
ภาคเอกชนจับมือโรงงานผลิตปุ๋ยรายใหญ่ เปิดตัวโครงการ “ปุ๋ยพร้อมใช้ แบ่งจ่ายสองรอบ” เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทย ภายใต้แนวคิด “ฟื้นฟูดิน ลดต้นทุน เพิ่มกำไร” โดยนำเสนอรูปแบบการจัดจำหน่ายที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรชำระค่าสินค้าเพียง 50% ก่อนใช้งาน และอีก 50% หลังการเก็บเกี่ยว พร้อมส่งเสริมการใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพ ด้วยต้นทุนเพียงไร่ละ 390 บาท โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด

นายปวัตร วงษ์ชูแก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮลท์ อินโนเวชั่น โปรดักส์ จำกัด เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวตั้งเป้าสร้างโอกาสให้เกษตรกรเข้าถึงปุ๋ยคุณภาพสูงด้วยราคาที่เป็นธรรม พร้อมผ่อนชำระหลังเก็บเกี่ยว เพื่อไม่เป็นภาระด้านสภาพคล่อง นอกจากนี้ โครงการยังเน้นการให้ความรู้และคำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญตลอดระยะเวลาการใช้ผลิตภัณฑ์”เราออกแบบโครงการนี้เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ใน 5 ด้านหลัก ได้แก่ การเข้าถึงสินค้าคุณภาพในราคาที่เหมาะสม การลดต้นทุนการผลิต การแบ่งจ่ายค่าสินค้า การปรับปรุงคุณภาพดิน และการมีผู้เชี่ยวชาญเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา” นายปวัตร กล่าว


ในโครงการมีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 5 สูตร ครอบคลุมการใช้ในทุกช่วงของการเพาะปลูก ทั้งการปรับปรุงดิน การบำรุงต้นกล้า การเร่งดอก และการเพิ่มผลผลิตก่อนเก็บเกี่ยว โดยชุดผลิตภัณฑ์ 1 ชุด ใช้ได้กับพื้นที่ 10 ไร่ ราคาชุดละ 3,900 บาท หรือไร่ละ 390 บาทเท่านั้น พร้อมบริการจัดส่งแบบเก็บเงินปลายทาง

นายกฤษชนก ตัณฑเศรณีวัฒน์ ประธานกลุ่มโรงงานผลิตปุ๋ยเครือภาคภูมิ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้ออกแบบสูตรปุ๋ยในโครงการนี้ เปิดเผยว่า โรงงานมีความพร้อมรองรับการผลิตทั้งปุ๋ยเม็ดและปุ๋ยน้ำ ด้วยกำลังการผลิตสูงถึง 5,000 ตันต่อวัน และมั่นใจว่าสินค้าจะมีคุณภาพสูงตรงตามความต้องการของเกษตรกร

ด้าน นายชวริจณ์ ประสิทธิ์ภูพัน ที่ปรึกษาโครงการฯ ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการเกษตรมากกว่า 10 ปี กล่าวเสริมว่า ปัญหาหลักในการเกษตรปัจจุบันประกอบด้วย 5 ด้าน ได้แก่ การขาดความรู้ของเกษตรกร ดินเสื่อมโทรม พืชไม่ได้รับสารอาหารที่เหมาะสม ปุ๋ยคุณภาพต่ำ และปัญหาด้านการตลาด การร่วมมือของภาคเอกชนและผู้ผลิตในครั้งนี้จึงถือเป็นต้นแบบการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเป็นระบบ โครงการฯ ตั้งเป้าขยายพื้นที่ให้บริการเริ่มต้นเดือนละ 10,000-20,000 ไร่ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 100,000-200,000 ไร่ต่อเดือนในปีถัดไป โดยมั่นใจว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์ควบคู่กับการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยสร้างผลผลิตที่ยั่งยืนและลดต้นทุนได้อย่างแท้จริง