
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 บริษัท เวิลด์ คลาส อินโนเวชั่น จำกัด (WCI) จัดงาน “WCI The Legal Covenant: พันธสัญญาเพื่อความยั่งยืน” ฉลองครบรอบ 9 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจ พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนองค์กรสู่ทศวรรษใหม่อย่างมั่นคง โดยพร้อมกันนี้ได้มีการลงนามแต่งตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์ และที่ปรึกษากฎหมาย ณ ห้องรัชดาภิเษก ชั้น 2 โรงแรม เดอะ บาซาร์ แบงค็อก กรุงเทพฯ


ภายในงาน นายบัณฑิต เทียนทำนูล ประธานกรรมการบริหาร WCI กล่าวถึงจุดยืนขององค์กรในการสร้างความเชื่อมั่นแก่เครือข่ายนักธุรกิจในองค์กรและผู้ร่วมลงทุน พร้อมเปิดตัวพันธสัญญาทางธุรกิจที่เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญ นางสาวฐิตารีย์ หอมจันทร์ รองประธานกรรมการบริหาร เปิดตัว “สามเกลอเวิลด์แพลนท์” ผลิตภัณฑ์ด้านนวัตกรรมการเกษตร มุ่งยกระดับชีวิตเกษตรกรไทย ด้วยแนวคิด “ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ไม่มีสารพิษเจือปน เพิ่มผลกำไร เกษตรกรรมไทยยั่งยืน”
ในโอกาสนี้ WCI ได้ต่อสัญญากับศิลปินชื่อดัง นางสาวธิติกานต์ ใต้ไธสง ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 พร้อมแต่งตั้ง ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ เป็นที่ปรึกษากฎหมายประจำองค์กร เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักธุรกิจในเครือข่ายทั่วประเทศ

