Thursday, 30 March 2023 | 11 : 03 am

4Quarter.co

Thursday, 30 March 2023 | 11 : 03 am
ธ.ก.ส. ขอบคุณลูกค้าสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดเกษตรมั่นคง 4 หลังยอดทะลุ 100,000 ล้านบาท   •   ด่วน! การเคหะแห่งชาติ เปิดจองสิทธิ์เช่า “โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย” จังหวัดสมุทรปราการ (บางพลี) ทำเลดี เดินทางสะดวก พร้อมเข้าอยู่กลางปี 2566 เคาะราคาเริ่มต้น 2,000 บาท ตั้งแต่วันนี้   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย แจ้งผลการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ประจำปี 2566-2568   •   สมาคมประกันชีวิตไทย เตือนภัย SMS อ้างเป็นบริษัทประกันชีวิตให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมแนะนำตรวจสอบก่อนหลงเชื่อ   •   ทีเอ็มบีธนชาต จับมือ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ชูโอกาสใหม่ให้เอสเอ็มอีไทย พร้อมเติบโตในตลาดโลก   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย มอบโล่เกียรติยศผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสมาคมประกันวินาศภัยไทยและธุรกิจประกันวินาศภัย   •   เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ มอบฟรีประกันภัยอุบัติเหตุ 100,000 บาท รับเทศกาลสงกรานต์   •   SCB DataX เปิดเวทีสัมมนา “DataXperts: Visualizing the Present and Future of Data and AI in Fintech” ขนทัพกูรูด้านฟินเทค ให้ความรู้ด้าน Data และ AI   •   เมืองไทยประกันชีวิต รับรางวัล “TOP INFLUENTIAL BRANDS 2022” แบรนด์ที่ทรงอิทธิพลต่อผู้บริโภคมากที่สุด ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2   •   รฟท. ขสมก. และ กรุงไทย ผนึกกำลัง ผลักดัน “บัตรเหมาจ่าย” ชำระค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีแดง และรถโดยสาร ขสมก. ยกระดับคุณภาพบริการเดินทางระบบราง ระบบล้อแบบไร้รอยต่อ   •   KBank – OR ปล่อยนวัตกรรม Fill & Go+ ระบบชำระเงินค่าเติมน้ำมันอัจฉริยะไร้สัมผัสครั้งแรกหนุนเจ้าของธุรกิจด้านความสะดวก รวดเร็ว มั่นใจที่ พีทีที สเตชั่นทั่วประเทศกว่า 2,000 แห่ง   •   บัญชี ttb all free ออกแคมเปญแรง รับเทศกาลหยุดยาว “เที่ยวไหนก็ใช้ฟรี ช่วยลูกค้าลดค่าใช้จ่ายทั้งทริป”   •   ออมสิน ฉลองก้าวสู่ปีที่ 111 จัดเต็มเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 11 เดือน ดอกเบี้ยสูงเทียบเท่าฝากประจำ 1.6% ต่อปี เปิดรับฝาก 1-11 เม.ย. นี้ ฉลอง 2 ต่อ เพิ่มเงินรางวัลที่ 1 สลากออมสิน 2 ปีงวดใหม่ เป็น 30 ล้านบาท   •   สมัครบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ รับสิทธิพิเศษสุดคุ้ม ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์   •   “ศุภาลัย ปาล์มสปริงส์ บึงแก่นนคร” ชวนสัมผัสประสบการณ์จริง ชมเต็มตาส่วนกลางหรูเหนือระดับพร้อมบ้านตัวอย่างครบทุกแบบ!   •   พานาโซนิค ประกาศเดินหน้าผนึกกำลังกลุ่มบริษัทขายในไทย ดึงพานาโซนิค เอ.พี. เซลส์ เข้าร่วมทัพ ตามแนวคิด One Panasonic   •   เงินติดล้อ จับมือ ทูลมอโร จัดอบรมความรู้พื้นฐานการเงิน ให้กับกลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยวและครอบครัว อย่างต่อเนื่อง   •   ไทยพาณิชย์ เปิดตัวบัญชีหุ้นกู้ EASY-D บริการรับฝากหุ้นกู้แบบไร้ใบ ครั้งแรกบน SCB EASY App ปั้นศูนย์รวมลงทุนไว้ในที่เดียว ยกระดับประสบการณ์ไร้รอยต่อให้นักลงทุนรายย่อย   •   BAM ชูศักยภาพการเป็นแก้มลิงให้กับสถาบันการเงิน ดัน 4 โครงการช่วยเหลือลูกหนี้กลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจ   •   ทิพยประกันภัย จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 2566   •   เอสซีจี เซรามิกส์ รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้สนับสนุนการพัฒนาฝีมือแรงงานไทยสู่มาตรฐานสากลจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน   •   วิริยะประกันภัย ร่วมกับ สนง.ขนส่งจังหวัดนครราชสีมา จัดอบรมเสริมความรู้ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนภูมิภาค รุ่นที่ 158   •   รู้ใจ ประกันออนไลน์ ระดมทุน Series B มูลค่า 42 ล้านดอลลาร์ เร่งการเติบโตและขยายธุรกิจ   •   การเคหะแห่งชาติร่วมแสดงความยินดีครบรอบ 59 ปี หนังสือพิมพ์เดลินิวส์   •   SCB CIO แนะลูกค้าเวลธ์เปิดบัญชีเงินฝาก FCD พักเงินหาจังหวะลงทุนต่างประเทศ เสนอ 7 ผลิตภัณฑ์เด่น ลงทุนสกุลดอลลาร์สหรัฐเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี   •   ธนาคารกสิกรไทย คว้ารางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำประเทศไทย “Best Employer Brand” จากแพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง LinkedIn   •   ธ.เกียรตินาคินภัทร ลงนามสัญญาสนับสนุนทางการเงินเพื่อพัฒนาโครงการ Kunalai NAVARA Rangsit-Klong 2   •   HappyMPM ทุ่ม 150 ลบ. เปิดตัวศูนย์กลางธุรกิจฯ แลนด์มาร์คแห่งใหม่กลางจุดยุทธศาสตร์ จ.ร้อยเอ็ด   •   กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต ผู้สนับสนุนหลัก งาน “วิ่งด้วยกัน – Run2gether” ครั้งที่ 6 RUN2GETHER TEAM ทุกคนในสังคมคือทีมเดียวกัน   •   ทีเอ็มบีธนชาต เดินหน้าเปลี่ยนสังคมสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สถาบันการเงินหนึ่งเดียวในไทย ที่ได้รับรางวัล Best Issuer for Sustainable Finance Thailand

