Sunday, 13 October 2024 | 5 : 10 pm
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Sunday, 13 October 2024 | 5 : 10 pm
spot_img
อุตสาหกรรมประกันภัยมอบกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุแก่อาสาสมัครเพื่อสังคมสมาคมประกันชีวิตไทย   •   “คปภ. – ภาคธุรกิจประกันภัย” ร่วมใจส่งมอบกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุสำหรับอาสาสมัครเพื่อสังคม เพื่อคุ้มครองภัยและสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยรวมเงินเอาประกันภัย 240 ล้านบาท   •   SAM ประเดิมไตรมาสสุดท้ายของปี เปิดประมูลทรัพย์เด่นมูลค่ารวมกว่า 350 ลบ. ทั้งทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยและการลงทุน รู้ผลทันที 25 ต.ค. และ 8 พ.ย. นี้   •   การเคหะแห่งชาติ เสริมความรู้ด้านบริหารจัดการพลังงาน สร้างจิตสำนึกการมีส่วนร่วมให้ทุกคน ลดใช้พลังงานและใส่ใจสิ่งแวดล้อม   •   กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต ขอเชิญชวนร่วม กิจกรรม “Wild Life ป่าไม้ บ้านของสัตว์ป่าต้องไม่ถูกทำลาย” จากแคมเปญ Commit To Climate ปีที่ 3   •   การเคหะแห่งชาติ มอบบ้านให้กับผู้สูงอายุ ภายใต้ “โครงการบ้านสบายเพื่อยายตา” จำนวน 71 หลัง กระจายทั่วทุกภูมิภาค   •   บบส.อารีย์ รับโอนหนี้ ออมสิน กว่า 130,000 บัญชี พร้อมเดินหน้าเร่งเจรจาลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้   •   กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต คว้ารางวัลใหญ่ “Marketing Excellence Awards” จากแคมเปญโฆษณาระดับโลก “เป็นผู้หญิงไม่ควรต้องเสี่ยง”   •   อลิอันซ์ อยุธยา ร่วมกับ อลิอันซ์ โกลบอล อินเวสเตอร์ส และ หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรีฯ ชูความเชี่ยวชาญการลงทุนระดับโลก เปิดทางเลือกเพิ่มให้ลูกค้ายูนิต ลิงค์กับ 2 กองทุนรวมใหม่ DMAS SRI 75 และ DMAS SRI 50   •   CEO กสิกรไทย ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 30 ผู้นำหญิงทรงอิทธิพลภูมิภาคเอเชีย จากการขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างความเป็นเลิศทางธุรกิจ   •   เอไอเอ ประเทศไทย ส่งแคมเปญ “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊ปเดียว” ให้คนไทยอุ่นใจหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ด้วยความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ทุกคนเลือกได้   •   เคทีซี มอบโปรชวนสมาชิกบินเที่ยวเกาหลี รับฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาวเพียง 2 วันในงาน Welcome To Korea “Taste Your Korea”   •   เอสซีจี ร่วมกับ APAC Tower คว้า Fitwel ระดับสูงสุด อาคาร Mixed-Use ใจกลางกรุงเทพฯพร้อมมอบประสบการณ์สุดพรีเมียม และดูแลสุขภาวะที่ดีให้กับผู้ใช้งานตลอดทั้งวัน   •   การเคหะแห่งชาติ เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอราคาค่าธรรมเนียมการได้สิทธิเช่าพื้นที่/ที่ดิน/ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในโครงการที่อยู่อาศัยของการเคหะฯ จำนวน 3 โครงการ   •   TQR ร่วมสนับสนุน “Thaivivat Caring Forward คิดเผื่อเพื่อสังคม”   •   SAM เดินหน้าช่วยลูกค้าประสบอุทกภัย คลอดมาตรการพักหนี้ ลดดอกเบี้ย หวังบรรเทาความเดือดร้อน ลูกค้าให้ฟื้นตัวกลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว   •   เคทีซี จัดอบรม Six Sigma Green Belt รุ่น 2 ยกระดับศักยภาพบุคลากร เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทางธุรกิจ   •   ออมสิน โอนหนี้เสียล็อตแรกไป ARI-AMC รวมกว่า 130,000 บช. มูลค่าเงินต้น 11,000 ลบ. ตั้งเป้าแก้ปัญหาหนี้ตามนโยบายรัฐ   •   อลิอันซ์ อยุธยา ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้เอาประกันภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัย   •   SCGD เผยแผนธุรกิจระยะยาว ลุยตลาดอาเซียนเติบโตสูง มั่นใจรายได้ตามเป้า โต 2 เท่าในปี 2030งบฯ ลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท ขยายโรงงานกระเบื้อง สุขภัณฑ์ เพิ่มช่องทางจำหน่ายพร้อมลดต้นทุน ใช้ออโตเมชั่น พลังงานสะอาด   •   เลขาธิการ คปภ. เปิดเวทีการประชุม AIRDC ครั้งที่ 23 ชี้ประกันภัยทั่วโลก “เร่งสร้างโอกาสบนความท้าทาย”   •   BAM มอบเครื่องฟอกอากาศให้กับโรงพยาบาลเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ในโอกาสครบรอบ 25 ปี มอบ 25 โรงพยาบาลทั่วประเทศ   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร ร่วมกับเพจพ่อมดติ๊กต๊อก จัดกิจกรรม TikTok Masterclass Workshop พิเศษเฉพาะลูกค้าเท่านั้น   •   BEM คว้ารางวัล “Outstanding IR” ในงาน IAA Awards for Listed Companies 2024   •   ไทยประกันชีวิต เปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ “Live Life with no Regret” สะท้อนแนวคิด จุดประกายการใช้ชีวิตให้มีความหมายส่งดิจิทัลแพลตฟอร์ม “Live Bright” นำเทคโนโลยี AI ช่วยพัฒนาและยกระดับการสร้างแรงบันดาลใจสู่การลงมือทำ   •   พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เตือนภัยมิจฉาชีพ สร้างเพจอันเป็นเท็จ   •   กรุงเทพประกันชีวิต “ใส่ใจ” ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจัดสัปดาห์รณรงค์รับบริจาคเงินและสิ่งของ มอบผ่านมูลนิธิกระจกเงา   •   ไทยพร้อมจัดงานระดับโลก IEEE International Smart Cities ระดมผู้เชี่ยวชาญ-นวัตกรรมสุดล้ำ ยกระดับไทยสู่เมืองอัจฉริยะ   •   วิริยะประกันภัย มอบทุน “สุขที่ให้…เพื่อน้องได้เรียน” ปีที่ 5 ช่วยเหลือนักเรียนขาดแคลนทุนทรัพย์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   •   ธ.ก.ส. ร่วมงานประชุมระดับนานาชาติ Association of Insurers and Reinsurers of Developing Countries: AIRDC ครั้งที่ 23
spot_img

