Friday, 10 May 2024 | 8 : 07 am

4Quarter.co

Friday, 10 May 2024 | 8 : 07 am
เปิดตัวยิ่งใหญ่ “ศุภาลัย ไอคอน สาทร” มิกซ์ยูสระดับลักซ์ชัวรี่ แลนด์มาร์คใหม่ บนที่ดินผืนงาม ใจกลางสาทร   •   เมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล 2023-2024 Thailand’s Most Admired Company ตอกย้ำบริษัทที่มีภาพลักษณ์น่าเชื่อถือที่สุดในกลุ่มประกันชีวิต   •   กรุงเทพประกันชีวิต เผยผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 67 กำไรสุทธิ 1,241 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64%   •   เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ มอบสินไหมมรณกรรม   •   กรุงศรี แต่งตั้ง ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์   •   ธนชาตประกันภัย ประกาศแนวทางดูแลลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV ขานรับคำสั่งนายทะเบียน คปภ. เริ่มคุ้มครองตามเกณฑ์ใหม่ 1 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป   •   “ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สุขยั่งยืน” เดินหน้าต่อเนื่องปีที่ 6 เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางการค้าแก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน   •   BAM ร่วมกับสภากาชาดไทย มอบบ้าน ในโครงการ HOME & HOPE ปีที่ 4 สร้างบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาส จังหวัดนครราชสีมา   •   ที ไลฟ์ ตอบโจทย์นักลงทุนรุ่นใหม่ ออก “แบบประกันออมทรัพย์ Super Saving 3/1” ออมสั้น 3 ปี จ่ายเบี้ยครั้งเดียว ผลตอบแทนสูง 3.29% ต่อปี แซงหน้าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร   •   เคทีซี แกร่งรับมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัยของข้อมูลบัตรเครดิต (PCI DSS) เป็นสถาบันการเงินรายแรกในเอเชีย แปซิฟิก จากสถาบันมาตรฐานอังกฤษ BSI   •   เลขาธิการ คปภ. กดปุ่มเทคออฟสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย Big Data ประกันภัย   •   การเคหะแห่งชาติ ถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี   •   กรุงศรี เปิดโครงการ Krungsri ESG Awards ต่อเนื่องปีที่ 2 และ Krungsri ESG Academy หนุน SME ไทย สร้างแผนเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืนที่ทำได้จริง   •   กรุงเทพประกันชีวิต จับมือ ธนาคารกรุงเทพ จัดงานขอบคุณลูกค้าให้ความไว้วางใจกว่า 20 ปี   •   ไทยประกันชีวิต มอบเงินสนับสนุนกำลังพลกองทัพบก ประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้   •   เอไอเอ ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน ESG เปิดตัวรถต้นแบบแบ่งปันอาหาร AIA Goodie Foodie Truck มุ่งลดปัญหาขยะล้นโลก   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร ฉลองครบรอบ 75 ปี แจกทอง 75 บาท จับจริง แจกจริง!! ทองคำรูปโอชิ น้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 75 รางวัล ครั้งที่ 1   •   หลักทรัพย์เมย์แบงก์ ชี้หุ้นไทย ตอบรับเชิงบวก จีนฟื้นตัวเร็วกว่าคาด แนะนำหุ้น ‘WHA’ ‘MINT’ ‘ICHI’   •   ทีทีบี เปิดรับสมัคร LEAN for Sustainable Growth รุ่น 19 เสริมแกร่งอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาสู่ความยั่งยืน   •   ออมสิน ยกหนี้เพิ่มอีก 90,000 ราย ช่วยลูกหนี้ NPLs สินเชื่อโควิด 19 ตามนโยบายรัฐเพียง 3 เดือน มีผู้ได้ปลดหนี้แล้วกว่า 720,000 ราย   •   “เคทีซี” ผนึกพันธมิตร ”เอ็น.ซี.ซี.ฯ” มอบสิทธิพิเศษในงาน “Pet Expo Thailand 2024” ย้ำเทรนด์รักสัตว์เลี้ยงเหมือนลูกมาแรง ส่งยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ โตต่อเนื่อง   •   กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต จัดเต็มความสนุก เปิดบ้านต้อนรับเด็กๆ ในกิจกรรม KTAXA Kids Carnival ปี 2   •   ออมสิน ร่วมบันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี   •   เจนเนอราลี่ เปิดบ้าน Procuratie Vecchie อายุกว่า 500 ปี ต้อนรับมูลนิธิ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ เปิดตัวงานศิลปะสู่เวทีโลก ในมหกรรมศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 60 ที่ ณ นครเวนิส   •   ศุภาลัย พรีโม่ รามอินทรา 117 ส่งบ้านแฝด ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันจัดเต็ม ปักหมุดโลเคชั่นฮอต ตอบโจทย์ URBAN LIFESTYLE   •   “กรุงศรี ฟินโนเวต” นำกองทุนฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ เข้าลงทุนใน “Doppio Tech” หนุนการสร้างบุคลากรสายเทค เพื่อให้ประเทศไทยเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาค   •   วิริยะประกันภัย มอบพัดลมติดผนัง มูลนิธิโรงพยาบาลศรีธัญญา   •   บัตรเครดิต กรุงศรี ชวนเที่ยว ช้อปรอบโลกใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศ รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 43,000 บาท   •   เคทีซี ส่งมอบไฟล์หนังสือเรียน ภายใต้โครงการ “พิมพ์ & Prove” เพื่อน้องผู้พิการทางสายตา   •   ไทยประกันชีวิต จ่ายสินไหมฮอตเคลมกรณีเสียชีวิต จากเหตุการณ์พายุฤดูร้อนพัดโกดังถล่มใน จ. ขอนแก่น