สบโขง กลยุทธ์หยุดหมอกควัน ปลอดการเผา บนพื้นที่สูง ต.สบโขง อ.ออมก๋อย จ.เชียงใหม่ ด้วยหลักการโครงการหลวง

ภาพรวมจุดความร้อนในพื้นที่ดำเนินการโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง 8 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน, ตาก, น่าน, เพชรบูรณ์, กำแพงเพชร, กาญจนบุรี, รวมจำนวนพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงฯทั้งหมด 44 โครงการ พบจุดความร้อนปี 2565 ช่วงเดือนม.ค. – พ.ค. ใน 8 จังหวัด พบเพียง 951 จุด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่พบ 2,187 จุด ซึ่งตามสถิติถือว่าลดลงอย่างต่อเนื่อง  

รวมทั้งจากผลการดำเนินงานการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงสบโขง ต.สบโขง อ.ออมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อเกษตรกรและพื้นที่อย่างชัดเจน ที่สามารถเป็นตัวอย่างในการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ด้วยหลักการโครงการหลวง นับตั้งแต่ปี 2547 ทำให้เกษตรกรในโครงการฯจำนวน 113 ครัวเรือนใช้พื้นที่ทำการเกษตรแบบไร่หมุนเวียนลดลง 1,574.99 ไร่ ไม่พบจุดความร้อน (hotspot) ติดต่อกัน 

ทั้งนี้จะเห็นว่าในพื้นที่เกษตร อ.ออมก๋อย พบจุดความร้อน 819 จุด และบ้านบูแหมะ ในพื้นที่โครงการฯสบโขง ไม่มีจุดความร้อนตั้งแต่ 15 ม.ค.-30 มิ.ย. 2564 ในพื้นที่บ้านบูแหมะทั้งหมด 2,800 ไร่ และยังได้รับรางวัลหมู่บ้านปลอดการเผา (Haze Free Reward) ในปี 2564 จากบริษัทเชียงใหม่วิสาหกิจเพื่อสังคม โดยได้รับทุนสนับสนุนจำนวน 50,000 บาท อีกด้วย  ส่งผลให้พื้นที่ในโครงการฯมีการพัฒนาที่ยั่งยืน เข้มแข็ง ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม    