EIC คาดการณ์ GDP ไทยปี 2020 หดตัวที่ 5.6% ต่ำสุดนับจากวิกฤตต้มยำกุ้งปี 1998 จากเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอย มาตรการปิดเมืองของไทย และจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มลดลงมากและการฟื้นตัวล่าช้า

EIC ปรับลดประมาณการ GDP ไทยปี 2020 เป็นหดตัวที่ -5.6% จากคาดการณ์เดิมที่ -0.3% โดยมีสาเหตุหลักจากพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว 4 ข้อ ได้แก่ 1) เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย จากการหยุดลงแบบฉับพลันของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (sudden stop) เป็นผลจากปัญหา Covid-19 และมาตรการปิดเมืองของหลายประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าของไทยมีแนวโน้มหดตัวมากที่ -12.9% ในปีนี้  2) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศมีแนวโน้มจะลดลงมากและฟื้นตัวล่าช้ากว่าที่คาด โดยจะลดมาอยู่ที่ 13.1 ล้านคนในปีนี้ หรือหดตัวที่ -67% จากปีก่อนหน้า เป็นผลจากความกังวลของนักท่องเที่ยวต่อการเดินทางระหว่างประเทศตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนและการรักษาโรคที่ได้ผล และจากรายได้ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกในปีนี้  3) การประกาศปิดเมืองในหลายส่วนของไทย ซึ่งแม้เป็นกลยุทธ์ที่จำเป็นในการควบคุมการระบาดของโรค แต่จะส่งผลให้การบริโภคสินค้าและบริการของภาคครัวเรือนโดยรวมลดลง ซึ่งเป็นผลกระทบที่เพิ่มเติมจากความกังวลของผู้บริโภคต่อธุรกรรมที่มีลักษณะ face-to-face ในช่วงโรคระบาดอยู่แล้ว และ 4) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงินและการคลังที่คาดว่าจะมีออกมาเพิ่มเติม จะมีส่วนสำคัญในการช่วยบรรเทาผลกระทบของ COVID-19 ต่อเศรษฐกิจไทย โดย EIC ได้เพิ่มสมมติฐานของเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากการออก พรก. กู้ฉุกเฉิน จำนวน 200,000 ล้านบาทไว้ในการประมาณรอบนี้ด้วย

จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั่วโลกที่รุนแรงเพิ่มขึ้นมาก ประกอบกับมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดของหลายประเทศ ทำให้ EIC คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และมีแนวโน้มหดตัวที่ -2.1% ในปี 2020ต่ำกว่าช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2008-2009 จากผลกระทบของการระบาด COVID-19 ต่อเศรษฐกิจโลกมีมากกว่าคาด สะท้อนจากข้อมูลเร็วอย่างดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของสหรัฐฯ ยูโรโซน และญี่ปุ่นในเดือนมีนาคมที่ลดลงเหลือ 40.5, 31.4 และ 35.8 ตามลำดับ ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงหรือต่ำกว่าช่วงวิกฤตการเงินปี 2008 นอกจากนี้ มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดของหลายประเทศ ยังส่งผลโดยตรงต่อการหยุดชะงักอย่างฉับพลันของกิจกรรมเศรษฐกิจ (sudden stop) ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบอย่างหนักต่อภาคเศรษฐกิจจริง (real sector) ในหลายประเทศทั่วโลก ดังนั้น EIC จึงประเมินว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเข้าสู่สภาวะถดถอย (global recession) โดยจะหดตัวที่ -2.1% ทั้งนี้ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกประกอบกับปัญหาด้าน supply disruption ที่จะมีเพิ่มขึ้น จากการหยุดชะงักด้านการผลิตของหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงการลดลงอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมันในตลาดโลก จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออกของไทย โดย EIC ได้ปรับลดประมาณการมูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2020 เป็นหดตัวที่ -12.9% จากเดิมที่คาดไว้ที่ -5.8%

ด้านสถานการณ์ท่องเที่ยว EIC ได้ปรับคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2020 ลดลงเหลือเพียง 13.1 ล้านคน (เดิมคาด 27.7 ล้านคน) หรือหดตัว -67% จากปีก่อน โดยเป็นผลจากมาตรการปิดประเทศของประเทศต่าง ๆ เพื่อควบคุมการระบาดของ COVID-19 ประกอบกับความกังวลของนักท่องเที่ยวต่อการเดินทางระหว่างประเทศทำให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่าน 5 สนามบินหลัก (สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่) ในช่วงวันที่ 1-28 มีนาคม 2020 หดตัวที่ -78%YOY และในช่วง 1-2 วันล่าสุดหดตัวเกือบ 100%YOY เมื่อมองไปข้างหน้าในช่วงที่เหลือของปี EIC ประเมินว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจะหดตัวรุนแรงที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 2 เนื่องจากเป็นช่วงที่ประเทศส่วนใหญ่จะมีมาตรการปิดประเทศอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรค และแม้หลังจากนั้น มาตรการอาจเริ่มถูกผ่อนคลายได้ในช่วงครึ่งหลังของปี แต่ความกังวลของนักท่องเที่ยวต่อการเดินทางระหว่างประเทศตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนหรือการรักษาโรคที่ได้ผล ประกอบกับรายได้ของนักท่องเที่ยวที่จะลดลงตามภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก จะทำให้การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นไปอย่างช้า ๆ โดยคาดว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวในเดือนธันวาคมจะกลับมาได้เพียงประมาณ 50% ของเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

การประกาศปิดเมือง (lockdown) ในหลายเมืองสำคัญของไทย ประกอบกับความตื่นกลัวด้านการระบาดของ COVID-19 จะส่งผลกระทบต่อการบริโภคสินค้าและบริการในภาพรวม มาตรการปิดเมืองเป็นมาตรการ social distancing ที่จำเป็นที่ประเทศส่วนใหญ่นำมาใช้เพื่อ flattening the curve ของการระบาด ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียของชีวิตผู้คนและการสูญเสียทางเศรษฐกิจในภาพรวม แต่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดย EIC ประเมินจากหลายงานศึกษาในต่างประเทศ พบว่า ในช่วงการ lockdown ระหว่างการเกิดโรคระบาด สินค้าที่จะมียอดขายเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าหมวดอาหาร สินค้าหมวดการทำความสะอาด ยา และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ รวมถึงการใช้บริการอินเทอร์เน็ตตามการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ การทำงานที่บ้าน และกิจกรรมสันทนาการออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น เช่น ดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกมส์ เป็นต้น ขณะที่สินค้าและบริการที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบทางลบค่อนข้างมาก คือ การเดินทาง ท่องเที่ยว งานนิทรรศการ โรงแรมและร้านอาหาร การคมนาคมขนส่ง กิจกรรมสันทนาการ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องแต่งกาย โดยแม้จะมีบางสินค้าที่ได้รับประโยชน์ แต่ในภาพรวม การบริโภคมีแนวโน้มลดลงมากกว่า ทั้งนี้หากช่วงเวลาที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปตามความกังวลต่อธุรกรรมในลักษณะ face-to-face และจากมาตรการปิดเมือง มีระยะเวลา 1 เดือน การบริโภคภาคเอกชนจะลดลงและทำให้ GDP ไทยปี 2020 หายไปประมาณ -0.6 percentage point

มาตรการภาครัฐจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการประคับประคองเศรษฐกิจและลดผลกระทบต่อแรงงานและภาคธุรกิจ มาตรการที่ได้จัดทำไปในช่วงก่อนหน้า ทั้งนโยบายการคลังและนโยบายการเงิน ส่วนใหญ่มุ่งเน้นในการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ที่ถูกกระทบ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการลดภาษี มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การพักหนี้และปรับโครงสร้างหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน อย่างไรก็ดี EIC เชื่อว่า ในระยะต่อไป ภาครัฐจะเร่งดำเนินการออกมาตรการการคลังเพื่อชดเชยรายได้ให้กับแรงงานและผู้ประกอบการที่ตกงานหรือสูญเสียรายได้จาก COVID-19 ทั้งในส่วนการโอนเงินให้กับผู้ถูกกระทบจำนวน 3 ล้านคนที่ประกาศไปแล้ว และการเพิ่มวงเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ถูกกระทบได้มากขึ้น ผ่านการออก พรก. กู้เงินฉุกเฉิน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการอัดฉีดเงินให้ถึงมือของผู้เดือดร้อนได้ตรงจุดและประคับประคองเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ EIC ได้ใส่สมมติฐานวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมผ่านการออก พรก. กู้เงินฉุกเฉินจำนวน 200,000 ล้านบาทในการประมาณการเศรษฐกิจรอบนี้แล้วด้วย


Writer: Economic Intelligence Center (EIC)


spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img