นายบัณฑิต เทียนทำนูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวิลด์ คลาส อินโนเวชั่น จำกัด (WCI) กล่าวว่า ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เราไม่ได้เพียงแค่สร้างยอดขาย แต่เราสร้างเครือข่ายแห่งความเชื่อมั่น ด้วยหลักคิดที่ว่า ‘ธุรกิจที่มั่นคง ต้องเติบโตไปพร้อมกับความดีงาม’ วันนี้ WCI เดินทางมาถึงจุดที่พร้อมจะก้าวกระโดดสู่เป้าหมาย 1,000 ล้านบาท อย่างเป็นรูปธรรม และไม่ใช่เพียงแค่เป้าหมายทางตัวเลข แต่คือการสร้างแรงผลักดันเชิงบวกในสังคมไปด้วยพร้อมกัน
“เราดำเนินธุรกิจอยู่บนแนวทางของความ ‘แตกต่าง – เหนือระดับ’ ซึ่งเราจะยกระดับคุณภาพสินค้า พัฒนาช่องทางการตลาด และสร้างเครื่องมือให้กับนักธุรกิจเครือข่ายของเราในทุกภูมิภาคอย่างจริงจัง ทั้ง 4 ภาคของประเทศไทยจะมีทีมงานประจำ พร้อมผลักดันกิจกรรม และสร้างการเข้าถึงชุมชนด้วยมิตรภาพและความจริงใจ
อีกหนึ่งความภาคภูมิใจคือการผนวก พันธกิจเพื่อสังคม ไว้ในทุกผลิตภัณฑ์ สินค้าทุกชิ้นของเราจะตัดเข้ากองบุญชิ้นละ 1 บาท เพราะเราเชื่อว่า ‘รายได้’ ที่ยั่งยืน คือรายได้ที่เกิดจากการให้และการสร้างร่วมกัน
ผมเชื่อมั่นว่า หากเรายังยืนอยู่บนหลักคุณธรรม ไม่หยุดคิด ไม่หยุดพัฒนา และไม่ทิ้งกัน WCI จะไม่ใช่เพียงบริษัทขายตรงอีกหนึ่งบริษัท แต่จะเป็น เครือข่ายสีขาว ที่เป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจฐานรากของไทยได้อย่างแท้จริง
การลงนาม MOU กับพันธมิตรในวันนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราเดินหน้าอย่างมีทิศทาง มีระบบ และพร้อมเปิดรับโอกาสใหม่ทั้งในระดับประเทศและระดับอาเซียน”
“เครือข่ายสีขาวไม่ใช่เรื่องในอุดมคติ แต่เป็นโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนได้จริง ถ้าทุกคนเข้าใจระบบ และทำงานด้วยความซื่อสัตย์”
ปัจจุบัน WCI มีฐานสมาชิกหลักกระจายอยู่ใน 4 ภูมิภาคของไทย พร้อมแม่ทีมในหลายประเทศอาเซียน อาทิ กัมพูชา ลาว พม่า มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ โดยเน้นสร้างเครือข่ายธุรกิจที่ยั่งยืน ควบคู่กับการส่งเสริมสาธารณประโยชน์ผ่าน “กองบุญ 1 บาทต่อชิ้น” นับเป็นโมเดลใหม่ของการทำธุรกิจขายตรงที่ผสานรายได้กับการให้ได้อย่างลงตัว
เป้าหมาย “พันล้านบาท” ในปี 2569 และความเป็นไปได้
นายบัณฑิต เปิดเผยว่า เรามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่ายอด 1,000 ล้านบาทไม่ใช่แค่เป้าหมายในฝัน แต่เป็นเป้าหมายที่กำลังกลายเป็นจริง ด้วยยอดรายได้ปีที่ผ่านมาเกือบ 500 ล้านบาท เรากำลังเติบโตอย่างมั่นคงผ่านกลยุทธ์ 3 แกนหลัก ได้แก่ การขยายฐานสมาชิกครบทั้ง 4 ภูมิภาค การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สุขภาพ ความงาม และไลฟ์สไตล์ และการสร้างระบบพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่แข็งแรง
แรงขับเคลื่อน – กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
“WCI วางแผนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3 ปีข้างหน้า ขณะนี้เราอยู่ในช่วงเตรียมความพร้อมทั้งในด้านโครงสร้างองค์กร การบริหารทางการเงิน การควบคุมต้นทุน และการสร้างระบบตรวจสอบภายในที่ได้มาตรฐาน สิ่งที่เราเน้นเป็นพิเศษคือความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ด้วยโมเดลธุรกิจที่มีทั้งรายได้ต่อเนื่องและพลังผลักดันเชิงสร้างสรรค์ต่อสังคม”
จุดแข็งและความแตกต่าง
“เรามีแนวคิดที่แตกต่าง เพราะทุกผลิตภัณฑ์ของ WCI ที่ขายออกไปจะ ‘ตัดเข้ากองบุญชิ้นละ 1 บาท’ ซึ่งแปลว่า เมื่อเราขายได้มากเท่าไหร่ สังคมก็จะได้รับประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น นโยบายนี้ไม่ใช่แค่ CSR แต่คือ DNA ขององค์กร เราต้องการเติบโตไปพร้อมกับการคืนกำไรให้สังคมอย่างยั่งยืน นี่คือสิ่งที่เราภูมิใจและเป็นจุดแข็งที่ไม่มีใครเหมือน”

การลงนาม MoU กับพันธมิตธ คือส่วนหนึ่งของแผนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
“ใช่ครับ การร่วมมือกับพันธมิตรทั้งด้านโลจิสติกส์ ดิจิทัล แพลตฟอร์ม การเงิน และเทคโนโลยี ทำให้เราสามารถต่อยอดโมเดลธุรกิจสู่ระดับใหม่ เพื่อรองรับการขยายตลาดทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เราไม่เพียงแต่เตรียมความพร้อมของระบบภายในองค์กรเท่านั้น แต่ยังได้วางโครงสร้างเครือข่ายพันธมิตรภายนอกไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อรองรับโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจในอนาคต”
“นอกเหนือสิ่งอื่นใด ทุกความสำเร็จเกิดจากสมาชิกของเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสมาชิก 4 ภาคทั่วไทย หรือแม่ทีมในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะ WCI ไม่ใช่แค่ธุรกิจของผม แต่เป็นธุรกิจของพวกเราทุกคนที่ต้องการเห็นรายได้ที่ดี มีอาชีพมั่นคง และได้ทำสิ่งดี ๆ เพื่อสังคมไปพร้อมกัน ผมขอขอบคุณทุกท่านและเชื่อมั่นว่า ‘พันล้าน’ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ” นายบัณฑิต เทียนทำนูล กล่าวในตอนท้าย