นายเดชธพล กล่อมจอหอ  หัวหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง กลุ่ม 4 สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. กล่าวว่า ผลการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงสบโขง เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อเกษตรกรและพื้นที่ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม ที่พื้นที่ตำบลสบโขง เป็นชุมชนต้นแบบ เกษตรกรสามารถลดพื้นที่ทำการเกษตรแบบไร่หมุนเวียนที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจาก 5,574.65 ไร่ เหลือเพียง 3,999.66 ไร่ (ลดลงร้อยละ 28.25) มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นจำนวน 428.45 ไร่, ด้านเศรษฐกิจ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 113 ครัวเรือน มีรายได้จากอาชีพทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จาก 101,005 บาท/ปี/ครัวเรือน (จปฐ.2560) เพิ่มขึ้นเป็น 154,486.36 บาท/ปี/ครัวเรือน (จปฐ. 2564) ภาพรวมกว่า 61,334.132 บาท, การผลิตภายใต้มาตรฐานอาหารปลอดภัย โดยมีเกษตกรได้รับรองจากกรมวิชาการเกษตร จำนวน 55 ราย 44.75 ไร่ 7 ชนิด พืชส่งผลดีต่อสุขภาพของทั้งเกษตรกรผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยผลผลิตในพื้นที่โครงการฯมีการจำหน่ายให้กับโรงเรียนและผู้บริโภค ด้านสังคม สวพส. ส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน โดยการพัฒนาเกษตรกรผู้นำและปัจจุบันมีผู้นำเกษตรกรจำนวน 19 คน และผู้นำเยาวชนคนรุ่นใหม่จำนวน 6 คน ที่มีความเข้มแข็งเป็นที่ยอมรับ สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน

ความสำเร็จของโครงการหลวงสบโขง ที่เห็นผลชัดเจน คือ ชาวบ้านมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ทำให้ไม่มีการขยายพื้นที่ทำการเกษตรบุกรุกพื้นที่ป่า การหมุนเวียนการใช้ประโยชน์พื้นที่ลดลง หลีกเลี่ยงหรือไม่เผาพื้นที่ทำการเกษตร, มีการนำข้อมูลสถิติผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจในพื้นที่ของโครงการ สร้างแรงจูงใจหรือหาแนวทางลดสาเหตุของการป่วยที่เกิดจากปัญหาหมอกควันในพื้นที่, การใช้เครื่องมือแผนที่ดินรายแปลงมาวิเคราะห์ร่วมกับการเกิดจุดความร้อน (Hot spot) เพื่อแยกพื้นที่ป่าและพื้นที่การทำเกษตรให้ชัดเจน ขณะเดียวกันก็พูดคุยกับชาวบ้านเรื่องการบริหารจัดการเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับมาตรการที่ภาครัฐกำหนดควบคุมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้นำเกษตรกรรุ่นใหม่ มีความสนใจ ตระหนักถึงความสำคัญในการปรับเปลี่ยนทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยใช้องค์ความรู้จากโครงการหลวง รวมทั้ง ความโดดเด่นที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงสบโขง ประกอบด้วย เน้นการมีส่วนร่วมเพื่อลดการเผาด้วยกลยุทธ์ 5 ระดับ ไม่ว่าจะเป็น ส่งเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่เพื่อให้สามารถติดตามงานและให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิด สร้างความเข้าใจองค์ความรู้โครงการหลวงที่นำไปพัฒนาอาชีพใหม่, จัดทำแผนที่ดินรายแปรงกำหนดขอบเขตพื้นที่ป่าและพื้นที่ทำกินให้ชัดเจนใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนส่งเสริมการปลูกพืชให้แก่เกษตรกร และส่งเสริมนโยบายสร้างป่าสร้างรายได้, สร้างเครือข่ายจิตอาสา กำหนดระเบียบ กิจกรรมเฝ้าระวังการเผา ป้องกันไฟป่า ส่งเสริมประเพณีชนเผ่าเพื่อเคารพป่า, จัดทำแผนการดำเนินการบริหารจัดการไฟป่าฝุ่นควัน การควบคุมตามหลักวิชาการ และมีมาตรการอย่างเคร่งครัด และกำหนดตัวชี้วัดลดจุด Hot Spot และพื้นที่เผาไหม้ใน อ.ออมก๋อยให้ลดลงร้อยละ 25 โดยจุดความร้อน ในพื้นที่ดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง 8 จังหวัด พบว่าในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2565 พบจุดความร้อนเพียง  951 จุด นับว่าลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ที่พบจุดความร้อน 2,187 จุด  อีกทั้ง สนับสนุนตามประกาศ จ.เชียงใหม่ เรื่องกำหนดเขตควบคุมการเผาและการบริหารจัดการเชื้อเพลิงเพื่อลดเผาในพื้นที่ราว 5 แสนไร่ ของทั้ง จ.เชียงใหม่  

นายสุเชาว์ นายหว่าง หัวหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงสบโขง กล่าวว่า  สวพส.เริ่มดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่สูงตามแบบโครงการหลวงสบโขง ตั้งแต่ปี 2547 พื้นที่ดำเนินงานจำนวน 6 กลุ่มบ้านอยู่ใน ต.สบโขง อ.ออมก๋อย จ.เชียงใหม่ ประชากรเป็นชนเผ่ากระเหรี่ยง จำนวน 523 ครัวเรือน 2,499 คน ส่วนใหญ่ร้อยละ 98 มีอาชีพเกษตรกรรมทำไร่หมุนเวียน พืชหลัก คือ ข้าวไร่ ข้าวนา กะหล่ำปลี และมะเขือเทศ ซึ่งมีราคาไม่แน่นอน และต้องบุกรุกถาง เผาป่า ส่วนร้อยละ 2 มีอาชีพอื่น ๆ เช่น รับจ้าง งานหัตกรรม ค้าขาย และหาของป่า พื้นที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งป่ามีสภาพถูกทำลาย สวพส.ได้เข้าดำเนินงานเพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกพืชทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างรายได้ที่มากกว่าการทำไร่หมุนเวียน ลดการใช้สารเคมี รวมทั้งมีการส่งเสริมปลูกมะเขือเทศในโรงเรือน ด้วยองค์ความรู้แบบโครงการหลวง ทำให้ในปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าโครงการปลูกพืชโรงเรือนจำนวน 21 ราย โดย สวพส. ให้ทั้งคำปรึกษา ติดตามผลผลิต ควบคุมการใช้สารเคมีให้ลดน้อยที่สุด ก่อนส่งผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด ซึ่งเกษตรกรมีรายได้ต่อครัวเรือนเฉลี่ยกว่า 1 แสนบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม ปัญหาและอุปสรรคย่อมมีบ้างในเรื่องของการแข่งขันกับพืชเศรษฐกิจตัวอื่น ๆ ในพื้นที่ ขณะเดียวกันทาง สวพส. มีการนำพืชใหม่ ๆ เข้าไปส่งเสริมเพิ่มเติม เช่น กาแฟ และอะโวคาโด 

ทั้งนี้ ผลสำเร็จ มาจากการดำเนินงานที่ยึดถึอแนวทางโครงการหลวง เน้นร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในรูปแบบการบูรณาการตามบทบาทและภารกิจเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาเชิงพื้นที่ และความต้องการของคนในชุมชนเป็นศูนย์กลาง ตามแผนการวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง พ.ศ.2563-2570  เพื่อให้เกิดการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมของหน่วยงานเครือข่าย 33 หน่วยงาน รวมทั้งการถ่ายทอดองค์ความรู้วิชาการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอาชีพบนพื้นที่สูง 

นายสมชาย นพรัตน์พงษ์ไพร ผู้ใหญ่บ้านแม่หลองน้อย หมู่ 2 ต.แม่หลอง อ.ออมก๋อย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ปัญหาไฟป่าในพื้นที่ไม่ค่อยมีแล้ว เพราะมีการตั้งคณะกรรมการหมู่บ้านขึ้นมาบริหาร มีการลาดตระเวนตรวจตราในพื้นที่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือ 4-5 วันต่อครั้ง  

นายสมหวัง เสริมมติวงศ์ เกษตรกร ต.สบโขง อ.ออมก๋อย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ทำเกษตรบนพื้นที่สูงล้มเหลวบ้าง ดีบ้าง เป็นอย่างนี้มาตลอด ปลูกพืชมาหลายชนิด แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนกระทั่งมาทำการเกษตรแบบโรงเรือนจากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สวพส.ที่ให้ใช้พื้นที่น้อยแต่ได้ผลผลิตมากกว่าในแนวของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งสามารถปลดหนี้สินที่มีอยู่ได้ แม่จะไม่ร่ำรวยมากแต่ถือว่าอยู่ได้แบบไม่ลำบาก และยังทำให้มีเวลามากพอที่จะไปทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าหน้าที่ เช่น การทำแนวกันไฟ  

นายพะสู สมานเกริกไกร เกษตรกร บ้านแม่หลองน้อย ต.สบโขง อ.ออมก๋อย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า  ดั้งเดิมทำไร่ทั่วไป ได้ผลผลิตบ้างไม่ได้บ้างในบางปี ต่อมาได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่บ้านให้ทำเกษตรแบบโรงเรือนแบบโครงการหลวงเพราะให้ผลผลิตดีกว่าทำเกษตรแบบเดิม ซึ่งปีแรกที่เข้าโครงการทำให้มีรายได้อย่างพอเพียงแม้จะไม่มากแต่ก็ถือว่าคุ้มค่า คือจากที่เคยเป็นหนี้ สามารถปลดหนี้ได้ และทำให้ได้บ้านและมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ตามมา และมีเวลาอยู่กับครอบครัว บุกรุกป่าน้อยลง