Wednesday, 24 April 2024 | 6 : 20 am

4Quarter.co

Wednesday, 24 April 2024 | 6 : 20 am
SPALI ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 1.45 บาท   •   วิริยะประกันภัย ผนึกกำลังหน่วยงานภาครัฐ แก้ไขจุดเสี่ยงเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน โซนภาคอีสาน   •   ซีพีแรม ทุกแห่งทั่วประเทศ ขานรับนโยบายเครือเจริญโภคภัณฑ์ ชู CPRAM Green Life #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน เป็นปีที่ 11 หวังเพิ่มพื้นที่สีเขียวบนผืนแผ่นดินไทย   •   อลิอันซ์ อยุธยา เฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 73 เคียงข้างคนไทย   •   เคทีซี จับมือ คาเธ่ย์ ปลูกต้นไม้ในป่าชายเลน 4,000 ต้น ต่อยอดโครงการ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น”   •   บัตรเครดิต ttb ชวนมาอิ่มคุ้ม กิน 1,000.- ลด 100.- ในแคมเปญ Tasty Asian กับ 9 ร้านดังสไตล์เอเชียน   •   “centralwOrld Summer 2024 Trunk Show The List” ปรากฏการณ์แฟชั่นโชว์รูปแบบใหม่ เปลี่ยนศูนย์การค้าเป็นรันเวย์ อัพเดทเทรนด์แฟชั่นปรับลุครับซัมเมอร์   •   กรุงศรี คอนซูมเมอร์ คว้า 6 รางวัลใหญ่ จากงาน Retail Banker International Asia Trailblazer Awards 2024   •   กรุงเทพประกันชีวิต ใส่ใจพัฒนาสิทธิประโยชน์ใหม่ 5 ด้าน ยกระดับความสุขทั้งไลฟ์สไตล์ และ สุขภาพผ่านบีแอลเอ แฮปปี้ไลฟ์ คลับ   •   BAM จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567   •   ผถห.TQR โหวตจ่ายปันผลปี 66 อีก 0.226 บ./หุ้น รวมทั้งปี 0.40 บ./หุ้น ลุยพัฒนาโปรดักส์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่เต็มสปีด เดินหน้าเจรจาดีล M&A หนุนผลงานนิวไฮต่อเนื่อง   •   บอร์ดการเคหะแห่งชาติลงพื้นที่เคหะชุมชนดินแดง 2 กำชับให้การเคหะแห่งชาติเร่งแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยโดยบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่   •   FWD ประกันชีวิต จัดฟรีคอนเสิร์ตใหญ่เล่นน้ำกลางเมือง “FWD Music Live Fest 3 #TimeToPlaySongkran” ฉลองวันไหลสงกรานต์ครั้งแรกในกรุงเทพฯ ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์   •   เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ประกาศปรับผังองค์กรครั้งใหญ่ มุ่งสู่กลุ่มธุรกิจประกันภัยและบริหารสินทรัพย์แบบครบวงจร   •   เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ รุ่นปี 2567 เพิ่มความเข้มข้นในทุกมิติ มุ่งสร้างการเรียนรู้การทำธุรกิจเสมือนจริง   •   เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับ ไอคอนสยาม จัดกิจกรรม “เมืองไทย Smile Exclusive Dining on Pruek Cruise” สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ   •   กรุงเทพประกันภัย จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ครั้งที่ 31   •   “เงินติดล้อ” สมาชิกสมาคมสินเชื่อทะเบียนรถฯ ร่วมส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับ อาสาสมัครเทคโนโลยีกรุงเทพมหานคร (อสท.)   •   เคทีซี รวมน้ำใจสมาชิกบัตรเครดิต สมทบทุนเข้า มูลนิธิศุภนิมิตฯ กว่า 29 ล้านบาท   •   BAM ร่วมกับสภากาชาดไทย จัดทำโครงการ HOME & HOPE ต่อเนื่องปีที่ 4 มอบเงินสร้างบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาส จังหวัดนครศรีธรรมราช   •   ธนาคารกสิกรไทย แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 กำไร 13,486 ล้านบาท   •   กรรมการ กคช. ลงพื้นที่ชุมชนดินแดง ย้ำ! ตรวจสอบอาคาร D1 ให้ละเอียด เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องดินแดง   •   ธ.ก.ส. จัดประชุมขับเคลื่อนภารกิจสู่ความสำเร็จ Bank Agenda ประจำปี 2567   •   ป้องกันโรคร้ายที่มากับฤดูร้อน มิติใหม่ของการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน สู่คุณภาพชีวิตที่ดีโดย APCO   •   ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประกาศกำไรสุทธิ ไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 626.1 ล้านบาท   •   กรุงศรี เผยผลกำไรสุทธิไตรมาสแรกปี 2567 จำนวน 7.54 พันล้านบาท สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจจริงอย่างต่อเนื่อง พร้อมบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวดระมัดระวัง   •   เคทีซี เผยงบรวมไตรมาส 1/2567 กำไร 1,803 ล้านบาท เดินหน้าโฟกัสคุณภาพสินทรัพย์ในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม   •   คปภ. เร่งให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัย กรณีรถยนต์กระบะเฉี่ยวชนเสาไฟฟ้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ที่จังหวัดนครพนม   •   วิริยะประกันภัย ร่วมรณรงค์ “ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน” ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 จังหวัดนครราชสีมา   •   ออมสิน เปิดให้กู้โครงการ “สินเชื่อออมสินรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม” ตั้งเป้าแก้หนี้ครัวเรือนตามนโยบายรัฐ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่มสินเชื่อ ช่วยลูกหนี้บัตรเครดิต ลูกหนี้ P-Loan ลูกหนี้นาโนไฟแนนซ์ ลูกหนี้สินเชื่อบ้าน

