Thursday, 25 April 2024 | 1 : 54 pm

4Quarter.co

Thursday, 25 April 2024 | 1 : 54 pm
“สำนักงาน คปภ. – ภาคธุรกิจประกันภัย” เตรียมความพร้อมรองรับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 เรื่อง สัญญาประกันภัย (TFRS 17)   •   สมัครบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า รูดช้อปรับคุ้ม! รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%   •   เอไอเอ ประเทศไทย สนับสนุนกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุฟรี แก่เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ร่วมโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2   •   ทิพยประกันภัย คว้าสุดยอด 2 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ รางวัลผู้บริหารองค์กรดีเด่นแห่งปี และรางวัลบริษัทประกันภัยที่ส่งเสริมความยั่งยืนด้านการพัฒนาสังคมยอดเยี่ยม   •   ศุภาลัย ผนึก ทีโอเอ ปั้นนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว ผุดโปรเจกต์ยักษ์ ‘ฝ้ายิปซัม & สีรักษ์โลก’ เดินหน้าสู่องค์กร Zero Waste อย่างยั่งยืน   •   ออมสิน รับรางวัลองค์กรแห่งความยั่งยืนเพื่อสังคม   •   ธ.ก.ส. จับรางวัลชำระดีมีโชค ครั้งที่ 2 มอบโชคอีกกว่า 208 ล้านบาท ส่งเสริมแนวทางลดภาระหนี้อย่างยั่งยืน   •   ทีทีบี เสริมศักยภาพเอสเอ็มอี ด้วยฟีเจอร์ใหม่ “analytic report” ภายใต้แอปพลิเคชันจัดการร้านค้า ttb smart shop วิเคราะห์ข้อมูลการขายเชิงลึก ครบทุกมิติ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย   •   เมืองไทยประกันชีวิต รับรางวัลสุดยอดองค์กรธุรกิจไทย “THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024” ต่อเนื่องปีที่ 6   •   “อารีเกเตอร์” จับมือ มูลนิธิเมาไม่ขับ รณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย 2567 ชวนสมาชิกส่งมอบประกันอุบัติเหตุให้ประชาชน   •   ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 2567   •   เคทีซี สานต่อโครงการรับนักศึกษาฝึกงาน KTC COOP รุ่นที่ 4 มุ่งพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้พร้อมสู่โลกการทำงาน   •   กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต จับมือพันธมิตรภาครัฐ และเอกชน สานต่อกิจกรรมใหญ่ “Save Our Sea ปีที่ 2” ย้ำนโยบายหลักด้าน Climate Change & Biodiversity   •   กสิกรไทย ผนึกกำลังเจพีมอร์แกน เปิดตัวโปรเจกต์คารินา ดึงศักยภาพบล็อกเชน ลดระยะเวลาธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ   •   SPALI ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 1.45 บาท   •   วิริยะประกันภัย ผนึกกำลังหน่วยงานภาครัฐ แก้ไขจุดเสี่ยงเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน โซนภาคอีสาน   •   ซีพีแรม ทุกแห่งทั่วประเทศ ขานรับนโยบายเครือเจริญโภคภัณฑ์ ชู CPRAM Green Life #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน เป็นปีที่ 11 หวังเพิ่มพื้นที่สีเขียวบนผืนแผ่นดินไทย   •   อลิอันซ์ อยุธยา เฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 73 เคียงข้างคนไทย   •   เคทีซี จับมือ คาเธ่ย์ ปลูกต้นไม้ในป่าชายเลน 4,000 ต้น ต่อยอดโครงการ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น”   •   บัตรเครดิต ttb ชวนมาอิ่มคุ้ม กิน 1,000.- ลด 100.- ในแคมเปญ Tasty Asian กับ 9 ร้านดังสไตล์เอเชียน   •   “centralwOrld Summer 2024 Trunk Show The List” ปรากฏการณ์แฟชั่นโชว์รูปแบบใหม่ เปลี่ยนศูนย์การค้าเป็นรันเวย์ อัพเดทเทรนด์แฟชั่นปรับลุครับซัมเมอร์   •   กรุงศรี คอนซูมเมอร์ คว้า 6 รางวัลใหญ่ จากงาน Retail Banker International Asia Trailblazer Awards 2024   •   กรุงเทพประกันชีวิต ใส่ใจพัฒนาสิทธิประโยชน์ใหม่ 5 ด้าน ยกระดับความสุขทั้งไลฟ์สไตล์ และ สุขภาพผ่านบีแอลเอ แฮปปี้ไลฟ์ คลับ   •   BAM จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567   •   ผถห.TQR โหวตจ่ายปันผลปี 66 อีก 0.226 บ./หุ้น รวมทั้งปี 0.40 บ./หุ้น ลุยพัฒนาโปรดักส์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่เต็มสปีด เดินหน้าเจรจาดีล M&A หนุนผลงานนิวไฮต่อเนื่อง   •   บอร์ดการเคหะแห่งชาติลงพื้นที่เคหะชุมชนดินแดง 2 กำชับให้การเคหะแห่งชาติเร่งแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยโดยบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่   •   FWD ประกันชีวิต จัดฟรีคอนเสิร์ตใหญ่เล่นน้ำกลางเมือง “FWD Music Live Fest 3 #TimeToPlaySongkran” ฉลองวันไหลสงกรานต์ครั้งแรกในกรุงเทพฯ ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์   •   เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ประกาศปรับผังองค์กรครั้งใหญ่ มุ่งสู่กลุ่มธุรกิจประกันภัยและบริหารสินทรัพย์แบบครบวงจร   •   เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ รุ่นปี 2567 เพิ่มความเข้มข้นในทุกมิติ มุ่งสร้างการเรียนรู้การทำธุรกิจเสมือนจริง   •   เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับ ไอคอนสยาม จัดกิจกรรม “เมืองไทย Smile Exclusive Dining on Pruek Cruise” สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ

กรุงศรี มุ่งสู่อาเซียน เน้นความยั่งยืนพร้อมต่อยอดด้านนวัตกรรม เป้าหลักการดำเนินธุรกิจปี 2566

กรุงเทพฯ (2 กุมภาพันธ์ 2566) – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ประกาศแผนธุรกิจประจำปี 2566 เน้นให้ความสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน ทั้งในองค์กรตลอดจนพันธมิตรและลูกค้า โดยปีนี้เป็นปีสุดท้ายของแผนธุรกิจระยะกลางฉบับปัจจุบันปี 2564 – 2566 ที่กรุงศรีมุ่งมั่นเดินหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายสู่การเป็น “สถาบันการเงินไทยที่เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า พร้อมเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน” ผ่านกลยุทธ์สามด้าน ได้แก่ การดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียน (ASEAN-Linked Business) ผ่านนวัตกรรมบริการด้านการเงิน การดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนตามโมเดล ESG (ESG-Linked Business) เพื่อเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศไทยรวมถึงการเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจการเงินเพื่อความยั่งยืน และการพัฒนาด้านดิจิทัลและนวัตกรรม (Digital & Innovation) ด้วยการเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลเพื่อประโยชน์ต่อลูกค้าทั้งในประเทศไทยและอาเซียน

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า “ขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ปีสุดท้ายของแผนธุรกิจระยะกลางฉบับปัจจุบัน เมื่อมองย้อนกลับไปจะเห็นถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นมากมาย อย่างเช่นเรื่องของการเชื่อมโยงโครงข่ายในอาเซียนสู่ตลาดหลัก ๆ ในภูมิภาค การเติบโตอย่างแข็งแกร่งแม้ในช่วงท้าทายของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความยืดหยุ่นในการปรับตัว และพัฒนาการที่สำคัญสู่เป้าหมายด้าน ESG สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นระหว่างปี 2564-2565 ที่เราเชื่อมั่นว่าจะเป็นฐานรากที่แข็งแกร่งให้กรุงศรีสามารถเดินหน้าสู่อนาคตที่ยั่งยืนเพื่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และในปีนี้จะเป็นปีที่ทุกคนจะได้เห็นการยกระดับตำแหน่งของกรุงศรีในอาเซียน ในการดำเนินธุรกิจบนแนวทาง ESG และในการต่อยอดความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อการเติบโตของธุรกิจ”