คปภ. เปิดเกมรุกต้อนรับตรุษจีน ลุยส่งมอบ “ประกันภัยน่ารู้สู่ประตูบ้านประชาชน”

คปภ. เปิดเกมรุกต้อนรับตรุษจีน ลุยส่งมอบ “ประกันภัยน่ารู้สู่ประตูบ้านประชาชน” นำทัพประกันภัยลงพื้นที่ชุมชนเกาะลัดอีแท่น จังหวัดนครปฐม แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ คปภ. เพื่อชุมชน ปี 6 อย่างคึกคัก เพื่อสร้างความรู้ด้านประกันภัยแก่ชาวชุมชนพร้อมเตือนภัยที่เกิดจากมิจฉาชีพ แก๊ง Call Center และการฉ้อฉลประกันภัยเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ประชาชน

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดโครงการ “คปภ. เพื่อชุมชน ปี 6” เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 ณ ชุมชนเกาะลัดอีแท่น อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยและสิทธิประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ประชาชนในชุมชนต่าง ๆ ของประเทศ ตลอดจนสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าและคุณประโยชน์ของการประกันภัย และสามารถใช้การประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงในชีวิต และทรัพย์สินให้กับตนเองและครอบครัวได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบประกันภัยและระบบการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอุตสาหกรรมประกันภัยในการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศมีความเข้มแข็ง สังคมไทยมั่นคง และเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

ในโอกาสนี้ เลขาธิการ คปภ. ได้กล่าวเปิดโครงการ “คปภ. เพื่อชุมชน ปี 6” ในตอนหนึ่งว่า สำนักงาน คปภ. ได้มีการปรับปรุงและต่อยอดโครงการ “คปภ. เพื่อชุมชน” อย่างต่อเนื่อง เพื่อเติมเต็มความรู้ด้านประกันภัยไปสู่ชุมชน ผ่านกิจกรรมเต็มรูปแบบ อาทิ การส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัยให้เหมาะสมกับบริบทของชุมชนผ่านการเสวนาในหัวข้อ “ประกันภัยน่ารู้สู่ชุมชน” ที่มีการแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างสำนักงาน คปภ. และประชาชนในชุมชน การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยและการระงับข้อพิพาทด้านการประกันภัยโดยผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทผ่าน “Mobile Complaint Unit” หรือศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยเคลื่อนที่ ตลอดจนการเข้าร่วมกิจกรรมฐานความรู้ประกันภัยสู่วิถีชุมชน โดยสร้างการรับรู้จากประสบการณ์จริงในพื้นที่นำมาถ่ายทอดต่อให้กับคนในชุมชนได้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการประกันภัยที่เกิดขึ้น ตลอดจนการเยี่ยมชมวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพของผู้คนในชุมชน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่มีต่ออุตสาหกรรมประกันภัยในการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนของประเทศ และที่เป็นจุดเด่นในการให้ความรู้ด้านประกันภัยกับชาวชุมชนก็คือการเคาะประตูบ้าน เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารจัดการความเสี่ยงและการเกิดภัยของประชาชนรวมไปถึงความต้องการผลิตภัณฑ์ประกันภัยประเภทใหม่ ๆ เพราะสำนักงาน คปภ. เชื่อว่านอกจากจะสร้างความรู้ความเข้าใจกับชุมชนแล้ว การทำความเข้าใจความต้องการของชุมชน จะมีส่วนสำคัญให้สำนักงาน คปภ. พัฒนาและนำเสนอรูปแบบการประกันภัยที่ตรงใจ และตอบโจทย์ประชาชนได้มากที่สุด

เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า ไฮไลท์ของโครงการ คปภ. เพื่อชุมชน ปี 6 ในปีนี้มี 5 ความพิเศษ คือ ความพิเศษแรก มีการบูรณาการโครงการ คปภ. เพื่อชุมชน ให้เชื่อมโยงเข้ากับ โครงการ 1 ภาค 1 ผลิตภัณฑ์ประกันภัย เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัยได้ตรงตามความต้องการในระดับภาค จังหวัด และชุมชนอย่างแท้จริง เช่น ประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกันภัยอ้อยที่จังหวัดอุทัยธานี ประกันภัยโรคจากพยาธิใบไม่ในตับ (มะเร็งท่อน้ำดี) ที่จังหวัดนครพนม ประกันภัยยางพาราที่จังหวัดชุมพร และประกันภัยทุเรียนภูเขาไฟ ที่จังหวัดศรีสะเกษ

ความพิเศษที่สอง สำนักงาน คปภ. ได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมเยียนจังหวัดที่เคยลงพื้นที่ไปแล้วในโครงการ คปภ. เพื่อชุมชน ปี 2 ได้แก่ จังหวัดชุมพร และโครงการ คปภ. เพื่อชุมชน ปี 3 ได้แก่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ เพราะเป็นจังหวัดที่มีความน่าสนใจ และมีชุมชนที่มีความหลากหลาย โดยจังหวัดชุมพรเป็นจังหวัดที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีขีดความสามารถทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นและจะนำมาซึ่งความจำเป็นในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่แม่ฮ่องสอนก็มีความน่าสนใจเพราะเป็นจังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในจังหวัดต่อหัวน้อยที่สุดในภาคเหนือซึ่งประกันภัยก็จะยังมีบทบาทสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่จะเข้าไปช่วยบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนและจังหวัดให้ดีขึ้น

ความพิเศษที่สาม การนำหลักการของสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) มาใช้ในการดำเนินกิจกรรมของโครงการฯ สำนักงาน คปภ. เชื่อว่า นอกเหนือจากการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวแล้ว สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลก็ได้ประยุกต์หลักการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานเช่นกัน และในปีนี้ ชุมชนทั้ง 5 ชุมชนที่ถูกเลือก ล้วนแล้วแต่มีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน มีวิถีชีวิตและผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นที่ตอบโจทย์ในด้านการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environment)

ความพิเศษที่สี่ โครงการ คปภ. เพื่อชุมชนไม่ได้เป็นเพียงการลงพื้นที่รับทราบเรื่องราวของชุมชน และนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละพื้นที่เท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สำนักงาน คปภ. จะได้ร่วมแบ่งปันกลับคืนสู่สังคมหรือการจัดกิจกรรม CSR ในรูปแบบต่าง ๆ โดยสำนักงาน คปภ. ร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัยได้ส่งต่อกำลังใจ ความคุ้มครองและการบริหารความเสี่ยงผ่านกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มให้แก่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเฝ้าระวังป้องกันไฟป่าและลูกจ้างชั่วคราวของอุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกรมธรรม์ที่มีการพัฒนาให้เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบที่เรียกว่า Tailor made

