่เคยอยู่ในระบบได้เริ่มต้น” ออมสินใช้กลไกหลายชุดในการทำให้ภารกิจนี้เกิดขึ้นจริง เช่น:
• สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ ปล่อยกู้ให้ผู้ไม่มีรายได้ประจำ ผู้ค้ารายย่อย และแรงงานนอกระบบปล่อยไปแล้วกว่า 340,000 ราย วงเงินกว่า 6,000 ล้านบาท ควบคู่กับ “อบรมพัฒนาทักษะอาชีพ” และ “ช่วยเชื่อมต่อช่องทางตลาด”
• สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส สำหรับคนที่ไม่เคยมีเครดิตในระบบ เช่น คนไม่มีบัญชีธนาคาร หรือไม่มีสลิปเงินเดือนทำงานร่วมกับ Big Data และพฤติกรรมการเงิน เช่น การโอนเงินเข้า-ออกมือถือ ประวัติการจ่ายค่าสาธารณูปโภค ฯลฯ
• บริษัท เงินดีดี จำกัด เป็นบริษัทลูกที่มีความคล่องตัวกว่า ทำหน้าที่ปล่อยสินเชื่อฐานรากแบบ non-bank ทำงานคู่กับ FinTech เพื่อเร่งการเข้าถึงสินเชื่อแบบดิจิทัลโดยไม่ต้องใช้สาขา
2. โครงการแก้หนี้:
บริหารหนี้อย่างเข้าใจมนุษย์ ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นโครงการที่น่าจับตาในด้าน “การฟื้นศักยภาพ” คือการจัดการหนี้ที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง:
• โครงการแก้หนี้ครู / บุคลากรทางการศึกษา ใช้โมเดลรีไฟแนนซ์ดอกเบี้ยต่ำ + พักชำระบางส่วน + แนะแนววินัยการเงิน ลดดอกเบี้ยเหลือ 1% ต่อปี ในช่วงวิกฤตโควิด

• โครงการคุณสู้ เราช่วย สำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มีผู้เข้าร่วม 190,000 ราย รวมกว่า 300,000 บัญชี ใช้มาตรการ “4 ไม่” ได้แก่
1. ไม่ฟ้อง: หยุดหรือชะลอการดำเนินคดีฟ้องร้องทางกฎหมายกับลูกหนี้
2. ไม่ขายหนี้: ไม่นำหนี้ของลูกหนี้รายนั้นไปขายต่อให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC)
3. ไม่คิดดอกเบี้ยผิดนัด: ยกเว้นหรือชะลอการคิดดอกเบี้ยผิดนัด (Penalty Interest) เพื่อลดภาระการสะสมหนี้
4. ไม่ตัดสิทธิ์: ไม่ตัดโอกาสในการกลับมาเป็นลูกค้าปกติของธนาคาร (หากลูกหนี้มีความพยายามปรับโครงสร้างหนี้และสร้างวินัยทางการเงิน)
• ตั้ง “Ari-AMC” (บ.บริหารสินทรัพย์อารีย์) เป็น AMC ภายใต้รัฐ ที่ไม่เน้นการขายทรัพย์ แต่เน้นการ “ฟื้นความสามารถทางการเงิน” แตกต่างจาก AMC เอกชนที่เน้นการซื้อหนี้มาบริหารเพื่อเก็บกำไร

3. ยกระดับชุมชน:
สร้างระบบเศรษฐกิจฐานรากแบบยั่งยืน Social Banking ไม่ใช่แค่รายบุคคล แต่ออมสินลงไปขับเคลื่อนทั้ง “ระบบย่อย” ของชุมชน:
โครงการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบองค์รวม (Holistic Area-Based)
• ทำงานร่วมกับท้องถิ่น / ชุมชน / อปท. เพื่อออกแบบการพัฒนาเศรษฐกิจแบบเฉพาะพื้นที่เช่น แก้หนี้-สร้างอาชีพ-พัฒนาออมสินชุมชน ในระดับหมู่บ้านหรืออำเภอ
• พัฒนาองค์กรการเงินชุมชน เช่น สหกรณ์ หรือกลุ่มออมทรัพย์ในท้องถิ่น สนับสนุนระบบบัญชี / เครื่องมือดิจิทัล / แอป “โค้ชออม” เพื่อสร้างวินัยการออม
• โปรแกรมการเงิน-ประกัน ที่ฝังอยู่ในระบบอาชีพ เช่น ประกันรายวันแบบรวมกับเงินออม, สินเชื่อที่ผูกกับสัญญาซื้อขายในตลาดท้องถิ่น ฯลฯ

● ริเริ่มการบริหารจัดการรูปแบบกลุ่มธุรกิจ จัดตั้ง 4 บริษัทย่อยทำธุรกิจ 4 ด้าน ได้แก่
1) บริษัท เงินดีดี จำกัด ขยายผลการเข้าถึงสินเชื่อของรายย่อย/กลุ่มฐานราก
2) บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด ขยายการเข้าถึงสินเชื่อ SMEs
3) บริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด แก้ปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ
4) บริษัท จีเอสบี ไอที แมเนจเมนท์ จำกัด ยกระดับศักยภาพ Digital & AI สนับสนุนภารกิจธนาคารออมสิน

● เปิดโอกาสให้ FinTech & InsurTech เสริมระบบ
ประโยชน์สำคัญคือการที่ออมสินเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาเสริมระบบในรูปแบบ ecosystem:
FinTech
• สร้าง credit scoring ทางเลือก
• เชื่อมระบบ mobile banking – data กลาง – ระบบชำระหนี้
• ทำ Embedded Finance ร่วมกับแอปอื่น เช่น เกษตรกร หรือแรงงานอิสระ
InsurTech
• ออกแบบ microinsurance ที่ยืดหยุ่น เช่น ประกันสุขภาพวันละ 5 บาท
• ฝังประกันในบริการสินเชื่อหรือเงินออม
• วิเคราะห์ความเสี่ยงด้วย AI แม้ไม่มีข้อมูลประวัติเคลมเดิม

ในที่สุด ความสำเร็จของออมสินจึงไม่ใช่แค่เรื่องของยอดสินเชื่อหรือจำนวนบัญชีที่ได้รับการช่วยเหลือ แต่คือบทพิสูจน์ว่าระบบการเงินใหม่ที่เปิดกว้าง โปร่งใส และมีหัวใจทางสังคม สามารถเกิดขึ้นได้จริง ไม่ใช่ด้วยมือของรัฐฝ่ายเดียว และไม่ใช่เพื่อกำไรของเอกชนฝ่ายเดียว
เมื่อรัฐยอมเปิดพื้นที่ และเอกชนยินดีเข้ามาเติมเต็ม “Social Banking” จึงเป็นมากกว่านโยบาย แต่เป็นโครงสร้างที่มีชีวิต และเปิดโอกาสให้ฝันเล็กๆ เติบโตได้ในระบบใหญ่
■ ผู้เขียน: จิรารัฏฐ์ บูรพารัศมิ์ บรรณาธิการบริหาร


