ความสำเร็จในปี 2564-2565
ขณะที่ประเทศไทยเริ่มฟื้นตัวจากการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก กรุงศรียังคงยึดมั่นให้การดูแลช่วยเหลือในเชิงรุกแก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ และยังคงมีลูกค้าที่อยู่ภายใต้มาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ คิดเป็นเงินให้สินเชื่อคงเหลือกว่า 150,000 ล้านบาท และอีกกว่า 16,000 ล้านบาทในรูปของโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) และสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ อีกทั้งกรุงศรียังมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดสินเชื่อรวมเติบโตเพิ่มขึ้น 3.1% และความสามารถในการทำกำไร (NIM) ที่ 3.45%

ในช่วงสองปีแรกของแผนธุรกิจระยะกลางฉบับปัจจุบัน กรุงศรีได้ยกระดับโครงข่ายอาเซียนอย่างแข็งแกร่งด้วยการขยายกิจการในต่างประเทศทั้งในประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ขณะที่ธุรกิจในประเทศกัมพูชา และสปป.ลาว ก็ยังสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ดี ส่งผลให้กรุงศรีสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 150,000 ราย ผ่านการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) และการร่วมเป็นพันธมิตร (Partnership)

นอกจากนี้ กรุงศรียังได้ขยายกิจการไปทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือทางธุรกิจกับ SB Finance ประเทศฟิลิปปินส์ และ SHB Finance ในประเทศเวียดนาม ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาโครงข่ายเชื่อมโยงในประเทศอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง สถานะของ Hattha Bank ในประเทศกัมพูชาเองก็มีการยกระดับขึ้นสู่การเป็นธนาคารพาณิชย์ ในด้านภาพรวมผลประกอบการ กรุงศรีมีรายได้สุทธิจากการดำเนินธุรกิจในอาเซียนเพิ่มขึ้นจาก 3% ในปี 2563 เป็น 6% ในปี 2565

ในฐานะที่เป็นผู้นำในธุรกิจการเงินเพื่อความยั่งยืน กรุงศรีเดินหน้าต่อยอดเพื่อบรรลุพันธกิจด้าน ESG พร้อมวิสัยทัศน์ด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยโครงการต่าง ๆ ที่กรุงศรีริเริ่มและประสบความสำเร็จระหว่างปี ประกอบไปด้วย โครงการ Krungsri x SET ‘Care the Whale’ โครงการ Zero Food Waste และเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ RE100 Thailand Club หรือสมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย

การยกระดับฐานะของกรุงศรีในภูมิภาคอาเซียน
ต่อยอดจากรากฐานที่มั่นคงในภูมิภาคอาเซียน ในปี 2566 กรุงศรีตั้งเป้าที่จะผนึกกำลังธุรกิจต่าง ๆ ในอาเซียนภายใต้กลยุทธ์ One Krungsri เพื่อสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าในประเทศไทยและอาเซียน ด้วยเป้าหมายดังกล่าวจะทำให้เกิดบริการทางการเงินที่สำคัญ อาทิ บริการโอนเงิน การลงทุนในต่างประเทศ บริการที่ปรึกษา และบริการอื่น ๆ อย่างบัตรเครดิตที่จะเข้าถึงผู้ใช้มากขึ้นด้วยการนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ธนาคารยังมุ่งขับเคลื่อนเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายในการสร้างรายได้สุทธิจากการดำเนินธุรกิจในอาเซียนให้เป็น 10%

ยกระดับสถานะของกรุงศรีในด้านความยั่งยืน (ESG)
ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย กรุงศรีประกาศเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการดำเนินงานของธนาคารภายในปี 2573 โดยธนาคารจะยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อบรรลุเป้าหมายด้าน ESG ในปี 2566 นี้ด้วยการสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนผ่านและดำเนินงานตามแนวทาง ESG ผ่านหลากหลายโครงการสำหรับลูกค้าธุรกิจและรายย่อย ในส่วนของภาคธุรกิจ ยังรวมถึงการให้เงินสนับสนุนกับโครงการที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงาน เช่น หลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ จุดชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และพลังงานทดแทน อีกทั้งสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนและหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน สินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสีเขียว ธุรกิจเพื่อสังคม และธุรกิจเพื่อความยั่งยืนก็เป็นสิ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ ในส่วนของรายย่อย การให้สินเชื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า การให้สินเชื่อที่รับผิดชอบต่อสังคม และกองทุนที่เกี่ยวข้องกับ ESG จะได้รับการเสนอให้กับลูกค้า ภายใต้การประกาศวิสัยทัศน์ด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนของกรุงศรี ธนาคารมีเป้าหมายจะเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืนเป็น 50,000 – 100,000 ล้านบาทภายในปี 2573

สร้างการเติบโตทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมการลงทุนต่อเนื่องในโครงการพัฒนาด้านดิจิทัลและนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จของกรุงศรีจะทำให้ธนาคารเพิ่มการสนับสนุนความเชื่อมโยงอาเซียนในวงกว้างผ่านการส่งเสริมการชำระและการโอนเงินข้ามประเทศ โดยในประเทศไทยได้มีการเปิดโครงการนำร่องสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาลกลาง (CBDC) ภาคประชาชนและภาคธุรกิจที่จะเปลี่ยนอนาคตของการชำระเงินดิจิทัล ด้วยความเชี่ยวชาญและความพร้อมจึงทำให้กรุงศรีเป็นหนึ่งในสองธนาคารพาณิชย์ของไทยที่ได้รับเลือกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยในการเข้าร่วมโครงการนำร่องสกุลเงินดิจิทัลภาคประชาชนที่ออกโดยรัฐบาลกลาง ทั้งนี้ ประสบการณ์ของลูกค้ายังถือเป็นสิ่งสำคัญสุดสำหรับการพัฒนานวัตกรรม กรุงศรีมีเป้าหมายที่จะเชื่อมโยงแอปบนมือถือที่มีไม่ว่าจะเป็น KMA-Krungsri Mobile App, UCHOOSE และ GO เพื่อช่วยให้ผู้ใช้มีชีวิตที่ง่ายยิ่งขึ้น นับเป็นส่วนหนึ่งของโร้ดแมปแผนงานพัฒนาระยะยาวเพื่อสนับสนุนอนาคตของการธนาคารและการปรับพัฒนาด้านความปลอดภัยของแอปและดิจิทัลแบงก์กิ้งอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัย

เพื่อเป็นการดึงดูดผู้มีความสามารถ (Talent) และขับเคลื่อนการพัฒนาภูมิทัศน์ดิจิทัลของประเทศไทยที่สอดรับกับเป้าหมายด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ กรุงศรีได้ลงทุนสร้างออฟฟิศที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่เพื่อดึงดูดทีมงานที่มีศักยภาพสูงด้านไอที อีกทั้งการขยายธุรกิจในอาเซียนยังเป็นการเปิดโอกาสให้ธนาคารได้เข้าถึงบุคลากรมากความสามารถ โดยกรุงศรีได้เปิด Innovation Hub ศูนย์กลางนวัตกรรมสร้างสรรค์ชุมชนสายเทคนำร่องในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้าถึงกลุ่มบุคลากรมากความสามารถในสายเทคและสร้างพื้นที่เปิดให้คนได้มาแบ่งปันไอเดียและได้รับโอกาสทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของกรุงศรี

“ปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทายจากการที่ประเทศเศรษฐกิจหลักกำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ผลจากการเปิดประเทศของจีนที่ยังคงไม่ชัดเจนนัก แต่อุปสงค์ในภาคบริการน่าจะเติบโตเร็วขึ้นกว่าอุปสงค์ต่อสินค้า การเติบโตของเศรษฐกิจในอาเซียนชะลอตัวลงอยู่ที่ 4.9% ในปี 2566 จาก 5.3% ในปี 2565 แต่ยังคงเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุด นอกจากประเทศไทยแล้ว ประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียมีการเติบโตที่ดี โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากอุปสงค์ภายในประเทศและการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมทั้งข้อตกลงการค้าเสรีที่รวมถึง RCEP และเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ที่ไหลเข้ามา ด้วยกลยุทธ์ของกรุงศรี เราหวังที่จะก้าวข้ามความท้าทายเหล่านี้ไปได้ และจะอาศัยข้อได้เปรียบจากโอกาสต่าง ๆ ที่มีในอาเซียนโดยการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป และเสนอโซลูชันที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายย่อยทั่วภูมิภาค” นายอาคิตะ กล่าวเสริม

กรุงศรีคาดว่าในปี 2566 เงินให้สินเชื่อจะเติบโตที่ 3-5% และตั้งเป้าหมายของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.5% ซึ่งคาดว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non-Interest Income) จะยังอยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา และอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ราว 2.5-2.6%