กทปส. ผลักดันศักยภาพด้านเทคโนโลยีการแพทย์ผ่านระบบห้องแยกโรคชนิดความดันลบ และระบบโทรเวชกรรม รพ. สมเด็จฯ

กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. ตรวจความคืบหน้า โครงการสนับสนุนเทคโนโลยีทางการแพทย์สู้ภัยโควิด-19 โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา โดยโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณกว่า 16 ล้านบาท ในการสร้างห้องความดันลบและระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine)และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าในช่วงที่ผ่านมา

นายแพทย์สมยศ โล่ห์จินดาพงศ์ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา กล่าวว่า โครงการจัดหาวัสดุ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ห้องแยกโรคชนิดความดันลบ และระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine) เพื่อเตรียมความพร้อม รับการระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ซึ่งได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมและสนับสนุนเงินจาก กทปส. เพื่อเตรียมความพร้อมสถานการณ์ “ไวรัสโคโรน่า” สายพันธุ์ใหม่ 2019 ร่วมกับ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ตั้งแต่ปี 2563 โครงการได้รับทุนสนับสนุนโครงการฯ จำนวน 16,556,000 บาท เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้ได้ดำเนินการ ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ

ทั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่
1.เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนากิจการโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับงานสาธารณสุข โดยมุ่งเน้นให้เกิดการเว้นระยะห่างทางกายภาพ หรือ Physical Distancing เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์ “ไวรัสโคโรน่า” สานพันธุ์ 2019 (COVID-19)
2.เพื่อจัดเตรียมระบบเทคโนโลยีสารสนเทศโดยใช้ระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine) ในกระบวนการคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 นอกสถานที่
3.เพื่อให้โรงพยาบาลมีห้องแยกโรคชนิดความดันลบ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคทางอากาศเพียงพอสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
รวมไปถึงการจัดเตรียมครุภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ ได้แก่ เครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมด้วยปริมาตรและความดันขนาดเล็ก กล้องอินฟาเรดสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย เครื่องเฝ้าระวังและติดตามสัญญาณชีพผู้ป่วย ห้องแยกโรคชนิดความดันลบ จำนวน 4 ห้อง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคทางอากาศ

นายแพทย์สมยศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้โครงการฯ ยังได้พัฒนาระบบ IoT ในห้องความดันลบ และพัฒนาระบบ Teleconference เพื่อใช้การดูแลรักษาผู้ป่วย พัฒนา API (Application Programming Interface) สำหรับการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศโรงพยาบาล (HIS ใหม่) และเครื่องมือวัดสัญญาณชีพผู้ป่วย รวมทั้งจัดเตรียมเวชภัณฑ์และวัสดุทางการแพทย์ในกระบวนการคัดกรองวินิจฉัยให้รวดเร็วเพียงพอ โดยมีเป้าหมายคัดกรองผู้สงสัยติดเชื้อ จำนวน 4,800 ในส่วนของการพัฒนาห้องความดันลบด้วยระบบ IoT จะมีการติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่าง ๆภายในห้องความดันลบ เพื่อช่วยให้ติดตามและเฝ้าระวังผู้ป่วยได้โดยที่ไม่ต้องเข้าไปภายในห้อง อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่อสัญญาณชีพ เพื่อส่งข้อมูลที่จำเป็นเข้าสู่เคาเตอร์พยาบาล และในส่วนของการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลส่วนกลางที่จะมีระบบคัดกรองด้วยปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยวิเคราะห์สัญญาณชีพต่าง ๆ จากระบบ IoT และส่วนโครงการ API จะเป็นการพัฒนาเชื่อมต่อกับระบบสารสนเทศของโรงพยาบาลทั้งในส่วนของระเบียนเวชและผลการตรวจวิเคราะห์ต่าง ๆ จากห้องปฏิบัติการ รวมทั้งผลการวิเคราะห์ต่าง ๆที่เคยได้ทำการรักษากับคนไข้รายนั้น ๆ

ทั้งนี้ภายในห้องคนไข้ บนหัวเตียงจะมีเซ็นเซอร์ที่วัดสภาพแวดล้อมของห้อง ทั้งในส่วนของอุณหภูมิ ความชื้น และสภาพอากาศภายในห้อง ทั้งระบบการหมุนเวียนของอากาศ แรงดัน และค่าก๊าซคาบอนไดออกไซต์ และอีกตัวคือการวัดสัญญาณชีพเพื่อส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบสารสนเทศของโรงพยาบาล เพื่อเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์แบบอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้แพทย์และพยาบาลผู้ดูแลสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้ผ่านโมบายแอปพลิคเชั่น และสั่งยาให้กับผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที

นายแพทย์สมยศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันระบบ IoT ของโรงพยาบาล ได้มีการพัฒนาต่อยอดหลังจากที่ได้รับเงินทุนสนับสนุน โดยได้ทำการเชื่อมต่อเข้าระบบเครื่องชั่งน้ำหนัก อุณภูมิ และส่วนสูงเข้ากับระบบสารสนเทศส่วนกลางแบบอัตโนมัติ นอกจากนั้นยังได้รับอนุมัติโครงการพัฒนาโมบายแอปพลิเคชั่น ในเรื่องของการลงทะเบียนเพื่อเข้ารับการรักษาแบบออนไลน์ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริการ ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา โดยในอนาคตจะมีการเชื่อมต่อระบบตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG (Electrocardiogram) เข้ามาในระบบส่วนกลาง พร้อมทั้งการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ด้านจักษุแพทย์ และระบบทุกส่วนของคลีนิกต่อไป เพื่อช่วยให้มีข้อมูลมากเพียงพอในการวิเคราะห์ ซึ่งระบบทั้งหมดจะเข้ามาอยู่ในฐานข้อมูลของโรงพยาบาลที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐาน (เครดิต : ขอบคุณ thereporter.asia)