เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 คณะทำงานจิตอาสาช่วยปราบปรามขบวนการทุจริตสอบ นำโดย นางสาวเปมีปินัทธ์ วนิชบูริพันธ์ เลขานุการประธานมูลนิธิในโครงการตามพระราชดำริสวนป่าสมุนไพร และ นายภูมิรวิชญ์ ชัยภูริหิรัณยกุล ประธานสภาสมาพันธ์ปกป้องวิชาชีพแพทย์แผนไทย ได้เดินทางมายัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมแถลงข่าว ขบวนการซื้อขายข้อสอบ ภาคปฏิบัติ การสอบรับใบอนุญาต การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ของผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมจากสถาบัน หรือ สถานพยาบาลที่สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง ตามมาตรา ๑๒ (๒) (ก) แห่ง พระราชบัญญัติ วิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ.๒๕๕๖ ภาคปฏิบัติ ครั้งที่ ๑ ประจำปี ๒๕๖๓ วันที่ ๕-๖ ธันวาคม ๒๕๖๓ ณ สนามสอบ มหาวิทยาลัยรังสิต หลังจากมีผู้ร้องเรียนมายัง นางสาวเปมีปินัทธ์ วนิชบูริพันธ์ เป็นจำนวนมาก
“จากเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนดังกล่าว ทำให้ ในวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๓ ตนได้มาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อช่วยสืบหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เนื่องจาก ตนเห็นว่า การกระทำดังกล่าวน่าจะมีการทำเป็นขบวนการ และตนเอง ก็ต้องการหยุด และปราบปรามขบวนการอโคจร ที่แฝงตัวเข้ามาในวงการแพทย์แผนไทย ซึ่งการกระทำดังกล่าว จะส่งผลเสียต่อสุขภาพคนไข้ในอนาคต”
ในเนื้อหาของถ้อยแถลงดังกล่าวระบุว่า “ดิฉันและทีมงานพยาน รู้สึกผิดหวังอย่างมากที่มีบุคคลและกลุ่มบุคคล ทำการทุจริตในการสอบครั้งนี้แต่ดิฉันและทีมงานพยานยินดีอย่างยิ่งที่จะช่วยปราบปรามขบวนการ วงการขายข้อสอบ และขอกล่าวขอโทษแทนเพื่อนร่วมวิชาชีพที่กระทำผิดในครั้งนี้ เพราะดิฉันทราบดีว่า เหตุการณ์นี้ได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในวิชาชีพแพทย์การแผนไทยอย่างมาก”
“อย่างไรก็ตามทางผู้ประกอบวิชาชีพน้ำดี จิตใจดี มีเมตตา และเสียสละเวลาของตนเองเพื่อสืบหาข้อมูลและทำจิตอาสาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอาสาเป็นพยานมีจำนวนประมาณ ๓๐ คน เพื่อแสดงออกว่า ในผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยมีจำนวนมาก มิได้นิ่งดูดาย กับเหตุการณ์การกระทำผิดกฎหมาย ไร้คุณธรรม จริยธรรม และเป็นเรื่องเสื่อมเสียต่อวงการแพทย์แผนไทยอย่างมาก จึงได้เกิดกลุ่มเฉพาะกิจนี้ที่อาสาทำงานให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ในการปราบปรามการทุจริตสอบ พร้อมให้ความร่วมมือในทุกๆด้าน”
“ทั้งนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ในการทำงานด้านการแพทย์ของวิชาชีพแพทย์แผนไทย มีแผนพัฒนาตนเองในหลายๆหน่วยงานเพื่อรับใช้ประชาชน ในการช่วยรักษาบรรเทาอาการ ในหลากหลายโรคและหลากหลายอาการในการเจ็บไข้ได้ป่วยของร่างกาย ซึ่งเหตุการณ์การทุจริตสอบในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้น และภาวนาว่าขออย่าให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ทางดิฉันและทีมงาน จึงขอเป็นจิตอาสา สอดส่อง เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง และขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า แพทย์แผนไทยมีความพร้อมในด้านการดูแลรักษาประชาชนคนไทยตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยอย่างมุ่งมั่นและสุดความสามารถเพื่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่ดีได้อย่างแน่นอน
จากข้อมูลที่ทาง คณะทำงานจิตอาสาช่วยปราบปรามขบวนการทุจริตสอบ ร่วมกันแถลงครั้งนี้ ยังระบุว่า การทุจริตสอบ การซื้อขายข้อสอบ ภาคปฏิบัติ การสอบรับใบอนุญาต การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 4 สาขาวิชา ได้แก่ ผดุงครรภ์ไทย เภสัชกรรมไทย นวดไทย เวชกรรมไทย โดยมีการซื้อขายตั้งแต่ ราคา 5,000 บาท จนถึง ราคา 600,000 บาท ซึ่งผู้กระทำความผิด คือ ผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดสอบ และทำงานในสภาการแพทย์แผนไทย