Saturday, 7 December 2024 | 7 : 28 pm
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Saturday, 7 December 2024 | 7 : 28 pm
spot_img
IMET MAX สานต่อการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ปีที่ 7 เสริมทัพอุทยานผู้นำ พัฒนา “คนดี-คนเก่ง” สู่สังคมไทยที่ยั่งยืน   •   เดอะวิสดอมกสิกรไทย จับสัญญาณความผันผวนเศรษฐกิจโลก 2025 จากมาตรการภาษีและสงครามการค้าขยายแนวรบ ในยุค “ทรัมป์ 2.0”   •   โลตัส ชวน “กงยู” ร่วมมอบมื้ออาหารดีให้น้องๆ รับเปิดเทอมสานต่อความมุ่งมั่น “โครงการอาหารดีพี่ให้น้อง” ปีที่ 7 ครบ 3 ล้านมื้อ   •   ลูกค้าบัตร Krungsri Boarding Card สมัครโครงการแลกเปลี่ยน Work & Travel USA กับ ACADEX รับส่วนลด 2,000 บาท   •   การเคหะแห่งชาติ เตรียมความพร้อมบรรจุผู้เช่าโครงการอาคารเช่าพักอาศัย จ.อุดรธานี (สามพร้าว)   •   “อมตะ” เตรียมรับคลื่นลงทุนใหม่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ความต้องการนักลงทุนกลุ่มไฮเทคครบวงจรสร้างมูลค่าเพิ่มในพื้นที่ EEC   •   วิริยะประกันภัย สนับสนุน “วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน” (World Day of Remembrance for Road Traffic Victims)   •   รฟฟท. คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ปี 2567 ตอกย้ำความสำเร็จต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน   •   BAM รับรางวัล “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน” ประจำปี 2567 ระดับดีเด่น   •   คปภ. เร่งเครื่อง Digital Insurance ยกระดับวงการประกันภัยไทย   •   กรุงเทพประกันภัย ขยายระยะเวลาโครงการผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย 0%   •   Q-CHANG จัดงาน “I AM Q-CHANG FAIR 2024” เชื่อมสัมพันธ์ช่างในแพลตฟอร์มสร้างการรับรู้เป้าหมาย ผนึกกำลังเติบโตไปด้วยกัน   •   การเคหะแห่งชาติ จัดทอดผ้าป่าสามัคคีประจำปี 2567 ณ วัดปากบึง   •   ‘TOA ไม่ทิ้งกัน สู้ภัยน้ำท่วม’ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยภาคใต้   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นด้านส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ประจำปี 2567 ตอกย้ำความมุ่งมั่นสร้างโอกาสและคุณค่าเพื่อสังคมที่เท่าเทียม   •   “โก โฮลเซลล์” เปิดสาขาเจริญราษฎร์ ปักหมุดทำเลยุทธศาสตร์กลางเมือง ตอกย้ำผู้นำตลาดค้าส่ง พร้อมโปรโมชั่นส่งท้ายปี   •   ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งช่องทางตัวแทนดึง 4 ขุนพลเสริมทัพขยายฐานตัวแทน   •   MDRT Thailand โชว์ผลงานเด่น พร้อมลุยแผนปี 2568 สู่เป้าหมาย Top 5 ของโลก   •   กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ โค้งสุดท้ายของปี “ไลฟ์ อัลตร้า เซฟ 10/3” เน้นสนับสนุนคนไทยวางแผนทางการเงิน พร้อมลดหย่อนภาษี อย่างมั่นคง มั่นใจ เงินคืนไวทุกปี   •   ฟอลคอนประกันภัย ยืนยันพร้อมจ่าย 4.5 ล้านบาท จากอุบัติเหตุรถยนต์ BMW ชนท้ายรถจักรยานยนต์ Honda ที่ จ.ชุมพร   •   ศุภาลัย จัดแสดงนิทรรศการเพื่อสังคมครั้งสำคัญพร้อมเผยโฉมหนังสือใหม่ “8+1 พหุศิลป์ POLY ARTS” สะท้อนวิสัยทัศน์ศิลปะบูรณาการจาก “ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม”   •   ไทยประกันชีวิต จัดแคมเปญ “สวัสดีวันสุข”จับมือพันธมิตรชั้นนำ มอบสิทธิพิเศษทุกวันศุกร์ตลอดธันวาคม 67   •   ศุภาลัย ผนึกกำลัง “วินด์เซอร์” ชูนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างรักษ์โลกจากไวนิล มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตด้วย “Ultimate Protection” ให้ทุกบ้านอยู่สบาย   •   สำนักงาน คปภ. พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัยแก่ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้   •   orbix INVEST เปิดตัว 2 โซลูชันการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล Tailor-Made Strategy และ orbix BE Smart Capture มุ่งตอบโจทย์ทุกเป้าหมายการลงทุน พร้อมรองรับนักลงทุนทุกกลุ่ม   •   แกร่งเกินต้าน! realme C75 มอบฟีเจอร์ทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP69 หนึ่งเดียวในเซกเมนต์ พร้อมเปิดตัว 3 ธันวาคม นี้ เสริมความเชื่อมั่นด้วยการันตีสมาร์ตโฟนที่ผ่านการรับรองในด้านความทนทานรายแรกของอุตสาหกรรม   •   GC พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ 4-12 ธันวาคมนี้ ชูดอกเบี้ย 5 ปี 6 เดือนที่ 5.25%   •   กรุงเทพประกันชีวิต ยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ผ่านมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013 ด้านระบบขายประกันออนไลน์ (Smart Insured)   •   วิริยะประกันภัย สานสัมพันธ์สื่อฯ จัดงานอยากเล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง #11 “มั่นใจ…ทันใจ…วางใจ มาตรฐานบริการสินไหมทดแทน จากวิริยะประกันภัย”   •   พรูเด็นเชียล ประเทศไทย จับมือ ‘มิชลิน’ มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่ลูกค้า PRULegacy และ PRULegacy Plus 
spot_img

เหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก แยกอย่างไร “โรคหัวใจ”หรือ “โควิด-19”

โรคเดียวที่พูดถึงกันไปทั่วโลกในขณะนี้ หนีไม่พ้นเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเกิดจากเชื้อ SARS Coronavirus -2 มาตั้งแต่ปลายปี 2562 โดยหนึ่งในอาการ หากติดเชื้อโควิด-19 คือ เหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก ซึ่งใกล้เคียงกับอาการของโรคหัวใจบางประเภท เรามาดูวิธีสังเกตอาการว่าจะแยกออกจากโรคหัวใจได้อย่างไร

นพ.ชาติทนง ยอดวุฒิ อายุรแพทย์หัวใจ รพ.หัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า ทำความเข้าใจก่อนว่าอาการของการติดเชื้อโควิด-19 คือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจโดยจะมีอาการที่ทางเดินหายใจส่วนบนเป็นอันดับแรกเช่นคัดจมูกน้ำมูกไหลไอเจ็บคอร่วมกับอาการไข้จนถึงไข้สูงหนาวสั่นปวดเมื่อยตามตัวปวดหัวปวดตามข้อหลังจากนั้นอาการจะมีการเปลี่ยนแปลงและลุกลามไปจนถึงการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างคือปอดจุดนี้ที่จะทำให้คนไข้เริ่มมีอาการเหนื่อยเกิดภาวะเมตาบอลิซึมสูงร่วมกับการติดเชื้อในปอดทำให้ออกซิเจนในเลือดลดต่ำลงคนไข้จะหายใจหอบเหนื่อยหัวใจเต้นเร็วซึ่งจะมีความแตกต่างจากอาการเจ็บหน้าอกจากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบคืออาการเริ่มต้นจะไม่มีอาการของไข้หวัดมาก่อนโดยมากอาการเจ็บหน้าอกจากเส้นเลือดตีบจะสัมพันธ์โดยตรงกับการออกแรงและออกกำลังกาย
ขณะที่อาการเหนื่อยจากภาวะหัวใจล้มเหลวหรือน้ำท่วมปอดนั้น หากเกิดขึ้นจากภาวะน้ำเกินจะไม่มีอาการเป็นไข้หวัดนำมาก่อนหรือร่วมด้วยแต่ลักษณะอาการของโรคหัวใจล้มเหลวหรือน้ำท่วมปอดนั้นจะเป็นตอนขณะที่นอนราบและอาการจะมากขึ้นจนถึงนอนราบไม่ได้นอนลงไปแล้วจะมีอาการไอต้องนอนหมอนสูงหลายใบและหนักสุดคือนั่งหลับเพราะนอนราบไม่ได้สิ่งสำคัญที่ควรระวังคือ คนที่เป็นโรคหัวใจอยู่ก่อนแล้ว หากติดเชื้อโควิด-19 จะไปกระตุ้นให้อาการของโรคหัวใจกำเริบจนแยกอาการได้ค่อนข้างยาก