และความพิเศษที่ห้า ในการเสวนาที่จะให้ความรู้แก่ชาวชุมชนในเรื่องประโยชน์และประเภทของประกันภัย ที่เป็นประโยชน์แก่ชาวชุมชนแล้ว ยังจะเพิ่มความรู้เกี่ยวกับภัยของมิจฉาชีพ เช่น แก๊ง Call Center และการฉ้อฉลประกันภัยในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเตือนภัยและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ชาวชุมชน

สำหรับโครงการ คปภ. เพื่อชุมชน ปี 6 มีกำหนดลงพื้นที่ชุมชน จำนวน 5 ชุมชน คือ ครั้งที่ 1 (วันที่ 30 มกราคม 2566) ลงพื้นที่ชุมชนบ้านสันติชล อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นชุมชนไทยใหญ่และชุมชนชาวจีนยูนานที่ย้าย ถิ่นฐานจากจีนแผ่นดินใหญ่มาตั้งรกรากยังอำเภอปาย โดยในอดีตเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดรายใหญ่ แต่ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ครั้งที่ 2 (วันที่ 20 – 21 กุมภาพันธ์ 2566) ลงพื้นที่ชุมชนผ้าทอลายโบราณบ้านผาทั่ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งชุมชนแห่งนี้สืบทอดภูมิปัญญามานานกว่า 300 ปี จึงตั้งเป็น “ศูนย์ผ้าทอลายโบราณบ้านผาทั่ง” เพื่อเผยแพร่วิถีและวัฒนธรรมผ่านผืนผ้าของชาวลาวครั่งและลาวเวียง จากรุ่นสู่รุ่น ครั้งที่ 3 (วันที่ 13 – 14 มีนาคม 2566) ลงพื้นที่ชุมชนภูไท อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม เป็นชุมชนที่มีความผูกพัน กับธรรมชาติ ส่วนมากจะประกอบอาชีพทำนาปลูกข้าว นอกจากนี้ประชากรในพื้นที่จัดตั้งกลุ่มเพื่อหารายได้เสริม จากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น กลุ่มอาชีพทอผ้าพื้นเมือง กลุ่มอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า สินค้าที่ขึ้นชื่อ คือ ข้าวปุ้นน้ำนัว เหล้าอุ ผ้าพื้นเมือง เป็นต้น

ครั้งที่ 4 (วันที่ 26 – 28 มีนาคม 2566) ลงพื้นที่ชุมชนบ้านถ้ำสิงห์ อำเมือง จังหวัดชุมพร ซึ่งชุมชนแห่งนี้มีแหล่งน้ำสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูก พื้นที่เป็นแหล่งผลิตพืชสวนที่มีชื่อเสียงของจังหวัด โดยเฉพาะกาแฟที่ดำเนินการในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน และยางพารา รวมทั้งไม้ผลอื่น ๆ เช่น ทุเรียน มังคุด ลองกอง เงาะ เป็นต้น และครั้งที่ 5 (วันที่ 25 – 27 มิถุนายน 2566) ลงพื้นที่ชุมชนบ้านซำตารมย์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยชุมชนแห่งนี้มีการเพาะปลูกทางการเกษตรที่สร้างรายได้และผลผลิตให้แก่ชุมชน ซึ่งมีการรวมกลุ่มให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิถี โดยมีการรวมกลุ่มเกษตรกรในชุมชน โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “กลุ่มผู้ผลิตทุเรียนคุณภาพดี บ้านซำตารมย์”

“สำนักงาน คปภ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า “โครงการ คปภ. เพื่อชุมชน ปี 6” จะทำให้ประชาชนในชุมชนต่าง ๆ ของประเทศ ได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัย เกิดการตื่นตัว และได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับ ประกันภัย ได้รับภูมิคุ้มกันด้านประกันภัย และสามารถใช้การประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงในชีวิต และทรัพย์สินให้กับตนเองและครอบครัว ได้อย่างเหมาะสมกับบริบทของชุมชนมากยิ่งขึ้น และช่วยทำให้การบริหาร ความเสี่ยงของชาวชุมชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย