Saturday, 27 April 2024 | 2 : 34 am

4Quarter.co

Saturday, 27 April 2024 | 2 : 34 am
เอไอเอ ประเทศไทย มอบรางวัลเกียรติยศแก่สุดยอดตัวแทน “ที่สุดแห่งปี” ประจำปี 2566 ในงาน AIA Annual Agency Awards Presentation 2023­­­­   •   ออมสิน ประกาศลดดอกเบี้ย MRR ลง 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยทุกกลุ่ม คงเหลืออัตราดอกเบี้ย MRR (หลังปรับลด) = 6.595%   •   Caring is Giving “Protect Your Car” ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ใส่ใจคุณ พร้อมเคียงข้างทุกการเดินทาง ชวนลดความเสี่ยง ปกป้องรถที่คุณรักอย่างยั่งยืน   •   เคทีซี เผยยอดใช้จ่ายไอเทมคลายร้อนที่ KTC U SHOP พุ่งกว่า 120% เปิดช่องทางช้อปใหม่ผ่านแอป KTC Moblie สะดวก ปลอดภัย พร้อมรับโปรสุดคุ้ม   •   กสิกรไทย ร่วมฉลองความสำเร็จ KCBL รุ่น 1   •   กคช. ระดมผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ มุ่งการพัฒนาควบคู่ 4 มิติ เศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงบั้นปลาย   •   ถอดบทวิเคราะห์ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เผยมุมมองขยายพอร์ต สู่ 4 จุดยุทธศาสตร์สำคัญของกรุงเทพฯ “กาญจนาภิเษก – พุทธมณฑล – พัฒนาการ – รามคำแหง”   •   สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายรัฐบาล ประกาศลดดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและกลุ่มเปราะบาง   •   ผู้บริหารไทยประกันชีวิต รับรางวัล TOP CEO Thailand 2023   •   วิริยะประกันภัย รวมพลังจิตอาสาสร้างโป่งเทียม แหล่งอาหารช้างป่า ผืนป่าภาคตะวันออก   •   กรุงศรี เดินหน้ากลยุทธ์กลุ่มลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ รุกสร้างระบบนิเวศเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมเชื่อมต่อโอกาสลงทุนในอาเซียน   •   ทีทีบี ชวนเอสเอ็มอี ร่วมสัมมนา finbiz connect the future for growth เชื่อมเทรนด์ธุรกิจอนาคต..สู่กลยุทธ์การเติบโตยั่งยืน   •   เงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับ นักศึกษาปริญญาโท บริหารธุรกิจ (MBA) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   •   เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับ มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบเงินสนับสนุน “มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจในพระบรมราชินูปถัมภ์”   •   พรูเด็นเชียล ประเทศไทย คว้ารางวัลสุดยอดนายจ้างระดับโลก “Global Best Employer Brand Awards 2024”   •   เปิดบ้านหรู 3 ชั้น พร้อมชม Club House สุดหรู ที่ ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50   •   กสิกรไทย ปรับโครงสร้างคณะกรรมการ ลดจำนวนกรรมการเป็น 15 คนจาก 18 คน เพิ่มสัดส่วนกรรมการอิสระเกินกว่ากึ่งหนึ่ง ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสอดคล้องมาตรฐานสากล   •   เอสซีจี แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2567 ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เดินหน้านวัตกรรมกรีนต่อเนื่อง เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด รุกธุรกิจในตลาดเติบโตสูง   •   การเคหะแห่งชาติ ร่วมรับรางวัล “รัฐวิสาหกิจดีเด่นด้านการส่งเสริมและพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน” ภายในงาน “มอบรางวัล SIAMRATH AWARDS 2024”   •   ทิพยประกันภัย ปลุกกระแสประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพแพทย์ สร้างความอุ่นใจให้แพทย์ มอบความคุ้มครองสูงสุดถึง 6 ล้านบาท   •   องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี จับมือ เคทีซี เดินหน้าขยายฐานนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “Korea Everything” ทุกสิ่งเป็นจริงที่เกาหลี   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร จัดกิจกรรม “SMART HEALTHY CHALLENGE 2024” ดูแลสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก นำทุกคนก้าวสู่โลกใหม่เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดี   •   “สำนักงาน คปภ. – ภาคธุรกิจประกันภัย” เตรียมความพร้อมรองรับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 เรื่อง สัญญาประกันภัย (TFRS 17)   •   สมัครบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า รูดช้อปรับคุ้ม! รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%   •   เอไอเอ ประเทศไทย สนับสนุนกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุฟรี แก่เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ร่วมโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2   •   ทิพยประกันภัย คว้าสุดยอด 2 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ รางวัลผู้บริหารองค์กรดีเด่นแห่งปี และรางวัลบริษัทประกันภัยที่ส่งเสริมความยั่งยืนด้านการพัฒนาสังคมยอดเยี่ยม   •   ศุภาลัย ผนึก ทีโอเอ ปั้นนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว ผุดโปรเจกต์ยักษ์ ‘ฝ้ายิปซัม & สีรักษ์โลก’ เดินหน้าสู่องค์กร Zero Waste อย่างยั่งยืน   •   ออมสิน รับรางวัลองค์กรแห่งความยั่งยืนเพื่อสังคม   •   ธ.ก.ส. จับรางวัลชำระดีมีโชค ครั้งที่ 2 มอบโชคอีกกว่า 208 ล้านบาท ส่งเสริมแนวทางลดภาระหนี้อย่างยั่งยืน   •   ทีทีบี เสริมศักยภาพเอสเอ็มอี ด้วยฟีเจอร์ใหม่ “analytic report” ภายใต้แอปพลิเคชันจัดการร้านค้า ttb smart shop วิเคราะห์ข้อมูลการขายเชิงลึก ครบทุกมิติ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง ชี้โอกาสลงทุนในจีน ผ่าน K-CHINA ที่พร้อมเติบโตท่ามกลางการฟื้นตัว รับแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว เน้นลงทุนกลุ่มเทคโนโลยี พลังงานสะอาด และการบริโภคภายในประเทศ

KBank Private Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง) ชี้โอกาสลงทุนในจีน ผ่านกองทุน K-CHINA (กองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน) ที่เน้นลงทุนในหุ้นจีนเติบโต (Growth) คุณภาพสูง (High Quality) และอยู่ในกลุ่มธุรกิจใหม่ (New Economy) เพื่อคว้าโอกาสรับผลตอบแทนในอนาคต ในงานสัมมนาหัวข้อ Chinese Opportunities Amidst a Gradual Recovery โดยมี ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญการลงทุนจาก JP Morgan Asset Management ร่วมประเมินเศรษฐกิจจีนที่กำลังเข้าสู่ถนนสายใหม่กับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวโดยเฉพาะการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี การตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และการบริโภคในประเทศที่หนุนจากจำนวนประชากร 1.4 พันล้านคน

นางสาวศิริพร สุวรรณการ Senior Managing Director, Financial Advisory Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า จากภาพรวมการลงทุนทั่วโลก สถานการณ์เงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นโดยเฉพาะในสหรัฐฯ กดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตช้าลง ในขณะที่จีนยังก็คงดำเนินนโยบาย Zero-Covid ที่แม้จะยืดหยุ่นมากขึ้น แต่เมื่อมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อทางการจีนก็ยังมีการประกาศให้ล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง ในขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ยังคงอ่อนแอ จากปัญหาด้านสภาพคล่องในบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่แม้ว่ารัฐบาลจะมีการเข้ามาให้ความช่วยเหลือ แต่ก็อาจยังไม่เพียงพอที่จะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ซึ่งเป็น 2 ปัจจัยกดดันหลักทำให้ตลาดหุ้นจีนยัง ไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ดี จีนยังสามารถใช้นโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง และจีนยังไม่มีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยเหมือนกับประเทศอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนยังต้องติดตามว่านโยบายของจีนจะเปลี่ยนไปอย่างไร และจะกระทบต่อภาพรวมการลงทุนอย่างไร