ผู้ป่วยโรคหัวใจหากติดเชื้อโควิด-19 อาการจะรุนแรง มีอัตราการเสียชีวิตได้สูงกว่าคนทั่วไป ทั้งนี้ ความรุนแรงของอาการหากติดเชื้อไม่ได้เฉพาะในคนที่เป็นโรคหัวใจเท่านั้นแต่ในกลุ่มดังต่อไปนี้ได้แก่อายุมากกว่า 65 ปีมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคปอดเรื้อรังเดิม โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคไต โรคตับแข็ง และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องอยู่เดิมล้วนแต่เป็นภาวะที่จะทำให้การติดเชื้อโควิด-19 รุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตสูงได้ ดังนั้นผู้ป่วยควรมีความระมัดระวังอย่างยิ่งในการดูแลตัวเองไม่ให้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่รักษาโรคได้โดยตรง การดูแลตัวเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

คนที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว จะมีอาการแสดงมากขึ้นหลังจากติดเชื้อโควิดคือโรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงหรือล้มเหลวถ้าได้รับเชื้อเข้าไปจะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเมตาบอลิซึมสูงขึ้นจนกระทั่งกระตุ้นให้โรคหัวใจล้มเหลวกำเริบติดเชื้อโควิดรุนแรงจนทำให้ไตวายและไตไม่สามารถขับน้ำออกจากร่างกายได้จนเป็นเหตุให้น้ำท่วมปอดซึ่งทั้งสองภาวะนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุต้นๆ ที่ทำให้เสียชีวิตหรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆจนต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนานและทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมามากมาย

คำแนะนำที่ดีที่สุดและได้ผลที่สุดสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจควรปฎิบัติคือ Social distancing ห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตร ใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือให้สะอาดสม่ำเสมอ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ กินร้อน ใช้ช้อนของเราไม่ปนกับใคร แยกของใช้ และไม่ไปในแหล่งระบาด แหล่งชุมชน มีประกาศไม่ให้ผู้สูงอายุออกจากบ้านที่สำคัญคือ ลูกหลานต้องไม่เอาเชื้อจากนอกบ้านไปติดผู้สูงอายุในบ้าน

ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจและมีอาการหรือจำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาหรือติดตามอาการในช่วงนี้ควรจะปฏิบัติอย่างเคร่งครัด มีการตรวจคัดกรองโรคสวมหน้ากากอนามัย ไม่ควรมาพบแพทย์หรือเลี่ยงไม่มาปรึกษาแพทย์ถ้าอาการยังไม่สงบและยังมีอาการอยู่ และที่สำคัญไม่ควรขาดยา ถ้ามาโรงพยาบาลไม่ได้ควรเตรียมยาให้พอดีหรือใช้วิธีปรึกษาแพทย์ผ่านช่องทางอื่น เช่น การปรึกษาแพทย์ออนไลน์ หรือโทรศัพท์ปรึกษาแพทย์ผ่านอุ่นใจสายด่วนของโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นต้น

สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ หากเกิดการติดเชื้อโควิด-19 อาจต้องสังเกตอาการของตนเองอย่างดี ตั้งแต่เริ่มต้น เช่น อาการที่คล้ายหวัดคัดจมูกน้ำมูกไหลไอเจ็บคอร่วมกับอาการไข้จนถึงไข้สูงหนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัวปวดหัว ปวดตามข้อควรจะต้องรีบติดต่อสถานพยาบาลและเตรียมพร้อมที่จะมาตรวจเพื่อรักษาอาการตั้งแต่เริ่มต้น หากปล่อยไว้นานอาจเป็นอันตรายได้ ในห้วงเวลาของการระบาดเชื้อโควิด -19 โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ ขอดูแลทุกคนด้วยความห่วงใย ภายใต้คุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img