นางสาวฐิตารีย์ หอมจันทร์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท WCI เปิดเผยว่า บริษัทฯ แบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร เช่น ปุ๋ยตราหญิงเกษตร ไคโตซาน กรดอะมิโน ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ผลิตภัณฑ์ความงาม และของใช้ในครัวเรือน สำหรับความสำเร็จของ WCI นั้นเกิดจากการเข้าใจปัญหาเกษตรกรอย่างแท้จริง สามารถสร้างระบบที่เกื้อหนุนทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยเฉพาะ “ปุ๋ยตราหญิงเกษตร” นับได้ว่าเป็นสินค้าเรือธงที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ และมีความพร้อมในด้านการผลิต เนื่องจากเรามีโรงงานผลิตเป็นของเราเอง ตั้งอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ที่สำคัญคือโรงงานของเรามีใบอนุญาตถูกต้อง เราไม่รับผลิตให้สินค้าแบรนด์อื่น เนื่องจากต้องการโฟกัสคุณภาพและคงเอกลักษณ์ให้กับปุ๋ยตราหญิงเกษตรรวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของบริษัทฯ ให้ได้อย่างเต็มที่ เราไม่ได้ต้องการเพียงจะผลิตแค่สินค้า แต่ต้องการมุ่งเน้นสร้างคุณค่าที่จับต้องได้ เนื่องจากเล็งเห็นแล้วว่าไม่ว่าเศรษฐกิจจะผันผวนแค่ไหน เกษตรยังคงเป็นคำตอบ เพราะอาหารคือความมั่นคงของชีวิต
“รายได้ไร้ขีดจำกัดเริ่มต้นจากการเปิดใจ และพัฒนาทักษะ เราจึงสร้างระบบสนับสนุนครบทุกมิติ”
ขยายฐานสู่ภาคใต้ และ แอฟริกา – กลับสู่อาเซียน – ลงทุนใหญ่ในตะวันออก
WCI เตรียมกลับเข้าสู่ตลาดเพื่อนบ้านอีกครั้ง หลังชะลอตัวจากสถานการณ์ชายแดนและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกัมพูชา ลาว และเมียนมา พร้อมทั้งจับตามองการขยายเครือข่ายไปยังไนจีเรียและแอฟริกาตะวันตก
“เราไม่ได้คิดแค่ส่งออกสินค้า แต่จะสร้างระบบเกษตรแบบครบวงจร พร้อมแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า โดยเฉพาะในตลาดตะวันออกกลาง” นางสาวฐิตารีย์ กล่าว
WCI ใช้งบลงทุนกว่า 30 ล้านบาท สร้างฐานปฏิบัติการในภาคตะวันออก โดยเน้น “ทุเรียน” เป็นพืชยุทธศาสตร์ พร้อมวางแผนขยายไปยังภาคใต้ในลำดับถัดไป โดยใช้กลยุทธ์วิธีอบรม “ออนไลน์ควบออฟไลน์” เพื่อให้สมาชิกพร้อมรับมือทุกความเปลี่ยนแปลง


WCI: องค์กรที่สร้างรายได้ควบคู่คุณธรรม
สิ่งที่ทำให้ WCI แตกต่างจากธุรกิจเครือข่ายทั่วไป คือการเน้น “รายได้อย่างเป็นธรรม” ไม่มีการบังคับยอด ไม่เน้นการบริโภคเกินจริง แต่สร้างรายได้จริงจากความต้องการแท้จริงของผู้บริโภค
หากกำลังมองหาโอกาสในการสร้างรายได้ที่ปลอดภัย โปร่งใส และยั่งยืน “WCI คือคำตอบ” นางสาวฐิตารีย์ กล่าวทิ้งท้าย


