มร.โฮเวิร์ด หวัง Head of Greater China Equities JP Morgan Asset Management กล่าวว่า จากนโยบาย Zero-Covid ของจีน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการบริโภคในประเทศ อีกทั้งปัญหาในภาคอสังหาฯ ล้วนส่งผลให้ยอดขายและการลงทุนหดตัว ส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี JP Morgan มองว่าจีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมอื่นๆ แทน เช่น
1) จีนจะลดความเข้มงวดข้อบังคับในบริษัทอินเทอร์เน็ต หลังจากที่เข้มงวดมามากก่อนหน้านี้ ซึ่งแม้ว่าจะกระทบต่อผลดำเนินงานของบริษัทเทคโนโลยี แต่เชื่อว่าจะทำให้บริษัทแข็งแกร่งขึ้นได้ในระยะยาว
2) สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศ เพื่อหันมาพึ่งพาการผลิตในประเทศมากขึ้น และลดการพึ่งพาต่างชาติ
3) สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ให้สอดคล้องกับกระแสหลักของโลกที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
โดย 3 กลุ่มธุรกิจหลักที่ JP Morgan เลือกลงทุนในหุ้นจีน ได้แก่
1) Technology: การอัพเกรดเทคโนโลยีและทดแทนการนำเข้า โดยความสนับสนุนของรัฐบาลจีนในการวิจัยและพัฒนา (R&D) ภาคเอกชนจึงมีการลงทุนในหลากหลายด้าน ซึ่งจะผลักดันให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมและเซมิคอนดักเตอร์ เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจจีนสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ
2) Carbon Neutrally: เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยพลังงานสะอาด จาการที่รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2060 ทำให้การลงทุนในธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมีความน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น พลังงานทดแทน รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงการผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยรถยนต์ไฟฟ้าขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มผู้บริโภคจีน อีกทั้งประเทศจีนมีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเทียมที่มีเทคโนโลยีทันสมัย รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอีกด้วย
3) Consumption: ผู้บริโภคต้องการสินค้าคุณภาพและสุขภาพที่ดี จีนทำ จีนใช้ จีนเติบโต จากการที่จีนเป็นตลาดด้านการบริโภคที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ของโลก จากจำนวนประชากร 1.4 พันล้านคน เทียบเท่ากับสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยในประเทศจีน คาดว่าจะแตะระดับ 48 % ของยอดขายทั่วโลก ในอีก 3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ JP Morgan ประเมินว่าการลงทุนในระยะยาวในตลาดหุ้นของประเทศจีนปัจจุบัน มีโอกาสสร้างผลตอบแทนประมาณ 15 – 20 % ต่อปีในระยะ 5 ปี ข้างหน้า เนื่องจาก Valuation อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาวและต่ำกว่าตลาดหุ้นหลักอื่นๆ ของโลก และตลาดได้สะท้อนปัจจัยลบต่างไปมากแล้ว

ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสริมว่า นโยบาย Zero-Covid ของจีนที่ยังคงกดดันเศรษฐกิจให้ไม่สามารถฟื้นตัวได้เป็นเรื่องของการเมือง เนื่องจากเกรงว่าการแพร่ระบาดจะลุกลามก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่ฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ดีหลังการประชุมผ่านไป ทางการจีนน่าจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายแบบค่อยๆ ผ่อนคลาย เริ่มจากปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ก่อน ซึ่งอาจจะกินเวลายาวนานถึง 1 ปีกว่า Zero-Covid จะสิ้นสุด ด้านภาคอสังหาฯ ของจีน คาดว่าสี จิ้น ผิง ไม่น่าจะออกมาตรการรุนแรงใดที่จะช่วยกระตุ้นกลุ่มอสังหาฯ อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมองกว่ากลุ่มนี้ไม่ได้เป็น Growth Engine หรือตัวกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญ เพราะมองว่าบ้านมีไว้สำหรับอยู่อาศัย ไม่ได้มีไว้ปั่นราคา มองว่าหากกลุ่มอสังหาฯ ไม่สามารถกลับมาเฟื่องฟูได้ แต่ยังมีกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มพลังงานสะอาด รถยนต์ไฟฟ้า หรือนวัตกรรมด้าน Hardware ต่างๆ ที่จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญมากกว่า ส่วนเรื่องการมาตรการเพื่อควบคุมบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในจีน ไม่ว่าจะเป็น เกมส์ออนไลน์ อีคอมเมิร์ส โซเชียล มีเดีย และ สถาบันกวดวิชา จากความกังวลว่าจะเกิดการผูกขาด จะไม่มีการเข้มงวดเพิ่มเติม แต่คงจะไม่ผ่อนคลายอย่างมีนัยสำคัญ เพราะทางการจีนมองว่ากลุ่มธุรกิจเหล่านี้เป็นเศรษฐกิจมายา ไม่ใช่ เศรษฐกิจจริง อย่างเช่น กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ พลังงานสะอาด รวมถึงระบบการทำงานอัตโนมัติ (Automation) ที่จะเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลกให้กับจีนได้

นางสาวศิริพร กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า KBank Private Banking ในฐานะผู้เชี่ยวชาญและผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุน มองว่าหลังจากการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะมีแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนในระยะยาวที่มีความชัดเจนทั้งในด้านการอัพเกรดเทคโนโลยีและทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยพลังงานสะอาดเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน การบริโภคสินค้าที่ผลิตในประเทศที่ผู้บริโภคจีนต้องการสินค้าคุณภาพและสุขภาพที่ดี ทำให้การลงทุนในจีนเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะสร้างโอกาสเติบโตได้อย่างโดดเด่น โดยในกรณีฐานคาดหวังผลตอบแทนสูงถึง 17-20% ใน 12 เดือนข้างหน้า